Wednesday, May 31, 2017

Aloha Browser เพิ่มฟีเจอร์การชม VR ในรูปแบบเนทีฟ


*photo credit: https://www.multivu.com/players/uk/8107551-aloha-browser-integrates-native-vr-player/ 


          Aloha เบราว์เซอร์มือถือยอดนิยม ผสานฟีเจอร์เล่นคอนเทนท์ VR แบบเนทีฟ ตอบโจทย์ความบันเทิงของผู้ใช้ได้อย่างลงตัว

          เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน หรือ Virtual Reality ได้กลายเป็นสิ่งที่พบเห็นได้จริงในชีวิตประจำวัน ในปัจจุบัน มีคอนเทนท์จำนวนมากขึ้นที่ถ่ายทำด้วยกล้อง 360 หรือกล้อง VR อย่างไรก็ตาม ผู้ใช้ยังมีข้อจำกัดอยู่มากในการรับชมคอนเทนท์ VR บนมือถือ ข้อแรก การชมคอนเทนท์ประเภทนี้ต้องอาศัยแอพพิเศษ หรือต้องใช้งานหลายแอพร่วมกัน เนื่องจากคอนเทนท์มีความแตกต่างกัน นอกจากนี้ เราอาจต้องใช้ทักษะที่สูงขึ้นเพื่อเปิดวีดีโอที่ถ่ายทอดแบบสตรีมในแอพอื่นๆ ข้อสอง หากผู้ใช้ดูคอนเทนท์ที่ถ่ายทอดสดแบบสตรีมในขณะที่ระบบเชื่อมต่อไม่เสถียรแล้ว ก็อาจส่งผลต่อคุณภาพของภาพ ทำให้วิดีโอค้างหรือดีเลย์ จนทำให้เสียอรรถรสในการรับชมคอนเทนท์ VR

          Aloha Browser ตัดสินใจเพิ่มฟีเจอร์เล่น VR ลงในเบราว์เซอร์เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงคอนเทนท์ VR ทั้งหมดบนเว็บไซต์ พ่วงด้วยฟีเจอร์ตัวช่วยดาวน์โหลดที่ทรงประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเซฟคอนเทนท์ VR และเปิดดูได้โดยไม่มีสิ่งกวนใจ เพื่ออรรถรสการชมที่ดีที่สุด นอกจากนี้ยังมีโหมดโรงภาพยนตร์ที่สามารถเปิดดูวิดีโอธรรมดาในแบบ VR ได้โดยการใช้ headset โดยโหมดภาพยนตร์นี้จะทำให้คุณเพลิดเพลินไปกับหนังเรื่องโปรดขณะนั่งอยู่ในห้องเสมือนจริง

          นับจากนี้ไป อุปกรณ์ระดับบนที่ใช้โค้ดเนทีฟประสิทธิภาพสูง จะไม่ใช่สิ่งจำเป็นสำหรับการรับชมคอนเทนท์ Virtual Reality อีกต่อไป เนื่องจากแค่มีแอพ Aloha Browser สมาร์ทโฟนระดับกลางพร้อมระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ หรือ ไอโอเอส และ Cardboard หรือ headset ที่วางจำหน่ายตามท้องตลาด ก็สามารถเพลิดเพลินไปกับคอนเทนท์ VR ได้

          Aloha Browser ซึ่งรองรับ VR เปิดให้ดาวน์โหลดฟรีแล้ววันนี้ที่ App Store และ Google Play

Aloha Browser Integrates Native VR Player

          Popular mobile browser Aloha integrates native VR player right into the browser for your entertainment needs.

          Virtual reality is now an everyday reality, with content increasingly being filmed with 360 or VR cameras. However, for users seeking to watch content on their mobile phone it can pose a challenge. Firstly a specific app is required, or even multiple apps, due to their different content. It may also require advanced skills in order to be able to open streamed videos in other apps. Secondly, if you watch streamed content through an unstable mobile connection it may affect the quality of the picture, causing delays or freezes in the video, which make for a frustrating VR experience.

          To view the Multimedia News Release, please click:
          https://www.multivu.com/players/uk/8107551-aloha-browser-integrates-native-vr-player

          Aloha Browser has decided to integrate a VR player right into the browser to enable users to have access to all VR content available on the web. The browser is combined with a powerful downloader, which allows the user to save VR content offline and watch it without any distractions, for the best viewing experience. There is also a 'theatre mode', for playing regular videos in VR mode, using the headset. Theatre mode lets you enjoy your favourite movies while seated in a virtual room.

          Due to highly optimized native code high-end device is not required to enjoy virtual reality. All that's needed is the Aloha Browser app; a mid-level smartphone running Android or iOS and a Cardboard or any other mobile headset offered on the market.

          Aloha Browser with VR support is available now for free in App Store and Google Play.

Dubuc Motors เตรียมผลิตรถสปอร์ตไฟฟ้า Tomahawk ในปี 2561

ส่องสเปคซูเปอร์คาร์ ปลดปล่อยที่สุดแห่งความเร็วระดับโลก!
          - 800 แรงม้า
          - แรงบิด 1000 ฟุต-ปอนด์
          - เร่งความเร็ว 0-60 ไมล์/ชั่วโมง ภายใน 2 วินาทีในโหมดแข่ง, 4 วินาทีในโหมดถนนปกติ
          - แรง G ขนาด 1.2 เมื่อเข้าโค้ง
          - แบตเตอรีลิเธียมไอออนความจุ 100 kWh
          - ระยะขับเคลื่อน 370 ไมล์
          - ตัวถังคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา
          - โครงคาร์บอนไฟเบอร์น้ำหนักเบา
          - ขับเคลื่อน 4 ล้อ
          - มอเตอร์ไฟฟ้า 4 ตัว
          - 2+2 ที่นั่ง
          - เบาะรถแข่งหุ้มหนังทั้ง 4 ที่นั่ง
          - ตกแต่งด้วยหนังและคาร์บอนไฟเบอร์
          - คอมพิวเตอร์ออนบอร์ด
          - กล้องจับภาพ 360 องศา
          - ช่องเก็บของด้านหน้าและหลัง
          - เทคโนโลยีความปลอดภัยแบบแอคทีฟ
          - ระบบป้องกันการชนและเบรคฉุกเฉินแบบอัตโนมัติ
          - กระจายน้ำหนักเท่ากันที่ 50% ในส่วนหน้า และ 50% ที่ส่วนหลัง
          - ความยาว 188 นิ้ว
          - ระยะฐานล้อ 110 นิ้ว
          - ความกว้าง 80 นิ้ว
          - ความสูง 47.5 นิ้ว


          ด้วยดีไซน์ตัวรถที่กว้างและดุดันโฉบเฉี่ยว พร้อมอัตราเร่ง 0-60 ไมล์ภายใน 2 วินาที ทำให้ Tomahawk กลายเป็นหนึ่งในรถยนต์ที่เร็วที่สุดในโลก โดยบริษัท Dubuc Motors ซึ่งเตรียมนำรถยนต์สปอร์ตสุดระห่ำรุ่นนี้ออกสู่ตลาด ได้เปิดเผยสเปคของตัวรถให้ได้เห็นกันแล้วในวันนี้ ก่อนเดินเครื่องผลิตในปี 2561 ที่จำนวนหลักพันคันเพื่อเจาะตลาดรถยนต์หรูโดยเฉพาะ


          รถรุ่นผลิตจริงนี้ยังคงรักษาเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์ที่ผ่านการขัดเกลาอย่างละเอียดประณีตของตัวต้นแบบเอาไว้อย่างครบถ้วน เพื่อทำให้รถรุ่นนี้โดดเด่นน่าจดจำ ด้วยการเร่งความเร็วที่น่าทึ่ง ตอบโจทย์การเดินทางประจำวัน ตัวถังและโครงรถทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ พร้อมประตูปีกนกที่ช่วยขับลุคสุดแหวกแนวด้านนอก ส่วนภายในห้องโดยสารตกแต่งด้วยดีไซน์โฉบเฉี่ยว มอบสัมผัสอันหรูหราที่มาพร้อมความสะดวกสบายและการเชื่อมต่อต่างๆ พิเศษด้วยที่นั่งคู่เสริมพิเศษหนึ่งแถว เพื่อมอบประสบการณ์การเดินทางที่น่าอภิรมย์


          Mike Kakogiannakis ผู้ร่วมก่อตั้ง Dubuc Motors กล่าวว่า "เรากำลังผลักดันสิ่งที่น่าจะเป็นไปได้ในอุตสาหกรรมยานยนต์ให้เป็นจริงได้ เพื่อทำให้ลูกค้ารู้สึกทึ่งทุกครั้งที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัย" สำหรับเครื่องยนต์ 4 ตัวซึ่งทำให้รถยนต์รุ่นนี้วิ่งได้เร็วสุดพลังนั้น ทำงานเป็นอิสระจากกันโดยประกบคู่กับล้อแต่ละวงเพื่อให้แรงฉุดลากสมดุล ผู้ขับขี่จึงสามารถเลือกขับในโหมดแข่งขันหรือโหมดท้องถนนได้ดังใจ ถือเป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งหนุ่มโสดและครอบครัวยุคใหม่


          ทั้งนี้ บริษัทอยู่ในระหว่างการระดมทุนด้วยการเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) โดยปัจจุบันมีนักลงทุนหลายร้อยรายให้การสนับสนุนการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของบริษัท ขณะที่ยังคงเปิดโอกาสให้ผู้คนทั่วโลกร่วมสมทบทุนผ่านทางเว็บไซต์ของบริษัท [ https://dubucmotors.com ] หรือที่ Start Engine [ https://www.startengine.com/startup/dubuc-motors ] ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มจัดการระดมทุนภายใต้กฎเกณฑ์ Reg A+
          สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือร่วมสมทบทุนในโครงการระดมทุนดังกล่าว กรุณาเข้าไปที่เว็บไซต์ www.dubucmotors.com


          ข้อยกเว้นความรับผิด:

          หนังสือชี้ชวนเกี่ยวกับการเสนอขายหลักทรัพย์นี้ได้ถูกยื่นต่อ SEC ซึ่งกำหนดว่า Dubuc Motors อาจทำการขายหลักทรัพย์ที่มีการอธิบายในหนังสือชี้ชวนได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า SEC ได้อนุมัติ หรือมีมติรับรองความน่าเชื่อถือ ความถูกต้องแม่นยำ หรือความสมบูรณ์ของข้อมูลในหนังสือชี้ชวน ผู้อ่านอาจขอรับสำเนาหนังสือชี้ชวน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเสนอขายหลักทรัพย์ดังกล่าว ได้จาก: https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1688361/000168836117000008/dubform1a-02212017.htm 
          ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ไม่ใช่การเสนอให้ขาย หรือการชักชวนให้เสนอซื้อ และจะไม่มีการขายหลักทรัพย์ในรัฐหรือเขตอำนาจใดๆ ก็ตาม ที่การเสนอ การชักชวน หรือการขายหลักทรัพย์ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย ก่อนที่จะมีการจดทะเบียนหรือกำหนดคุณสมบัติหลักทรัพย์ ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ของรัฐหรือเขตอำนาจนั้น ผู้อ่านควรอ่านหนังสือชี้ชวนก่อนตัดสินใจลงทุน
          ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต:
          ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคต ซึ่งได้แก่ แต่ไม่จำกัดเพียง ข้อความเกี่ยวกับแผนงานและการวางแผนของ Dubuc Motors ผู้อ่านไม่ควรยึดถือข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคตว่าเป็นการทำนายเหตุการณ์ในอนาคต ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคตเหล่านี้ตั้งอยู่บนความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐานหลายประการ ดังที่มีการอธิบายอย่างละเอียดในหนังสื่อชี้ชวน สืบเนื่องจากความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และข้อสันนิษฐานดังกล่าว เหตุการณ์และสถานการณ์ที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคต ตามที่กล่าวถึงในข่าวเผยแพร่ฉบับนี้ จึงอาจไม่เกิดขึ้น และผลที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างออกไปอย่างมากและเป็นไปในทางตรงกันข้ามกับที่คาดการณ์หรือแสดงนัยในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต
          ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม: Mike Kakogiannakis, media@dubucmotors.com , 514-264-1359

Tomahawk electric car set for 2018 production

          Contender for fastest supercar in the world, sneak peek of the wrath unleashed!
          - 800 Horsepower
          - 1000 Pounds-feet of torque
          - 0-60 mph in 2 seconds when in Race Mode, 4 seconds in Street mode
          - 1.2 G-force in cornering
          - 100 kWh, lithium-ion battery
          - 370 Mile range
          - Lightweight Carbon Fiber Body
          - Lightweight Carbon Fiber Chassis
          - All-wheel drive
          - Four electric motors
          - 2+2 seating
          - Four leather racing seats
          - Leather and carbon fiber surfaces
          - Onboard computer
          - Live 360 degree camera
          - Front and rear cargo area
          - Active safety technologies
          - Collision avoidance and automatic emergency braking
          - Even weight distribution of 50% in the front and 50% at the rear
          - Length 188"
          - Wheelbase 110"
          - Width 80"
          - Height 47,5"
          The Tomahawk's wide body design and sharp aggressive lines commands power with an impressive 0-60 in 2 seconds, making it one of the fastest cars in the world. Dubuc Motors, the company bringing this insane sports car to market announced today a glimpse of the specifications for its new 2018 model which will be produced in the thousands of units appropriately intended for a niche market within the luxury segment.
          With a host of innovative technologies and a refined look from its prototype, the production model will be a force to be reckoned with as much for its breathtaking acceleration as for its convenience for daily commuting. A carbon fiber body and chassis dress the Tomahawk while the scissor doors invigorate its exotic look on the outside, the opulence of the interior invites comfort and connectivity in a sleek cabin along with an extra row of seats to appreciate the experience.
          "We are pushing the envelope in terms of what is possible in the automotive industry to create a wow experience for our customers every time they get behind the wheel" says co founder Mike Kakogiannakis. The four motors supplying demented acceleration are independently coupled to each wheel for a balanced traction that can be used in either race or street mode depending on the senses evoked, promising an appealing alternative for bachelors and modern families alike.
          The company has an ongoing crowdfunding IPO underway and have already welcomed hundreds of investors in support of their product launch. This opportunity is open to everybody internationally through their website [ https://dubucmotors.com/ ] or Start Engine [ https://www.startengine.com/startup/dubuc-motors ] , the platform hosting their Reg A+ offering.
          For more information or to commit funding on the equity crowdfunding campaign, please visit www.dubucmotors.com
          Regulation A Disclaimer:
          An offering statement regarding this offering has been filed with the SEC. The SEC has qualified that offering statement, which only means that Dubuc Motors may make sales of the securities described by the offering statement. It does not mean that the SEC has approved, passed upon the merits or passed upon the accuracy or completeness of the information in the offering statement. You may obtain a copy of the offering circular that is part of that offering statement from: https://www.sec.gov/Archives/edgar/data/1688361/000168836117000008/dubform1a-02212017.htm 

          This press release shall not constitute an offer to sell or the solicitation of an offer to buy nor shall there be any sale of securities in any state or jurisdiction in which such offer, solicitation or sale would be unlawful prior to registration or qualification under the securities laws of any such state or jurisdiction. You should read the offering circular before making any investment.
          Forward Looking Information:
          This press release contains forward-looking statements, which include, but are not limited to, statements concerning Dubuc Motors' plans and projections. You should not rely upon forward-looking statements as predictions of future events. These forward-looking statements are subject to a number of risks, uncertainties and assumptions, as more fully described in the offering circular. In light of such risks, uncertainties and assumptions, the forward-looking events and circumstances discussed in this press release may not occur and actual results could differ materially and adversely from those anticipated or implied in the forward-looking statements.

Exciting Things Are Happening at Resorts World Genting: A Brand New Mall, A Cable Car System with Glass Floors, and the Arrival of International F&B Brand Names Have Added Vibrancy

          Exciting new developments have redefined Resorts World Genting, one of the world's leading resort operators. It is now even more vibrant and multifaceted than ever, adding a new dimension to one's holiday experience.


          Resorts World Genting is an integrated resort in Malaysia that offers visitors enjoyment at 6,000 feet above sea level with cool weather ranging from 14 to 22 degrees.  The resort has annually been welcoming over 20 million visitors from Malaysia and neighboring countries.


          A new gateway, the Awana Transportation Hub houses the new Awana Bus Terminal, helipad and some 4,500 public parking bays. At the Awana Transportation Hub is also where the new cable car system Awana Skyway is located.  The new Awana Skyway is just 2.8km or 10 minutes away from Resorts World Genting. It boasts a top speed of six metres per second with a capacity to transport 3,600 passengers one way every hour. It brings visitors from Awana Station to Chin Swee Temple Station and SkyAvenue station at the peak of the resort.  There are a total of 99 gondolas, of which 10 are installed with glass floors that allow visitors a bird's eye view of the rainforest below and soon the Twentieth Century Fox World Theme Park.


          For accommodation, there are choices of six hotels where visitors can enjoy crisp mountain air and the splendor of 130 million years old tropical forest. In total, the resort has 10,000 rooms with the 3-star 7351 rooms First World Hotel, holding the Guinness World Record as world's largest hotel. Other hotels include luxurious 5-star accommodation at Maxims, Crockfords or the iconic Genting Grand and 4-star accommodation includes Resort Hotel and Awana.


          Recently opened is the brand new SkyAvenue with five-storey of great shopping and dining facilities that is 1.4 million sq ft in size.  The mall consists of 168 retail outlets and 160 brands of which 70 are food and beverage and 98 retail plus six cinemas and a large concourse that is surrounded by three-storey high large LED screens showcasing spectacular multimedia shows.


          A foodie floor is located at level one of SkyAvenue where shoppers can enjoy a paradise of food. F&B outlets include first in the world Cafes Richard from Paris, the first in Asia London-based Burger & Lobster for live lobsters air-flown from Canada, and Malaysia's first Motorino, a Brooklyn-based brand offering authentic Neapolitan-style pizzas.  Then there's the Malaysian Food Street featuring the best Malaysian non-halal hawker dishes. It is the highest food court in Malaysia and one of the biggest with a seating capacity of 1000 people.


          High street fashion with top brands such as Thomas Sabo, Pandora, Body & Works, Adidas, Calvin Klein and many more is congregated on the third floor. Opening soon is the luxury floor on level 2 and more al fresco dining on the top floor.


          Lastly, the most anticipated Twentieth Century Fox World theme park, the first of its kind in the world is set to open soon with attractions based on Fox films such as Alien vs Predator, Night at the Museum, Epic, Ice Age and many more.


          For more information, call +603 6101 1118 or visit www.rwgenting.com .       

          If you have any queries or in need of further clarification, please contact:


          Irene Chua, Assistant Public Relations Manager 603 - 6105 9447
          Nur Darwisyah, Senior Media Relations Executive 603 - 2333 6679


          Photo - https://photos.prnasia.com/prnh/20170505/1844012-1
          Caption - Awana Skyway

JPI ประกาศปิดการระดมทุนสร้าง Jefferson Stadium Park เฟส 2

         ชุมชนแบบอยู่อาศัยรวมประเภท Class A เริ่มการก่อสร้างในย่าน Platinum Triangle เมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย



          JPI ผู้นำการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยแบบรวม (multifamily) ประเภท Class A ได้ประกาศปิดการระดมทุนเพื่อการก่อสร้าง Jefferson Stadium Park เฟส 2 ซึ่งประกอบด้วยอพาร์ทเมนท์หรู 376 หลัง โดย 12 ยูนิตในจำนวนนี้เป็นโฮมออฟฟิศ ชุมชนดังกล่าวตั้งอยู่บนที่ดินทำเลทองขนาด 17.6 เอเคอร์ ในย่าน Platinum Triangle สุดหรูของเมืองอนาไฮม์ รัฐแคลิฟอร์เนีย ติดกับสนาม Angel Stadium of Anaheim ทั้งนี้ Jefferson Stadium Park เป็นโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ระดับมาสเตอร์แพลนที่แบ่งเป็น 3 เฟส โดยเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จจะมีอพาร์ทเมนท์หรู 1,079 หลัง สวนสาธารณะขนาด 1.1 เอเคอร์ และพื้นที่ค้าปลีกขนาด 14,600 ตารางฟุต

          ก่อนหน้านี้ Jefferson Stadium Park เฟส 1 ระดมทุนได้ 128 ล้านดอลลาร์ และล่าสุด Jefferson Stadium Park เฟส 2 ระดมทุนได้ทั้งสิ้น 132 ล้านดอลลาร์ โดยได้รับเงินทุนในการก่อสร้างจากธนาคาร East West Bank ในเมืองพาซาดีนา รัฐแคลิฟอร์เนีย ที่เน้นให้บริการในสหรัฐอเมริกาและจีน รวมถึงธนาคาร First Community Bank ในเมืองซานตาโรซา รัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีสาขา 9 แห่งในย่านอ่าวซานฟรานซิสโก

          ทอดด์ บาวเดน รองประธานอาวุโสของ JPI's Western Region และหุ้นส่วนผู้จัดการด้านการพัฒนา กล่าวว่า "JPI ลงทุนในย่าน Platinum Triangle เพราะเชื่อมั่นว่าเมืองอนาไฮม์สามารถขับเคลื่อนย่านนี้ให้กลายเป็นย่านคนเมืองชั้นนำของออเรนจ์เคาน์ตีในแคลิฟอร์เนียตอนใต้" ปัจจุบัน JPI มีโครงการที่อยู่ระหว่างการพัฒนาในระยะต่างๆ ทั่วย่าน Platinum Triangle อยู่ 4 โครงการ ซึ่งคาดว่าเมื่อแล้วเสร็จจะมีมูลค่ารวมกันกว่า 675 ล้านดอลลาร์ "วิสัยทัศน์ที่เมืองอนาไฮม์มีต่อย่านนี้ ประกอบกับการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ได้สร้างปัจจัยแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาโครงการพื้นที่ใช้สอยอเนกประสงค์ภาคเอกชน ซึ่งสมควรได้รับการลงทุนในระยะยาว"

          ย่าน Platinum Triangle ของเมืองอนาไฮม์ กำลังอยู่ในขั้นตอนของการวางผังเมืองใหม่ที่ใช้เวลานาน 10 ปี ซึ่งคาดว่าจะก่อให้เกิดการลงทุนกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้ ทอม เทต นายกเทศมนตรีเมืองอนาไฮม์ กล่าวว่า "Jefferson Stadium Park สะท้อนภาพความสมบูรณ์แบบที่เราต้องการให้เกิดขึ้นในย่าน Platinum Triangle การลงทุนของ JPI ในย่านนี้ ทั้งที่ Jefferson Stadium Park และ Jefferson Platinum Triangle คิดเป็นเม็ดเงินราว 1 ใน 3 ของเป้าหมายการลงทุนที่ทางเมืองตั้งเป้าไว้"

          ในเดือนมิถุนายน 2559  JPI ได้รับอนุญาตอย่างเป็นเอกฉันท์จากนายกเทศมนตรีและสภาเมืองให้ดำเนินโครงการ จากนั้นในเดือนกันยายน 2559 JPI ได้ประกาศจับมือเป็นพันธมิตรกับ Grand China Fund ซึ่งเป็นกองทุนร่วมลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ของจีน ในการเปิดตัวโครงการร่วมทุนเพื่อพัฒนา Jefferson Stadium Park ทั้งเฟส 1 และเฟส 2 โดยลอรี มาเธอร์ส หัวหน้าฝ่ายจัดหาประจำสหรัฐของ Grand China Fund กล่าวว่า "ในนามของนักลงทุน เราขอขอบคุณ JPI ที่ได้ผลักดันโครงการก่อสร้างให้ก้าวหน้าไปอีกขึ้นหนึ่ง การระดมทุนสำหรับโครงการยักษ์ใหญ่เช่นนี้ถือเป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่ง และเราตั้งตารอที่จะมอบที่พักอาศัยคุณภาพเยี่ยมให้กับชาวเมืองอนาไฮม์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต"

          กัส วิลลาลบา หุ้นส่วนผู้จัดการประจำภูมิภาคของ JPI's Western Division กล่าวว่า "การปิดระดมทุนทั้งเฟส 1 และเฟส 2 ประกอบกับเงินลงทุนจากพาร์ทเนอร์ในจีน ทำให้เรามีความมั่นใจในโครงการใน Platinum Triangle รวมถึงความสามารถในการดึงดูดนักลงทุนรายใหม่จากทั่วโลก"

          ผู้อยู่อาศัยใน Jefferson Stadium Park สามารถเข้าถึงศูนย์กลางการคมนาคมขนส่ง Anaheim's Regional Transportation Intermodal Center (ARTIC) รวมถึงความบันเทิงตลอดทั้งปี อาทิ การแข่งขันของทีมเบสบอล Los Angeles Angels of Anaheim แห่ง Major League Baseball และทีมไอซ์ฮอกกี้ Anaheim Ducks แห่ง National Hockey League นอกจากนี้ โครงการดังกล่าวยังอยู่ห่างจาก Downtown Disney Shopping District ที่มีสวนสนุก Disneyland และ California Adventure เพียงหนึ่งไมล์ และห่างจาก 5 สถานที่ทำงานสำคัญของอนาไฮม์ไม่ถึง 10 ไมล์ ได้แก่ Disneyland Resort, Kaiser Foundation Hospital, Hilton Anaheim, Cash Call Inc., Mortgage Division และ Anaheim Memorial Medical Center

          ชมภาพจำลองโครงการ Jefferson Stadium Park เฟส 2 ได้ที่
          https://www.dropbox.com/sh/jcquwoaflxlw2kl/AABS9GSV5c5qGME0bRL91X9Ca?dl=0

          เกี่ยวกับ JPI's Western Region Division
          JPI's Western Region Division ซึ่งตั้งอยู่ในเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย เป็นผู้พัฒนาชุมชนภายในรัฐแคลิฟอร์เนียรวมกว่า 6,200 หลังคาเรือน นอกจากนั้นยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างในรัฐแอริโซนาอีก 2 โครงการ ได้แก่ Jefferson Town Lake มูลค่า 57 ล้านดอลลาร์ และ Jefferson Chandler มูลค่า 57 ล้านดอลลาร์เช่นเดียวกัน ทั้งนี้ JPI's Western Region Division ตั้งเป้าว่าจะปิดการระดมทุนและเริ่มก่อสร้างโครงการพัฒนาที่อยู่อาศัยแบบรวม (multifamily) โครงการใหม่ ซึ่งมีมูลค่าอย่างน้อย 660 ล้านดอลลาร์ในปี 2560 และ 2561 ซึ่งประกอบด้วยอพาร์ทเมนต์สุดหรูกว่า 1,730 หลัง

          เกี่ยวกับ JPI
          JPI เป็นผู้พัฒนา ผู้สร้าง และผู้จัดการการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ประเภท Class A ในสหรัฐอเมริกา โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ในรัฐเท็กซัส และสำนักงานสาขาในแคลิฟอร์เนีย แอริโซนา และนิวยอร์ก ด้วยความสำเร็จตลอด 30 ปีในการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่สำคัญๆของสหรัฐ ประกอบกับประสบการณ์อันเหนือชั้นในอุตสาหกรรมนี้ JPI จึงเป็นหนึ่งในบริษัทอสังหาริมทรัพย์เอกชนชั้นแนวหน้าของสหรัฐ ทีมผู้บริหารของ JPI มีประสบการณ์เฉลี่ย 25 ปี ในวงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่อาศัยแบบรวม ตั้งแต่อพาร์ทเมนท์พร้อมสวน ที่มีความเป็นส่วนตัวสูง อาคารโลว์ไรส์ที่มีความหนาแน่นปานกลางถึงมาก ที่พักอาศัยสำหรับนักเรียน ไปจนถึงอาคารสูงอเนกประสงค์ นอกจากนี้ บริษัทยังให้บริการบริหารการลงทุน การเตรียมความพร้อมก่อนดำเนินโครงการ การรับประกัน การตลาด และการบริหารจัดการสินทรัพย์ ตลอดจนการก่อสร้าง บริการทางการเงิน และการบริหารจัดการ ทั้งนี้ โครงการ Jefferson Stadium Park เฟส 1 และเฟส 2 เป็นโครงการลงทุนลำดับที่ 15 ของ JPI โดยได้รับเงินทุนจากนักลงทุนจีนเป็นมูลค่ารวมกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.JPI.com

          เกี่ยวกับ Grand China Fund
          Grand China Fund เป็นผู้จัดการกองทุนร่วมลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งมีสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการประมาณ 1.6 หมื่นล้านหยวน และ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2553 และได้รับความไว้วางใจจากบุคคลระดับอภิมหาเศรษฐีและสถาบันการเงินชั้นนำ ให้ทำการลงทุนทั้งในและนอกประเทศจีน สำหรับในสหรัฐนั้น บริษัทได้เข้าลงทุน/หาผู้ร่วมลงทุนในโครงการก่อสร้างที่อยู่อาศัยราว 6,000 ยูนิต ใน 8 เมือง รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.gcfoverseas.com




JPI Announces Close of Financing for Second Phase of Jefferson Stadium Park

          A class A multifamily community breaking ground in Anaheim's Platinum Triangle

          JPI, a leader in the development of Class A multi-family communities, has announced the closing of construction financing for Jefferson Stadium Park's Phase II, consisting of 376 luxury apartment homes, including 12 live-work units. The community is located on a prime 17.6-acre site within the prestigious Platinum Triangle area in Anaheim, California – directly adjacent to Angel Stadium of Anaheim.  Jefferson Stadium Park, a master plan development, will consist of three phases, and will ultimately result in the construction of 1,079 luxury apartment homes, a 1.1-acre public park, as well as 14,600 square feet of community-oriented retail space.




          The Jefferson Stadium Park Phase II finance closing, which represents a total Phase II investment of $132 million, follows the announcement of the development's Phase I finance closing, with an investment of $128 million.  Jefferson Stadium Park Phase II construction financing is provided by East West Bank, based in Pasadena, California, with a focus on both US and Greater China markets, as well as  First Community Bank, based in Santa Rosa, CA including 9 branches located in the San Francisco Bay Area.

          "JPI's investment in Anaheim's Platinum Triangle affirms our confidence in the City's leadership to make Platinum Triangle a new downtown for Southern California's Orange County," said Todd Bowden, JPI's Western Region Senior Vice President and Managing Development Partner.  JPI currently has four projects in various stages of development within Platinum Triangle, with a total anticipated value upon completion of over $675 million. "The City's vision for this area, and investment in the infrastructure, has created an environment that encourages private, multi-use development, and is an effort worthy of investment for the long term," said Bowden.

          Anaheim's Platinum Triangle has been in an urban re-use planning process spanning over a decade.  The City expects that Platinum Triangle will generate in excess of $1.5 billion in investment. "Jefferson Stadium Park represents the ideals that the City originally envisioned for Platinum Triangle," said Anaheim Mayor Tom Tait. "JPI's investment in the area – not only Stadium Park, but Jefferson Platinum Triangle, equates to approximately one-third of the City's goals for developer investments."

          In June, 2016, JPI received unanimous approval for the project from the Mayor and City Council. In September 2016, it was announced that JPI had partnered with Grand China Fund, a Beijing-based private equity real estate fund, in a Joint Venture to develop both Phase I and II of Jefferson Stadium Park.  Laurie Mathers, the U.S. based Head of Acquisitions for Grand China Fund, commented that: "On behalf of our investors, we would like to thank JPI for leading our joint venture through another critical stage of the construction process. Securing financing for such a major development is a significant milestone and we look forward to delivering quality housing for Anaheim's current and future residents."

          Gus Villalba, Managing Regional Partner of JPI's Western Division, said: "The closing of both Phase I and Phase II financing, coupled with the investments from our Chinese partners, gives us great confidence in Platinum Triangle, and the ability to continue to attract investors from the global market."

          Residents of Jefferson Stadium Park will have access to Anaheim's Regional Transportation Intermodal Center (ARTIC), as well as year-round entertainment, including Major League Baseball's Los Angeles Angels of Anaheim, and the National Hockey League's Anaheim Ducks.  Additionally, the project is located one mile from the Downtown Disney Shopping District; Disneyland, and California Adventure theme parks.  It is also located within ten miles of Anaheim's top five employers: Disneyland Resort, Kaiser Foundation Hospital, Hilton Anaheim, Cash Call, Inc., Mortgage Division, and Anaheim Memorial Medical Center.

          Jefferson Stadium Park Phase II rendering can be found on the following link:
          https://www.dropbox.com/sh/jcquwoaflxlw2kl/AABS9GSV5c5qGME0bRL91X9Ca?dl=0

          About JPI's Western Region Division
          JPI's Western Region is based in San Diego, California, and has developed communities throughout California totaling over 6,200 units. Additionally, the Western Division has two developments under construction in Arizona: Jefferson Town Lake – a $57 million project, and Jefferson Chandler, also a $57 million project.  JPI's Western Division also anticipates closing into financing and commencing construction on at least $660 million of new multifamily developments in 2017 and 2018, comprising over 1,730 luxury apartment homes.

          About JPI
          JPI is a national developer, builder and investment manager of Class A multifamily assets in select U.S. markets; headquartered in Texas, with offices in California, Arizona and New York. With a 30-year history of successful developments throughout major U.S. markets and an unparalleled depth of industry-specific experience, JPI stands among the most active privately held real estate companies in the country. JPI's executive leadership team has an average of 25 years of comprehensive experience in multifamily developments – ranging from low-density garden apartments, mid-to-high-density wrap and podium projects, student living housing projects, and mixed-use high rise developments. The firm offers investment management, pre-development, underwriting, marketing and asset management services, as well as construction, financial and administrative services. The start of Jefferson Stadium Park, Phase I and Phase II, represents JPI's fifteenth investment with Chinese capital in projects that total over $1.5 billion in the last three year. To learn more about JPI, please visit: www.JPI.com .

          About Grand China Fund
          Established in 2010, Grand China Fund is a real estate private equity fund manager with approximately RMB 16 billion and USD $1.5 billion of assets under management. The firm invests both within and outside of China on behalf of ultra-high net worth individuals and leading financial institutions. In the U.S., the firm has acquired/provided equity financing for the construction of approximately 6,000 residential units in eight cities. To learn more about Grand China Fund, please visit: www.gcfoverseas.com .

"ลาซาด้า" ผู้นำด้านอีคอมเมิร์ซแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ วางใจเลือกใช้บริการจาก Qrator Labs ผู้เชี่ยวชาญด้านการป้องกัน DDoS

          ลาซาด้า กรุ๊ป (Lazada Group) ประกาศว่า บริษัทได้เลือก Qrator Labs เป็นพันธมิตรด้านเทคโนโลยี เพื่อรับมือกับการโจมตีแบบ DDoS สร้างความมั่นใจว่าธุรกิจอีคอมเมิร์ซของบริษัทจะดำเนินไปอย่างราบรื่นไม่มีสะดุดทั่วเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้ ลาซาด้า ซึ่งเป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางการช้อปปิ้งออนไลน์อันดับหนึ่งของภูมิภาค มียอดผู้เข้าเว็บไซต์และแอปมือถือเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าทุกปี


          การประกาศครั้งนี้มีขึ้นหลังจากทั้งสองฝ่ายประสบความสำเร็จในการร่วมมือกันครบ 6 เดือน โดยทาง Qrator Labs ได้มอบโซลูชั่นอันเหนือชั้นในการยกระดับทรัพยากรอินเทอร์เน็ตของลาซาด้า เพื่อรองรับปริมาณผู้ใช้งานที่ทะยานขึ้นอย่างรวดเร็ว และเพื่อป้องกันการเจาะระบบจากภายนอก โซลูชั่นดังกล่าวช่วยการันตีช่วงเวลา uptime ถึง 100% ทั้งยังช่วยลดค่าความหน่วง เพื่อมอบประสบการณ์อันราบรื่นให้แก่นักช้อป แม้ในช่วงฉลองวันเกิดครบ 5 ปีของลาซาด้า ที่มีผู้เข้าเว็บไซต์มากถึง 70 ล้านครั้ง ตลอด 3 วันที่มีการลดราคาสินค้าครั้งใหญ่ในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา

          โซลูชั่นดังกล่าวจะสร้างเครือข่ายคัดกรองทราฟฟิค (ผู้เข้าเว็บไซต์) ซึ่งเชื่อมโยงศูนย์ข้อมูลทั้ง 3 แห่งของลาซาด้าที่สิงคโปร์ ฮ่องกง และอินโดนีเซีย เพื่อยับยั้งและลดความเสี่ยงของการโจมตีแบบ DDoS โซลูชั่นดังกล่าวคิดค้นขึ้นให้กับลาซาด้าโดยเฉพาะ โดยใช้ข้อมูลที่รวบรวมและวิเคราะห์ผ่านเครื่องมือตรวจสอบอินเทอร์เน็ตของ Qrator Labs

          นอกจากนี้ Qrator Labs ยังได้เปิดโหนดใหม่รองรับการส่งผ่านทราฟฟิคในสิงคโปร์ เพื่อเสริมช่องทางเชื่อมต่อเพิ่มเติมในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

          โซลูชั่นที่คิดค้นขึ้นเป็นพิเศษนี้ ผสานการทำงานอย่างเต็มรูปแบบกับระบบของลาซาด้า เพื่อป้องกันเว็บไซต์และแอปมือถือของลาซาด้าใน 6 ประเทศ ได้แก่ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ ไทย และเวียดนาม

          Vladimir Ivanov รองประธานอาวุโสฝ่ายโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีของลาซาด้า กรุ๊ป กล่าวว่า "ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ เราพร้อมออนไลน์อยู่ตลอดเวลาเพื่อรองรับผู้ซื้อและผู้ขายของเรา ดังนั้น เราจึงจำเป็นต้องมีโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีระดับโลก เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานที่เหนือกว่า เรายินดีที่ได้ร่วมงานกับทีมผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและนักวิทยาศาสตร์ของ Qrator Labs เพื่อสร้างความมั่นใจว่า ผู้ใช้เว็บของเราจะได้รับประสบการณ์การซื้อขายออนไลน์ที่ปลอดภัย รวดเร็ว และมีคุณภาพสูง"

          Alexander Lyamin ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Qrator Labs กล่าวว่า "ด้วยความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์และประสบการณ์ในการทำวิจัยร่วมกับลูกค้ามานานกว่า 10 ปี Qrator Labs จึงสามารถสร้างระบบโครงสร้างพื้นฐานที่เชื่อถือได้ให้แก่ลาซาด้า โซลูชั่นอันทรงประสิทธิภาพที่เราพัฒนาขึ้นมานี้ ช่วยเปิดทางให้ลาซาด้าสามารถจัดการกับปริมาณคนเข้าเว็บไซต์จำนวนมหาศาลได้ เพื่อมอบประสบการณ์การช็อปปิงอันราบรื่นให้แก่ลูกค้าของลาซาด้า ทั้งนี้ ลาซาด้าคือลูกค้ารายใหญ่ที่สุดของเราในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี่จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุดในการขยายธุรกิจในภูมิภาคนี้ ซึ่งถือเป็นภูมิภาคหนึ่งที่มีความสำคัญที่สุดสำหรับ Qrator Labs และเราจะเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในภูมิภาคแห่งนี้ต่อไป"

          เกี่ยวกับ ลาซาด้า กรุ๊ป

          ลาซาด้า กรุ๊ป เป็นผู้บริหารกิจการในเครือลาซาด้า ซึ่งเป็นเว็บไซต์ศูนย์กลางการช้อปปิ้งออนไลน์อันดับหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเปิดให้บริการในอินโดนีเซีย ( www.lazada.co.id ) มาเลเซีย ( www.lazada.com.my ) ฟิลิปปินส์ ( www.lazada.com.ph ) สิงคโปร์ ( www.lazada.sg ) ไทย ( www.lazada.co.th ) และเวียดนาม ( www.lazada.vn )

          ลาซาด้าเปิดตัวเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2555 ในฐานะผู้บุกเบิกตลาดอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคนี้ โดยได้มอบประสบการณ์การช็อปปิงที่แสนสะดวกสบายให้กับลูกค้า พร้อมช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย รวมถึงบริการเก็บค่าสินค้าปลายทาง บริการดูแลลูกค้าอันครอบคลุม และบริการคืนสินค้าอันแสนง่ายดาย ทั้งนี้ ลาซาด้ามีสินค้าให้เลือกซื้อหลากหลายชนิด ครอบคลุมตั้งแต่สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ไปจนถึงเครื่องใช้ภายในบ้าน ของเล่น สินค้าแฟชั่น และอุปกรณ์กีฬา

          ลาซาด้าสร้างตลาดและระบบนิเวศอันเหมาะสม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ขายและแบรนด์ต่างๆ สามารถเข้าถึงลูกค้าบนโลกออนไลน์มากถึง 560 ล้านคน ใน 6 ประเทศ

          เกี่ยวกับ  Qrator Labs

          Qrator Labs ซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2552 นำเสนอบริการยับยั้งการโจมตีแบบ DDoS และเป็นผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมนี้ ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Qrator Labs วิจัยเกี่ยวกับการป้องกัน DDoS มาตั้งแต่ปี 2549 และเดินหน้าพัฒนาอัลกอริธึม เทคโนโลยี และเทคนิคที่เกี่ยวข้องมาอย่างต่อเนื่อง

          ในปี 2553 บริษัทได้เปิดตัวเครือข่ายคัดกรองทราฟฟิคของตัวเอง เพื่อเป็นรากฐานทางเทคนิคสำหรับบริการเชิงพาณิชย์ที่มุ่งปกป้องเครือข่ายจากภัยคุกคามลักษณะเดียวกัน โดยอัลกอริธึมและเทคโนโลยีที่ใช้สำหรับยับยั้งการโจมตีเว็บของลูกค้านั้น ถือเป็นสิ่งที่บริษัทให้ความสนใจและมีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษ

          ปัจจุบัน Qrator Labs คือผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ป้องกัน DDoS โดยมีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำจากหลากหลายอุตสาหกรรม ได้แก่ ธนาคาร (Tinkoff Credit Systems Bank, UniCredit Bank, MDM Bank, Rocket Bank, OTP Bank, Banca Intesa, National Settlement Depository Bank) ระบบชำระเงิน (Qiwi, Cyberplat, Elecsnet) อีคอมเมิร์ซ (Lamoda, Ulmart, Eldorado, Wildberries, Citilink) สื่อมวลชน (Rossiya Segodnya International News Agency, ITARTASS, Echo of Moscow radio station, Regnum, TV channels: Zvezda, TNT, Dozhd, NTV plus) และอีกมากมาย

Southeast Asia's eCommerce Leader Lazada Enlists Anti-DDoS Solutions Expert Qrator Labs

          Lazada Group has chosen Qrator Labs as its technology partner in DDoS mitigation to ensure continuous Internet resource availability for its eCommerce operations across Southeast Asia. Lazada, the number one online shopping and selling destination in the region has seen traffic to its websites and mobile apps more than double every year.
         

          The announcement comes on the heels of a successful 6-month collaboration in which Qrator Labs deployed a unique solution to boost Lazada's internet resources for steep traffic surges, and to fortify against external hacking attempts. The solution ensured 100% uptime and reduced latency, hence a seamless experience for Lazada's shoppers even during its 5th Birthday which pulled in about 70 million visits over the 3-day sale event in March.

          The solution involves building a traffic filtering network connecting Lazada's three data centers – in Singapore, Hong Kong and Indonesia – to deter and mitigate risks of DDoS intrusions. This has been designed specifically for Lazada with data collected and analyzed by Qrator Lab's gobal internet monitoring tool.

          Qrator Labs has also opened a new node for traffic transmission in Singapore to provide additional connectivity in the Southeast Asia region.

          The customized solution is fully integrated into Lazada's system to protect Lazada's web and mobile sites across six countries -- Indonesia, Malaysia, the Philippines, Singapore, Thailand and Vietnam.

          "As an eCommerce platform we are always on for our shoppers and sellers, thus having a world-class technology infrastructure is critical to ensure a superior user experience. We are pleased to work with the team of tech professionals and scientists at Qrator Labs to provide a secure, fast and high-quality online shopping and selling experience for our users," said Vladimir Ivanov, Senior Vice-President for Technology Infrastructure, Lazada Group.

          "With a strong scientific background and over 10 years of conducting research with our clients, Qrator Labs was able to build a reliable infrastructure for Lazada. The effective solution we've built, allowed the company to manage traffic loads and offer their customers an excellent shopping experience with no interruptions. Lazada is our largest customer in Southeast Asia and we couldn't have asked for a better start in our Southeast Asian expansion. The region is one of the most important for our company and we seek to continue our business development here," said Alexander Lyamin, CEO and founder Qrator Labs.

          About Lazada Group

          Lazada Group operates Lazada, Southeast Asia's number one online shopping and selling destination, with presence in Indonesia ( www.lazada.co.id ), Malaysia ( www.lazada.com.my ), the Philippines ( www.lazada.com.ph ), Singapore ( www.lazada.sg ), Thailand ( www.lazada.co.th ) and Vietnam ( www.lazada.vn ).

          Launched in March 2012, Lazada is pioneering eCommerce in the region by providing customers with an effortless shopping experience with multiple payment methods including cash-on-delivery, extensive customer care and easy returns. Lazada features a wide product offering in categories ranging from consumer electronics to household goods, toys, fashion and sports equipment.

          Lazada offers brands and sellers a marketplace solution and an ecosystem of partners providing direct access to about 560 million consumers in six countries online.

          About Qrator Labs

          Established in 2009, Qrator Labs provides DDoS mitigation services and is an acknowledged expert in this industry. The Qrator Labs expert team has been conducting research in the field of DDoS protection since 2006 and has been continuously improving algorithms, technologies and techniques of DDoS attack mitigation.

          In 2010 the company launched its own Qrator traffic filtration network as a technological basis for the commercial service dedicated to the protection of network services from similar threats. Algorithms and technologies used for mitigation of attacks against the web services of its customers are the company's specialty and focus.

          Presently, Qrator Labs is one of the leaders in the DDoS protection market. Among its customers are many major companies from various industries: leading banks ("Tinkoff Credit Systems" Bank, UniCredit Bank, MDM Bank, Rocket Bank, OTP Bank, Banca Intesa, National Settlement Depository Bank) and payment systems (Qiwi, Cyberplat, Elecsnet), electronic commerce stores (Lamoda, Ulmart, Eldorado, Wildberries, Citilink), mass media (Rossiya Segodnya International News Agency, ITARTASS, Echo of Moscow radio station, Regnum, TV channels: Zvezda, TNT, Dozhd, NTV plus) and many others.

          Logo - http://photos.prnasia.com/prnh/20160928/8521606183LOGO

Gold Star Line เผยเรือให้บริการขนส่งด่วนระหว่างอินโดนีเซีย-ไทย เทียบท่าเมืองเซอมารังแล้ว

          ในวันนี้ เรือบรรทุกสินค้า Star of Luck ได้เข้าเทียบท่าเมืองเซอมารัง ประเทศอินโดนีเซียเป็นครั้งแรก หลังจากที่ Gold Star Line ได้เปิดให้บริการขนส่งด่วนระหว่างอินโดนีเซีย-ไทย (Indonesia-Thailand Express Service: ITS) เมื่อเดือนที่แล้ว

         

          ITS ให้บริการระหว่างประเทศไทย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย รวมถึงท่าเรือสำคัญอย่างพอร์ตกลัง ด้วยการขนส่งที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยมีเส้นทางเดินเรือดังต่อไปนี้

          พอร์ตกลัง – สิงคโปร์ – เซอมารัง – สุราบายา – พอร์ตกลัง – สิงคโปร์ – กรุงเทพฯ – แหลมฉบัง – พอร์ตกลัง

          เกี่ยวกับ GSL

          Gold Star Line ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2501 โดยเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการค้าระหว่างประเทศในเอเชีย ด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาอย่างยาวนาน

          เครือข่ายการให้บริการของ GSL ครอบคลุมไปถึงภาคตะวันออกและตะวันตกของอินเดียด้วย



Gold Star Line's Indonesia-Thailand Express Vessel's First Call in Semarang

          The container vessel Star of Luck today docked for the first time in Semarang, Indonesia, serving Gold Star Line's new Indonesia-Thailand Express Service (ITS), inaugurated last month.

         

          ITS service connects Thailand, Singapore and Indonesia, calling major ports including the main hub in Port Klang, offering fast transit time and excellent service levels. The service rotation:

          Port Klang - Singapore - Semarang -  Surabaya  - Port Klang -  Singapore -  Bangkok - Sahalaem Chabang - Port Klang

          About GSL

          Founded in 1958 Gold Star Line focuses and specializes in the Intra Asia trade with vast experience.

          GSL's network includes services to East and West India.



Giving Pledge Welcomes 14 New Philanthropic Individuals and Couples

          Global group includes 168 signatories from 21 countries who have dedicated the majority of their wealth to philanthropy

          Today the  Giving Pledge announced the addition of 14 new individuals and couples to its growing list of signatories. The philanthropy effort continues to expand internationally with the addition of philanthropists from Australia, China, Cyprus, Monaco, Norway, Slovenia, Tanzania, as well as the United States.

          Created in 2010 by Bill and Melinda Gates and Warren Buffett, the Giving Pledge is a global, multi-generational initiative designed to help address society's most pressing problems by encouraging the wealthiest individuals and families to give the majority of their wealth to philanthropic causes.

          The 14 new signatories announced today are:

          1. Leonard H. Ainsworth - Australia
          2. Mohammed Dewji - Tanzania
          3. Dagmar Dolby - United States
          4. DONG Fangjun - People's Republic of China
          5. Anne Grete Eidsvig and Kjell Inge R?kke - Norway
          6. Sir Stelios Haji-Ioannou - Monaco, Cyprus
          7. Nick and Leslie Hanauer - United States
          8. Iza and Samo Login - Slovenia
          9. Dean and Marianne Metropoulos - United States
          10. Terry and Susan Ragon - United States
          11. Nat Simons and Laura Baxter-Simons - United States
          12. Robert Frederick Smith - United States
          13. Harry H. Stine - United States
          14. YOU Zhonghui - People's Republic of China

          Although the Giving Pledge is specifically focused on wealthy individuals, it is inspired by the example set by millions of people at all income levels who give generously - and often at great personal sacrifice - to make the world better.

          "Philanthropy is different around the world, but almost every culture has a long-standing tradition of giving back," said Melinda Gates, co-chair of the Bill & Melinda Gates Foundation. "Bill and Warren and I are excited to welcome the new, very international group of philanthropists joining the Giving Pledge, and we look forward to learning from their diverse experiences."

          The new additions to the Giving Pledge include entrepreneurs and business leaders from a diverse set of backgrounds and sectors, including agriculture, finance, gaming and entertainment, travel and leisure, and technology. They will use their philanthropic resources to support a range of causes, including climate change, environmental and ecological protection, education, poverty alleviation, and medical and healthcare research.

          The Giving Pledge also provides a forum for some of the world's most influential and engaged philanthropists to discuss challenges and opportunities and how to be effective with their giving. People who have taken the Giving Pledge are united by a shared commitment to  learning and giving. The group convened this week at the group's annual two-day learning conference, which provides them with the opportunity to hear from outside experts and learn from each other about how to give effectively across a range of issues. Topics discussed at this year's annual gathering included criminal justice reform, early childhood education, refugee aid, public health, and poverty alleviation.

          About the Giving Pledge

          The Giving Pledge is a global effort to help address society's most pressing problems by encouraging the wealthiest individuals and families to give the majority of their wealth to philanthropic causes.

          The 168 pledgers range in age from 31 to 93. Globally, signatories represent 21 countries: Australia, Brazil, China (mainland and Taiwan), Cyprus, Germany, India, Indonesia, Israel, Malaysia, Monaco, Norway, Russia, Saudi Arabia, Slovenia, South Africa, Tanzania, Turkey, Ukraine, United Arab Emirates, United Kingdom and the United States. In the United States, they are from 27 states and the District of Columbia, with the largest contingents from California and New York. Over the long-term, the Giving Pledge hopes to help shift the social norms of philanthropy toward giving more, giving sooner and giving smarter.

          Pledge signatories come together throughout the year to discuss challenges, successes and failures, as well as how to be smarter about giving. The Giving Pledge does not involve direct appeals, pooling money, or requirements to support a particular cause or organization.

          For the full list of pledgers and personal letters by many of these pledgers outlining their commitment to give, visit http://www.givingpledge.org .



Tuesday, May 30, 2017

G2A เปิดตัว "G2A News" เว็บไซต์น้องใหม่ อัพเดทความเคลื่อนไหวในวงการเกม

          ฮ่องกง--30 พ.ค.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          G2A News คือเว็บไซต์ที่เติบโตอย่างไม่หยุดยั้งซึ่งนำเสนอข่าวคราวล่าสุดในวงการเกมแก่ผู้ที่สนใจ และในฐานะที่เป็นแผนกข่าวของตลาดเกมดิจิทัลอย่าง G2A.COM ทางเว็บไซต์ G2A News จึงมีหมวดคอนเทนต์อันหลากหลายให้แฟน ๆ ได้เลือกสรร



          แหล่งรวบรวมข่าวสารในวงการเกมนี้ [ https://news.g2a.com/ ] นำเสนอข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมเกมกว่า 1,000 รายการ ซึ่งเริ่มเผยแพร่มาตั้งแต่เดือนต.ค. 2559 และจำนวนข่าวที่จัดเก็บบนเว็บไซต์ก็มีปริมาณเพิ่มขึ้นทุกวัน ตั้งแต่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการประกาศและการวางจำหน่ายเกมใหม่, เหตุการณ์ที่กำลังเป็นกระแส รวมถึงแง่มุมอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมเกมอีกมากมาย

          เริ่มที่หมวด Reviews ซึ่งเป็นการแสดงความเห็นของผู้เขียนเกี่ยวกับเกมใหม่ ๆ จัดเรียงในรูปแบบที่อ่านง่าย แต่ละรีวิวเป็นการสรุปข้อดีและข้อเสียของเกม รวมถึงให้คะแนนเป็นเปอร์เซ็นต์ นอกจากนี้ยังมีตารางแจกแจงรายละเอียดเกี่ยวกับข้อกำหนดและคุณสมบัติของฮาร์ดแวร์ที่ใช้ในการทดสอบเกมด้วย

          ส่วนหมวด Previews นั้นจะเปิดเผยภาพเรียกน้ำย่อยของเกมที่จะเปิดตัวในอนาคต โดยมีการรวบรวมข้อมูลจากหลากหลายแหล่งนำมาปะติดปะต่อเป็นบทความที่มีเนื้อหาครบถ้วน

          สำหรับหมวดหลักหมวดสุดท้ายคือ Features ที่รวบรวมข้อมูลเฉพาะอันไม่สามารถพบได้จากที่ไหน อาทิ รายชื่อเกมที่วางจำหน่ายประจำเดือน เกมเด่นน่าจับตา รายชื่อเกมติดอันดับ และอื่น ๆ อีกมากมาย

          ทั้งนี้ G2A News ไม่ได้โฟกัสเฉพาะเกมบนพีซีเท่านั้น แต่ยังต้อนรับข่าวสารจากทั่วทั้งวงการเกม ไม่ว่าจะเป็นความเคลื่อนไหวอีปอร์ตแบบติดขอบเวที หรือแอพพลิเคชั่นบนมือถือ ซึ่งเว็บไซต์นี้รังสรรค์โดยกลุ่มผู้มีความเกี่ยวข้องและรอบรู้เกี่ยวกับวงการเกมอย่างลึกซึ้ง ถือเป็นการการันตีว่าคอนเทนต์บน G2A News นั้นมีคุณภาพคับแก้ว

          นอกเหนือจากนี้ G2A News ยังมีระบบคอมเมนต์ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ใช้สามารถกรอกอีเมลเพื่อแสดงความคิดเห็นโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาระบบคอมเมนต์จากภายนอกอย่าง Discus ในขณะเดียวกันการอภิปรายบนเว็บไซต์ก็ได้รับการควบคุมเพื่อให้การโต้ตอบระหว่างผู้ใช้ดำเนินไปด้วยความสุภาพ

          อนึ่ง แม้สถานะปัจจุบันของ G2A News จะอยู่ในขั้น "เบต้า" หรือเพิ่งเริ่มต้นได้ไม่นาน แต่ก็มีฟังก์ชั่นครบครัน และการเปลี่ยนแปลงบนเว็บไซต์ในแต่ละครั้งล้วนเป็นไปเพื่อยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้ทั้งสิ้น

          สามารถเข้าชมเว็บไซต์ได้ที่  news.g2a.com

          ติดต่อ: pr@g2a.com

          ที่มา: G2A.com

A Gaming News Website Is Now a New Entry in G2A’s Portfolio

          HONG KONG--30 May--PRNewswire/InfoQuest

          G2A News is a growing website dedicated to providing visitors with the latest news about the gaming industry. As a journalist division of the digital marketplace G2A.COM , there are several categories of content available on the steadily growing website.



          This  gaming news portal has an expanding base of over a thousand stories relevant to the gaming industry. The stories date back to October 2016 and the archive grows on a daily basis. This category contains information about new game announcements and releases, trending events, and many other aspects of the gaming industry.

          The Reviews category contains the writers' opinions on new games, presented in a reader-friendly, largely casual register. Each review contains a summary of the good and the bad traits of a reviewed game, as well as a percentile score. There are also tables detailing the system requirements and the specifications of hardware used to test the game, when applicable.

          Previews are a collection of early glimpses at upcoming productions, gathering disjointed information from many sources into one comprehensive article.

          The last of the major categories is Features. This section gathers texts that don't belong elsewhere. Monthly lists of new game releases, game spotlights, "Top X" lists, and more fall into this category.

          G2A News does not focus only on PC games but instead welcomes all branches of the gaming industry, including the esports scene and, on occasion, mobile applications. The website is created by people deeply connected to and knowledgeable about the gaming industry, which ensures high content value.

          The website has a native comment system, allowing users to submit their own opinions by providing an email address, without any external comment system providers like Discus. The discussions are moderated to ensure civility of interactions between users.

          Although the current shape of G2A News is in the "beta" stage, the website is fully functioning, and the changes are largely meant to improve user experience.

          The website can be found at  news.g2a.com

          CONTACT: pr@g2a.com

          Source: G2A.com

Times Higher Education วางใจใช้ข้อมูลจาก Web of Science เฟ้นหางานวิจัยที่กำลังมาแรง

          ข้อมูลอ้างอิงและผลวิเคราะห์จาก Clarivate Analytics ช่วยระบุงานวิจัยที่กำลังได้รับความนิยมในวงการ

          นิตยสาร  Times Higher Education (THE) ฉบับวันที่ 25 พฤษภาคม ได้นำเสนองานวิจัย 19 หัวข้อที่กำลังมาแรงในตอนนี้และมีศักยภาพในการเปลี่ยนแปลงโลก โดยรวบรวมมาจากข้อมูลอ้างอิงของ  Web of Science รวมถึงข้อมูลเจาะลึก  Essential Science Indicators(SM) ของ Clarivate Analytics

          Times Higher Education ได้เลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงจาก Web of Science เพื่อนำเสนอข้อเท็จจริงเกี่ยวกับงานวิจัยที่กำลังมาแรงในขณะนี้ ภายใต้บทความ "The next big bang" ในนิตยสารฉบับเดือนพฤษภาคม โดยงานวิจัยดังกล่าวประกอบด้วย การเสริมสมรรถภาพร่างกายเพื่อกำจัดเซลล์มะเร็ง, การพัฒนายีนเพื่อดัดแปลงพันธุกรรมพืช สัตว์ และแมลง, การผลิตแหล่งพลังงานสะอาด เช่น แบตเตอรี่รีด็อกซ์โฟลว และรถยนต์พลังงานไฮโดรเจน "สีเขียว", การลดใช้พลังงานด้วยระบบไฟ LED ชนิดกินไฟต่ำ, การค้นพบใหม่ๆ ด้านสิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยาเพื่อยกระดับอนามัยสิ่งแวดล้อม, ระบบอิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ และบิ๊กฟิสิกส์

          ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา Clarivate Analytics ครองตำแหน่งผู้นำของโลกในด้านการสำรวจแนวโน้มแวดวงการวิจัย ผ่านการวิเคราะห์ข้อมูลใน Web of Science ที่เปี่ยมด้วยคุณภาพและคัดสรรมาเป็นอย่างดี โดยดร.เฮนรี่ สมอลล์ และดร.ยูจีน การ์ฟีลด์ ผู้ล่วงลับ เป็นผู้บุกเบิกการทำแผนผังวิทยาศาสตร์ในช่วงทศวรรษ 1970 และ 1980 ด้วยการวิเคราะห์การอ้างอิงร่วม (co-citation) ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ข้อมูลที่รวบรวมผ่านวิธีการนี้ได้กลายเป็นข้อมูลอ้างอิงที่ทำให้ผู้กำหนดนโยบายและนายทุนทราบว่าประเด็นใดกำลังมาแรงและได้รับความนิยม ทำให้พุ่งความสนใจและทุ่มเงินลงทุนได้ถูกจุด

          เดวิด เพนเดิลบิวรี นักวิเคราะห์ข้อมูลอ้างอิงระดับอาวุโสของ Clarivate Analytics กล่าวว่า "เครือข่ายการอ้างอิงที่เชื่อมโยงงานวิจัยหนึ่งกับอีกงานวิจัยหนึ่ง แสดงให้เห็นถึงโครงสร้างที่เป็นระบบและแรงขับเคลื่อนขอบข่ายที่เราเรียกว่า "งานวิจัยแถวหน้า" ซึ่งมีกิจกรรมที่ต่อเนื่องและล้ำหน้า และเนื่องจากว่าข้อมูลอ้างอิงจะสะท้อนมุมมองที่ผู้เชี่ยวชาญมีต่อนักวิจัย เครือข่ายอ้างอิงดังกล่าวจึงสะท้อนความเคลื่อนไหวที่แท้จริงในแวดวงการวิจัยปัจจุบันได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยไม่เสียเวลาไปกับหัวข้อหรือสาขาวิชาที่ล้าสมัย"

          การระบุว่างานวิจัยใดเป็นงานวิจัยแถวหน้านั้น เริ่มด้วยการค้นหางานวิจัยที่ถูกนำไปใช้อ้างอิงเป็นจำนวนมาก (งานวิจัยที่ถูกอ้างอิงมากที่สุด 1% แรกเมื่อพิจารณาจากอายุงานและสาขาของงานวิจัย) ในช่วง 5 ปีล่าสุด จากนั้นจึงพิจารณาว่างานวิจัยดังกล่าวถูกอ้างอิงร่วมบ่อยครั้งแค่ไหน โดยยิ่งถูกอ้างอิงร่วมบ่อยยิ่งแสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์เชิงปัญญาสังคมที่แข็งแกร่งของงานวิจัยทั้งสองฉบับ การวิเคราะห์รูปแบบของการอ้างอิงร่วมซ้ำไปซ้ำมาจะทำให้ได้กลุ่มงานวิจัยที่มีความเชื่อมโยงกัน กลุ่มงานวิจัยเหล่านี้คืองานวิจัยแถวหน้าที่จะถูกเก็บไว้ในฐานข้อมูล Essential Science Indicators ของ Clarivate Analytics ซึ่งโดยเฉลี่ยจะมีประมาณ 8,000 งานวิจัยทุกๆ 2 เดือน

          ในนิตยสาร THE ฉบับเดือนพฤษภาคมนั้น งานวิจัยแถวหน้าที่ถูกนำไปอ้างอิงร่วมบ่อยครั้งในระยะหลัง และถูกนำไปอ้างอิงอย่างน้อย 200 ครั้งจนถึงปัจจุบัน ได้ถูกคัดเลือกออกมา และมีงานวิจัย 19 หัวข้อที่น่าสนใจเป็นพิเศษ ซึ่งสะท้อนถึงวงการวิทยาศาสตร์โดยรวมและมีศักยภาพในการนำไปประยุกต์ใช้ กองบรรณาธิการของนิตยสาร THE ได้แบ่งงานวิจัยเหล่านี้ออกเป็น 5 หมวดกว้างๆ ได้แก่ ชีววิทยาและการแพทย์ พลังงานและแสง ฟิสิกส์ดาราศาสตร์และฟิสิกส์พลังงานสูง สิ่งแวดล้อมและนิเวศวิทยา และอิเล็กทรอนิกส์ยุคใหม่ จากนั้นส่งคนไปสัมภาษณ์บุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพื่อค้นหาว่าเพราะเหตุใดงานวิจัยแถวหน้าเหล่านี้จึงสามารถจับประเด็นที่กำลังมาแรงในแวดวงการวิจัยปัจจุบัน

          เจสสิกา เทอร์เนอร์ หัวหน้าธุรกิจการวิจัยทางวิทยาศาสตร์และวิชาการของ Clarivate Analytics กล่าวว่า "งานวิจัยที่ถูกนำไปอ้างอิงเป็นจำนวนมาก กลายเป็นหนึ่งในตัวชี้วัดงานวิจัยระดับโลกที่เชื่อถือได้มากที่สุด และจะเป็นแนวทางสำหรับการพัฒนางานวิจัยในอนาคต เรายินดีที่นิตยสาร THE ได้เลือกใช้ข้อมูลอ้างอิงจาก Web of Science ในการเฟ้นหาผลงานวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่ปฏิวัติวงการและพลิกโฉมโลกของเรา"

          Clarivate Analytics

          Clarivate(TM) Analytics ช่วยเร่งกระบวนการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้วยการนำเสนอข้อมูลเชิงลึกและข้อมูลวิเคราะห์ที่เชื่อถือได้ให้แก่ลูกค้าทั่วโลก ซึ่งทำให้ลูกค้าสามารถคิดค้น คุ้มครอง และทำการตลาดแนวคิดใหม่ๆได้อย่างรวดเร็วขึ้น Clarivate Analytics ซึ่งในอดีตคือธุรกิจ Intellectual Property & Science ในเครือ Thomson Reuters เป็นเจ้าของและดำเนินธุรกิจต่างๆในรูปแบบให้บริการแก่สมาชิก โดยมุ่งเน้นไปที่การค้นคว้าวิจัยทางวิทยาศาสตร์และวิชาการ การวิเคราะห์สิทธิบัตรและมาตรฐานด้านกฎเกณฑ์ การพัฒนานวัตกรรมด้านเวชภัณฑ์และเทคโนโลยีชีวภาพ การคุ้มครองเครื่องหมายการค้า การคุ้มครองกรรมสิทธิ์ในตราสินค้า และการบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา ปัจจุบัน Clarivate(TM) Analytics เป็นบริษัทที่ดำเนินงานอย่างอิสระ มีพนักงานมากกว่า 4,000 คน และมีการดำเนินงานในกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ทั้งยังเป็นเจ้าของแบรนด์ดังมากมาย เช่น Web of Science(TM), Cortellis(TM), Derwent, CompuMark(TM), MarkMonitor(R) และ Techstreet(TM) เป็นต้น สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Clarivate.com



Times Higher Education chooses the Web of Science to assess innovation in research

          Citation data and analytics from Clarivate Analytics predict what's hot in research

           Times Higher Education's May 25 issue features 19 hot topics in current research that have the potential to change the world. These hot topics were identified using  Web of Science citation data and  Essential Science Indicators(SM) insights from Clarivate Analytics.

          Times Higher Education (THE) chose Web of Science citation data to gain an objective view of contemporary research for its May feature "The next big bang". The featured research includes enhancing the body's potential to kill cancer cells; development of genes driven to modify plants, animals and insects; producing clean power sources such as redox flow batteries and "green" hydrogen cars; reducing energy use by low-power LED lighting; discoveries in the environment and ecology field to improve environmental health; next-generation electronics and big physics.

          Clarivate Analytics has, for five decades, been the world leader in understanding trends in research through analysis of the curated, high-quality data in Web of Science. Dr. Henry Small and the late Dr. Eugene Garfield pioneered science mapping in the 1970s and 1980s using co-citation analysis. Since then, insights gleaned through this method have informed policymakers and funders on hot or emerging topics and where they should focus their attention and resources.

          "The citation network linking one paper to another reveals the organic structure and dynamics of specialty areas," notes David Pendlebury, senior citation analyst at Clarivate Analytics. "We call these specialty areas 'research fronts' because they represent active, leading-edge activity. And since citations reflect the expert judgments of researchers themselves, the citation network is a reliable guide to the true nature of current research, not a depiction employing traditional field or subject categories that lag behind what is really happening today."

          Constructing research fronts starts with identifying highly cited papers (those cited in the top 1% for their age and area) over the most recent five years. It is then determined how often these papers have been jointly cited (co-citation). High co-citation frequency suggests a strong socio-cognitive association between the content of two papers. Repetitive analysis of co-citation patterns yields clusters of related research reports. These clusters, or research fronts, are provided in the Clarivate Analytics Essential Science Indicators database. About 8,000 appear every two months in Essential Science Indicators.

          For THE's May feature, research fronts with the youngest co-cited papers and with at least 200 citations to date were extracted and 19 selected for special attention, reflecting their wider scientific environments and potential applications. THE editors assigned these to five broad groupings (biology and medicine, energy and light, astrophysics and high-energy physics, environment and ecology, and next generation electronics) and its journalists interviewed the key players and describe why these fronts capture what is hot in research today.

          "Highly-cited papers turn out to be one of the most reliable indicators of world-class research, and can provide a map of the most innovative research," said Jessica Turner, global head of the scientific and academic research business at Clarivate Analytics. "We are pleased that THE has chosen Web of Science citation data to identify the truly groundbreaking science that will impact the world we live in."

          Clarivate Analytics

          Clarivate(TM) Analytics accelerates the pace of innovation by providing trusted insights and analytics to customers around the world, enabling them to discover, protect and commercialize new ideas faster. Formerly the Intellectual Property and Science business of Thomson Reuters, we own and operate a collection of leading subscription-based businesses focused on scientific and academic research, patent analytics and regulatory standards, pharmaceutical and biotech intelligence, trademark protection, domain brand protection and intellectual property management. Clarivate(TM) Analytics is now an independent company with over 4,000 employees, operating in more than 100 countries and owns well?known brands that include Web of Science(TM), Cortellis(TM), Derwent, CompuMark(TM), MarkMonitor(R) and Techstreet(TM), among others. For more information, please visit clarivate.com.



Christophe Robin Ultimate Hair Volumizing Secret

          For over twenty years, the leading hair colorist Christophe Robin has been celebrating nature through his range of products for which he carefully selects rare active ingredients with multiple benefits. This perpetual search for innovative ingredients has led him to the amazing discovery of Rassoul...

         


          Launched in 2013, his volumizing range with rose extracts was one of the first volumizing ranges dedicated to color treated hair. It is with great pride that Christophe Robin presents his new cleansing volumizing paste with pure rassoul clay and rose extracts. This unique formula creates real volume, noticeable from the first use and effects that build up day after day.

          The art of rassoul

          This 100% natural mineral clay, also known as the most noble of clays derives from the Arabic word rassala, meaning "to wash" and is extracted from the only-known Rassoul deposit, in Morocco's Atlas Mountains. This ritual has been used for generations.

          "I wanted to reinterpret the traditional uses of Rassoul" says Christophe Robin. "In Morocco, hair care is considered an art de vivre, a lifestyle. In keeping with these time-honored practices, I wanted to draw from the benefits of the traditional Rassoul and release all its potential in an innovative formula with a unique texture".

          This original formula is a unique combination of rose water, plant extracts, and 100% pure and natural Rassoul. Its exclusive composition is 85% natural origin. Protected and fortified, the hair instantly shows more volume at the roots and density down its length.

          Overtime, volume will build up and the hair will regain long-lasting strength and vitality.

          When mixed with water, its surprising paste-like texture transforms into a light foam, creating a moment of pure well-being.

          The hair care routine recommended by Christophe Robin for a beautiful volume:

          1) Cleansing volumizing paste with pure rassoul clay and rose extracts: for a deep cleanse and to build volume over time. Alternate the cleansing paste with the delicate volumizing shampoo with rose extracts, to gently cleanse and maintain volume.
          2) Volumizing conditioner with rose extracts: for manageable hair and gently nourished ends (only on the lengths if needed).
          3) Instant volumizing mist with rose water: as a final touch, to enhance volume and give hair long-lasting hold.

          For more information on Christophe Robin hair care, visit: http://christophe-robin.com/en

          To browse all Christophe Robin products, visit: http://christophe-robin.com/en/my-products



Country Garden รั้งอันดับ 273 ในการจัดอันดับบริษัทมหาชนที่ใหญ่ที่สุดในโลกประจำปี 2560 โดยนิตยสารฟอร์บส์

          Country Garden Holdings บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์สัญชาติจีน รั้งอันดับที่ 273 ในการจัดอันดับบริษัทมหาชนที่ใหญ่ที่สุดในโลก 2,000 แห่งประจำปี 2560 โดยนิตสารฟอร์บส์ ซึ่งแสดงถึงความแข็งแกร่งและความได้เปรียบในการแข่งขันของบริษัท

          บริษัท 2,000 แห่งที่ติดอันดับในปีนี้มาจาก 58 ประเทศทั่วโลก และมีมูลค่าตลาดรวมกันทั้งสิ้น 48.8 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 10%

          การเติบโตทางการเงินที่แข็งแกร่ง ด้วยยอดขายรวม 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และมูลค่าตลาด 2.03 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ Country Garden ผงาดขึ้นมาติด 1 ใน 300 อันดับแรกได้เป็นผลสำเร็จ โดยทะยานขึ้นถึง 171 อันดับ มาอยู่ในอันดับที่ 273 ในปีนี้ ตามหลังแค่เพียง China Vanke, Brookfield Property Partners และ Sun Hung Kai Properties ในแวดวงบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์

          Yeung Kwok Keung ประธานกรรมการ Country Garden กล่าวว่า บริษัทจะยังคงเน้นไปที่การพัฒนาชุมชนเมืองรูปแบบใหม่ในประเทศจีน พร้อมกับขยายขนาดธุรกิจเพื่อเพิ่มรายรับและคืนทุนโดยเร็วที่สุด

          Mo Bin ซีอีโอของบริษัท เปิดเผยว่า ธุรกิจในต่างประเทศเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ขับเคลื่อนการเติบโตของบริษัท และบริษัทจะยังคงผลักดันโครงการพัฒนาชุมชนเมืองในตลาดต่างประเทศ พร้อมกับเปิดรับคอนเซ็ปต์การออกแบบเมืองที่ทันสมัย เพื่อทำให้ Country Garden กลายเป็นแบรนด์ที่มีความเป็นสากลและมีชั้นเชิงมากยิ่งขึ้น

          บริษัทได้ตั้งสำนักงานตามเมืองต่างๆในประเทศจีนมากกว่า 400 เมือง ทั้งยังรุกตลาดต่างประเทศอย่างมาเลเซีย ออสเตรเลีย และอินโดนีเซีย ผ่านโครงการที่กำลังดำเนินการอยู่มากกว่า 700 โครงการ ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีแผนรุกขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆเพิ่มเติม เช่น อินเดีย ไทย เวียดนาม สหราชอาณาจักร และรัสเซีย

          นอกจากนี้ Country Garden Holdings ยังให้ความสำคัญกับ Belt and Road Initiative ของรัฐบาลจีน และได้ร่วมลงทุนในโครงการ Forest City ภายใต้เมกะโปรเจค Iskandar development region ของประเทศมาเลเซีย โดยจนถึงตอนนี้ได้ลงทุนไปแล้วกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ นับเป็นการลงทุนนอกประเทศโดยบริษัทจีนครั้งใหญ่ที่สุด ทั้งนี้ โครงการ Forest City จะนำเทคโนโลยีล่าสุดเข้ามาใช้และสร้างความคึกคักให้กับประเทศ และภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ตำแหน่งงานประจำราว 70% ใน Forest City จะตกเป็นของชาวมาเลเซีย

          ณ วันที่ 25 พฤษภาคม มูลค่าตลาดของ Country Garden พุ่งทะลุ 1.80 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกง ส่วนราคาหุ้นอยู่ที่ 8.25 ดอลลาร์ฮ่องกง พุ่งขึ้นถึง 174% เมื่อเทียบรายปี และคิดเป็น 15.8 เท่าของเปอร์เซ็นต์ดัชนีฮั่งเส็งที่เพิ่มขึ้น สถาบันการเงินต่างๆ ได้แก่ J.P. Morgan, Citibank, Deutsche Bank และ Nomura ต่างจัดให้หุ้น Country Garden อยู่ในกลุ่มที่แนะให้ "ซื้อ"

          เกี่ยวกับ Country Garden Holdings

          Country Garden Holdings เป็นบริษัทจดทะเบียนในกระดานหลักของตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (Stock Code: 2007) และติด 1 ใน 3 บริษัทอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำระดับโลก Country Garden มิได้เป็นเพียงผู้พัฒนาและบริหารจัดการชุมชนที่อยู่อาศัยเท่านั้น แต่ยังดำเนินการก่อสร้างและบริหารจัดการเมืองอัจฉริยะที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศด้วย ในปี 2559 ยอดขายที่อยู่อาศัยของ Country Garden พุ่งทะลุ 4.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ และครอบคลุมพื้นที่ถึง 403 ล้านตารางฟุต

          รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://en.bgy.com.cn/



Monday, May 29, 2017

Dalmia Cement ผนึกกำลังกับหุ้นส่วนกลยุทธ์ในโครงการก่อสร้างสะพานยาวที่สุดในอินเดีย

          โครงการดังกล่าวช่วยเสริมสร้างความเข้มแข็งของบริษัทในฐานะหุ้นส่วนกลยุทธ์ที่สำคัญของอินเดีย และตอกย้ำการยึดมั่นในพันธกิจที่มีต่อพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ

          Dalmia Cement (Bharat) Limited ผู้ผลิตปูนซีเมนต์ระดับชั้นนำของอินเดีย ตอกย้ำพันธกิจที่มีต่อโครงการก่อสร้างระดับชาติของอินเดีย โดยได้แสดงบทบาทสำคัญในโครงการก่อสร้างสะพาน Dhola-Sadiya ซึ่งเป็นสะพานระดับยุทธศาสตร์ที่เชื่อมต่อระหว่างรัฐอรุณาจัลประเทศกับรัฐอัสสัม โดย Shri Narendra Modi นายกรัฐมนตรีอินเดียได้ประกาศเปิดใช้งานสะพานดังกล่าวอย่างเป็นทางการแล้วในวันนี้

          Dalmia Cement (Bharat) Ltd. เป็นผู้จัดหาปูนซีเมนต์คุณภาพสูงสุดปริมาณ 17,000 ตัน ให้กับอภิมหาโครงการดังกล่าวซึ่งเป็นโครงการความร่วมมือระหว่างหลายบริษัท โดยแสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการผลิต คุณภาพที่เหนือกว่า รวมถึงกลไกการส่งมอบที่แข็งแกร่ง และความเชื่อถือระดับสูงที่มีต่อบริษัทซึ่งมีผู้ถือหุ้นมากมาย

          Mr. Puneet Dalmia กรรมการผู้จัดการ Dalmia Bharat Group กล่าวว่า "มันเป็นช่วงเวลาสำคัญที่ได้เป็นหุ้นส่วนหลักในความสำเร็จของโครงการสร้างสะพาน Dhola-Sadiya ระดับแลนด์มาร์คนี้ ซึ่งจะช่วยร่นระยะเวลาในการเดินทางระหว่างรัฐอัสสัมกับรัฐอรุณาจัลประเทศลงเหลือเพียง 4 ชั่วโมง นี่เป็นอีกครั้งที่แสดงให้เห็นถึงการมีส่วนร่วมของเราในโครงการสำคัญๆของประเทศนับตั้งแต่โครงการสร้างเขื่อน Hirakud ในปี 2495 เราได้สั่งสมประสบการณ์และความเชื่อถือในระดับชาติมายาวนานถึง 78 ปี ตั้งแต่โครงการก่อสร้างท่าเรือ รางรถไฟใต้ดิน ท่าอากาศยานสำหรับกองทัพและพลเรือน ทางหลวง ไปจนถึงโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนและนิวเคลียร์"

          "นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าภาคภูมิใจสำหรับเราและเป็นจุดผกผัน เพราะนี่เป็นมากกว่าธุรกิจ บทบาทของเราในการสืบสานความสำเร็จในโครงการสร้างสะพานที่ยาวที่สุดในอินเดียนี้ ได้สะท้อนให้เห็นจิตวิญญาณความร่วมมือระหว่างองค์กรต่างๆ ความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์ และการนำเสนอคุณค่าทางสังคมและเศรษฐกิจในพื้นที่แถบตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย ผมเห็นประโยชน์ของสะพานในฐานะตัวอย่างของแคมเปญ Dil Jode, Desh Jode' ของเรา" Mr. Mahendra Singhi ซีอีโอ  Dalmia Cement (Bharat) Ltd. ของ Dalmia Bharat Group กล่าวเสริม

          สะพาน Dhola-Sadiya คือ สะพานที่ยาวที่สุดในอินเดียด้วยระยะทาง 9.15 กม. โดยทอดตัวข้ามแม่น้ำพรหมบุตรสายสำคัญ ความมหัศจรรย์ทางวิศวกรรมของสะพานดังกล่าวคือสามารถรองรับรถถังที่มีน้ำหนักถึง 60 ตันได้ สะพาน Dhola-Sadiya อยู่ห่างจากเมืองกูวาฮาติ รัฐอัสสัมราว 540 กม. ห่างจากเมืองอิฏานคร รัฐอรุณาจัลประเทศ 300 กม. และห่างจากชายแดนจีนทางอากาศไม่ถึง 100 กม. สะพานดังกล่าวเริ่มก่อสร้างในปี 2554 ด้วยงบประมาณมูลค่าเท่ากับ 950 โกฏิ สะพานแห่งนี้มีความสำคัญมาก เนื่องจากก่อนหน้านี้ ผู้คนที่ต้องการเดินทางข้ามแม่น้ำสายนี้จะต้องใช้ระบบคมนาคมทางน้ำทั้งหมด และรัฐอรุณาจัลประเทศก็ไม่มีสนามบินพลเรือน ดังนั้นสะพานดังกล่าวจึงช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนของรัฐอรุณาจัลประเทศ โดยสามารถเดินทางไปยังสถานีรถไฟที่ใกล้ที่สุดในเมืองตินสุเกียและสนามบินในเมืองดิบรูกาห์ รัฐอัสสัม ได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้สะพานแห่งนี้ยังสร้างขึ้นบนต้นแบบความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับเอกชน      

Sirius ประกาศซื้อกิจการของ International Medical Group




          Sirius International Insurance Group, Ltd. ("Sirius") บริษัทประกันภัย(ต่อ)ระดับโลก และผู้นำตลาดประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ มีความยินดีที่จะประกาศให้ทราบถึงการซื้อกิจการของ International Medical Group(R) (IMG(R)) ผู้ให้บริการชั้นนำด้านประกันสุขภาพและบริการช่วยเหลือระดับโลกที่ได้รับรางวัลการันตีคุณภาพมาแล้ว
          อัลลัน วอเทอร์ส ประธานกรรมการของ Sirius Group กล่าวว่า "เราภูมิใจที่ได้พันธมิตรธุรกิจเก่าแก่อย่าง IMG มาเป็นส่วนหนึ่งในเครือบริษัท Sirius ตลอดระยะเวลาแห่งความสัมพันธ์ยาวนานกว่า 20 ปี เราได้เห็น IMG เติบโตและพัฒนาอยู่ตลอด พร้อมทั้งนำเสนอผลิตภัณฑ์แปลกใหม่และบริการที่เหนือกว่าแก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอ การเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีความสอดคล้องอย่างลงตัวกับส่วนงานประกันภัยคุ้มครองแบบพิเศษของ Sirius โดยจะช่วยยกระดับกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการด้านประกันอุบัติเหตุและสุขภาพสำหรับลูกค้าทั่วโลก รวมถึงสนับสนุนกลยุทธ์การเติบโตระยะยาวของเรา"
          IMG จะบริหารงานโดยไบรอัน บาร์วิก ในตำแหน่งประธานและซีอีโอ คุณบาร์วิกทำงานที่ IMG มานาน 23 ปี และได้ร่วมงานกับ Sirius มาตลอดช่วงเวลาดังกล่าว "เรารู้จักไบรอันและทีมบริหารของ IMG เป็นอย่างดี และโชคดีที่ได้ทีมงานที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพนี้มาเป็นผู้นำ IMG" วอเทอร์สกล่าว
          บาร์วิกกล่าวว่า "วันนี้ เรามาร่วมเฉลิมฉลองความเป็นพันธมิตรที่ดำเนินมาอย่างยาวนาน Sirius เป็นพันธมิตรรับประกันภัยของเรามาตั้งแต่ปี 2540 โดยได้ร่วมงานกับ IMG ในเกือบทุกผลิตภัณฑ์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ Sirius เข้าใจและให้ความสำคัญในงานที่เราทำอยู่ในแต่ละวัน รวมถึงความปรารถนาของเราที่จะอยู่ 'เคียงข้าง' ลูกค้า การซื้อขายกิจการครั้งนี้จึงเป็นก้าวต่อไปของ IMG อย่างไม่ต้องสงสัย และเรามุ่งมั่นที่จะร่วมงานกับ Sirius ต่อไปอีกยาวนานในอนาคต"
          ขณะเดียวกัน บริษัทย่อยของ IMG ได้แก่ IMG-Stop Loss(SM) ซึ่งเป็นผู้พิจารณารับประกันภัยคุ้มครองความเสี่ยงด้านสุขภาพสำหรับนายจ้างที่มีแผนประกันสุขภาพประเภท Self-Funded นั้น ได้แยกออกไปตั้งธุรกิจใหม่โดยทีมบริหารชุดปัจจุบัน
          "เราขออวยพรให้ทีม Stop Loss ประสบความสำเร็จต่อไป และขอขอบคุณในการมีส่วนร่วมสนับสนุน IMG ตลอดหลายปีที่ผ่านมา" บาร์วิกกล่าว
          Sirius ซื้อกิจการของ IMG จาก ABRY Partners ซึ่งเป็นบริษัทลงทุนหุ้นนอกตลาด โดยการพิจารณาซื้อขายกิจการส่วนหนึ่งนั้นอยู่ในรูปของหุ้นบุริมสิทธิของ Sirius หุ้นเหล่านี้สามารถแปลงเป็นหุ้นสามัญของ Sirius ได้ ดังนั้น หากมีการแปลงเป็นหุ้นสามัญทั้งหมด กิจการที่ควบคุมโดย ABRY จะเป็นเจ้าของหุ้นสามัญของ Sirius สูงสุดราว 6% หลังการซื้อขายกิจการ ซึ่งวอเทอร์สกล่าวถึงเรื่องนี้ว่า "เรายินดีที่ได้ต้อนรับ ABRY เข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นรายสำคัญของ Sirius เรามุ่งมันที่จะร่วมงานกับทีมงานมากความสามารถของ ABRY เพื่อพัฒนาธุรกิจของ IMG ให้ก้าวหน้าต่อไป"
          _____________________________________________
          ข้อมูลเพิ่มเติม:
          Sirius เป็นบริษัทประกันภัย(ต่อ)ระดับโลก ก่อตั้งขึ้นที่กรุงสตอกโฮล์มเมื่อปี 2488 โดยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองแฮมิลตัน ในเบอร์มิวดา Sirius Group มีเงินทุนตามมาตรฐาน GAAP อยู่ 2.6 พันล้านดอลลาร์ และมีเบี้ยประกัน 1.3 พันล้านดอลลาร์ในปี 2559 ในจำนวนนี้มาจากธุรกิจประกันอุบัติเหตุและสุขภาพ 435 ล้านดอลลาร์ สำหรับสำนักงานที่ใหญ่ที่สุดของบริษัท ได้แก่ สาขาสตอกโฮล์ม นครนิวยอร์ก และลอนดอน สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของ Sirius Group ที่ www.siriusgroup.com
          IMG คือบริการประกันอุบัติเหตุและสุขภาพรายที่สองที่ Sirius ซื้อเข้ามาเสริมทัพกลุ่มผลิตภัณฑ์และบริการประกันภัยพิเศษของบริษัทเมื่อหลายเดือนก่อน หลังจากที่ในเดือนเมษายน Sirius ได้ซื้อธุรกิจบริการด้านประกันและเทคโนโลยีการบริการสุขภาพ ArmadaGlobal ผู้คิดค้นผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพและสิทธิประโยชน์พิเศษ พร้อมด้วยคุณภาพบริการเป็นเลิศระดับเวิลด์คลาส ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.prnewswire.com/news-releases/sirius-acquires-armadaglobal-300433492.html
          เกี่ยวกับ IMG
          International Medical Group(R) (IMG(R)) คือผู้ให้บริการประกันและสิทธิประโยชน์ประกันที่มีรางวัลการันตีคุณภาพและมีประสบการณ์คร่ำหวอดในอุตสาหกรรมมานานกว่า 25 ปี IMG ช่วยให้สมาชิกคลายกังวลและพร้อมเปิดรับประสบการณ์ใหม่ๆ ในระหว่างการเดินทาง ด้วยความคุ้มครองและบริการสนับสนุน ครอบคลุมผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพทั่วโลก รวมไปถึงการยกเลิกการเดินทาง บริการจัดการทางการแพทย์ บริการช่วยเหลือฉุกเฉินทางการแพทย์และการเดินทางตลอด 24 ชั่วโมง สำหรับสมาชิก Global Peace of Mind(R) โดยเฉพาะ รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.imglobal.com

Sirius Acquires International Medical Group





          Sirius International Insurance Group, Ltd. ("Sirius"), a global (re)insurance company with a leading position in Accident & Health insurance, is pleased to announce the acquisition of International Medical Group(R) (IMG(R)), a market leading and award-winning provider of global medical insurance products and assistance services.
          Allan Waters, Sirius Group Chairman, commented, "We are proud to have our long-time business partner IMG join the Sirius family of companies.  Over the course of our relationship that has spanned over 20 years, we have witnessed IMG grow and evolve, while consistently delivering innovative products and superior service to its clients. This acquisition is a natural fit within Sirius's specialty insurance segment that further enhances our global Accident & Health offerings and supports our long-term growth strategy."
          IMG will be run by President & CEO Brian Barwick, who has been with IMG for 23 years and has worked with Sirius throughout his tenure. "We know Brian and the IMG management team well and are lucky to have such a quality team leading IMG," Waters said.
          Barwick commented, "Today we celebrate our long-lasting partnership. As our underwriting partner since 1997, Sirius has worked with IMG on almost all of our international and domestic products. Sirius understands and values the work we do each day, and our passion to 'be there' for our constituents. This transaction was a natural next step for IMG, and we look forward to continuing to work with Sirius long into the future."
          Commensurate with the transaction, IMG's subsidiary IMG-Stop LossSM, a managing general underwriter dedicated to medical stop loss insurance products for self-funded employers, has been spun off and acquired by the management team that currently runs this business unit.
          "We wish the stop loss team continued success and are very grateful for the contributions that they have made to IMG over the years," Barwick said.
          Sirius purchased IMG from private equity investment firm ABRY Partners. A substantial portion of the transaction consideration is in the form of Sirius Preference Shares.  These shares are convertible into Sirius common shares.  As a result, on a fully converted basis an entity controlled by ABRY would own up to approximately 6 percent of Sirius's common shares following the transaction.  Waters commented, "We are pleased to welcome ABRY as a cornerstone owner of Sirius stock.  We look forward to working with their talented team to further develop IMG's business."
          _____________________________________________
          ADDITIONAL INFORMATION:
          Sirius is a global (re)insurance company founded in Stockholm in 1945 with its group corporate headquarters in Hamilton, Bermuda. Sirius Group has $2.6 billion of GAAP capital and wrote $1.3 billion of premiums in 2016, $435 million of which related to Accident & Health. Its largest offices are in Stockholm, New York City and London. Additional information is available at Sirius Group's website located at www.siriusgroup.com .
          IMG is the second Accident & Health addition to Sirius's specialty insurance platform in as many months.  In April, Sirius acquired ArmadaGlobal, a market-leading insurance services and healthcare technology business that creates specialty health and benefit products, delivered with its hallmark world-class service excellence. Click here [http://www.prnewswire.com/news-releases/sirius-acquires-armadaglobal-300433492.html]to learn more.
          About IMG
          International Medical Group(R) (IMG(R)), an award-winning provider of global insurance benefits and assistance services for more than 25 years, enables our members to worry less and experience more by delivering the protection they need, backed by the support they deserve. IMG offers a full line of international medical insurance products, as well as trip cancellation programs, medical management services and 24/7 emergency medical and travel assistance — all designed to provide members Global Peace of Mind(R) while they're away from home.  Learn more at www.imglobal.com.

Country Garden Rises to 273rd place in Forbes' 2017 Ranking of the World's Biggest Public Companies Top 2000

          Country Garden Holdings, a China-based property development company, ranked 273rd in Forbes' 2017 global 2,000 list of the world's biggest public companies, indicating its strength and competitive advantages.
          The top 2,000 listed companies for this year are from 58 countries in the world and have a total market value that increased 10 percent to US$48.8 trillion year-on-year.
          Because of its strong financial growth, Country Garden rose 171 spots to take the 273rd place in 2017. It is now placed just after China Vanke, Brookfield Property Partners and Sun Hung Kai Properties in the top listed property development companies sector. The sales of the company amounted to US$23 billion and its market value of US$20.3 billion enabled the company to break into the top 300 list.
          Yeung Kwok Keung, chairman of Country Garden, said the company will continue to focus on the development of a new type of urbanization in China and expand its business size to realize a rapid return of funds from a higher turnover.
          The company's chief executive officer, Mo Bin, said overseas business is another new growth driver and the company will continually promote active urbanization projects in overseas markets and bring in advanced city design concepts to turn Country Garden into a more international and strategic brand.
          The company has established offices in more than 400 cities and towns in China and has already entered Malaysia, Australia and Indonesia, with more than 700 active projects. The company plans to expand its business to more countries, including India, Thailand and Vietnam, as well as the United Kingdom and Russia.
          Country Garden Holdings has also set its sights on the China government-promoted Belt and Road Initiative and invested in the Iskandar development region of Malaysia on the project called Forest City. So far the company has already invested a total amount of more than US$1 billion on the first island. This is the largest project among China's single outbound investments. Forest City will bring the latest technology to Malaysia and inject vitality to the region. By May this year, approximately 70 percent of permanent jobs in Forest City were offered to Malaysian locals.
          Up to May 25, the market value of Country Garden had exceeded HK$180 billion and its share price reached HK$8.25, increasing 174 percent year-on-year. This was 15.8 times more than the percentage gain of the Hang Seng Index. Financial institutions including J.P. Morgan, Citibank, Deutsche Bank and Nomura all gave "Buy" ratings on Country Garden.
          About Country Garden Holdings
          Country Garden Holdings is listed on Hong Kong Stock Exchange's Main Board (Stock Code: 2007). The company ranks among the top three real estate enterprises globally. It is not just a developer and operator of residential communities, it also constructs and operates green, ecological and smart cities. In 2016, Country Garden's residential property sales exceeded US$43 billion and covered approximately 403 million square feet.
          For more information: http://en.bgy.com.cn/