ผลวิจัยใหม่พบการฉีดไขมันควบคู่สเต็มเซลล์ เป็นทางเลือกใหม่ทดแทนการใส่ถุงเต้านมเทียม

          การเพิ่มเซลล์ต้นกำเนิดไขมัน (ADSC) ชนิดที่ใช้เซลล์ของตนเอง ช่วยป้องกันไม่ให้ไขมันที่ถูกฉีดเข้าไปนั้นสูญสลาย เพื่อคงผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดไขมัน

          รายงานวิจัยติดตามผล 4 ปีของสถาบัน Bioscience Institute ซึ่งศึกษาผลลัพธ์จากการใช้เทคนิค Liposkill Plus ได้รับการนำเสนอที่ลาสเวกัส

          ความสะดวกง่ายดายในการหาเนื้อเยื่อผู้ให้ (donor tissue) ไม่ทิ้งแผลเป็นหลังดำเนินการ และใช้เวลาพักฟื้นไม่นานนั้น ทั้งหมดนี้ต่างเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้การฉีดไขมัน (lipofilling) เป็นเทคนิคที่กำลังมาแรงในการเสริมหน้าอก แก้ไขปัญหาหน้าอกไม่เท่ากัน และแก้ไขรูปทรวงอก ทว่าก็มีโอกาสที่ไขมันที่ถูกฉีดเข้าไปนั้นจะสูญสลายและทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก อย่างไรก็ดี เทคนิคเสริมหน้าอกควบคู่กับการฉีดเซลล์ต้นกำเนิดไขมัน (ADSC) นั้น เปิดโอกาสให้สามารถรักษาปริมาตรหน้าอกที่ได้หลังฉีดไขมันไปแล้ว หลักฐานแรกที่พิสูจน์ให้เห็นข้อได้เปรียบจากการใช้ ADSC นั้นได้ปรากฏให้เห็นแล้ว ในการประชุม Annual IFATS Meeting ครั้งที่ 16 ของสมาคม International Federation for Adipose Therapeutics and Science (IFATS) ที่เมืองลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยทางสถาบัน Bioscience Institute ได้ขึ้นนำเสนอรายงานวิจัยติดตามผล 4 ปี ซึ่งได้ประเมินผลลัพธ์ในตัวผู้ป่วยที่เข้ารับการเสริมหน้าอกด้วยเทคนิคการฉีดไขมันควบคู่สเต็มเซลล์ ADSC ชนิดที่ใช้เซลล์ของตนเอง

          การวิจัยดังกล่าวได้วิเคราะห์ผลการตรวจปริมาตรหน้าอกด้วย MRI ก่อนเข้ารับการทำ ADSC และหลังทำไปได้ 4 ปี โดยมี Roberto Viel ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของ Bioscience Institute เป็นผู้ดูแลทางการแพทย์ ผลการศึกษาพบว่า การฉีดในปริมาณที่เหมาะสมนั้นทำให้รักษาปริมาตรหน้าอกหลังฉีดไขมันได้ 100% และเมื่อผู้ป่วยมีดัชนีมวลกาย (BMI) เพิ่มขึ้นแล้ว ปริมาตรหน้าอกก็ปรับตัวขึ้นด้วย โดยปรับตัวเพิ่มแตะ 109-135% ของปริมาตรหน้าอกหลังฉีดไขมัน สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่า การฉีดไขมันทำหน้าที่เหมือนไขมันในส่วนอื่น ๆ ของร่างกาย

          ผลลัพธ์ที่ว่านี้เกิดขึ้นจากการใช้เทคนิคเปลี่ยนแปลงรูปร่างอย่าง Liposkill Plus ซึ่งอาศัยการฉีด ADSC ชนิดที่ใช้เซลล์ของตนเองควบคู่ไปด้วยในหน้าอกของผู้ป่วย เพื่อให้ตรงตามเป้าหมายทางความงาม 2 ประการ นั่นคือการเพิ่มขนาดหน้าอกโดยไม่ใส่ถุงเต้านมเทียม และกำจัดไขมันออกจากจุดสะสมไขมันไม่พึงประสงค์ เช่น ส่วนท้องและต้นขา การเพิ่ม ADSC เข้าไปด้วยนี้นับเป็นรากฐานสู่ผลลัพธ์อันยืนนาน โดยใช้เซลล์ในการฉีดเพียงไม่มาก (1-1.5 แสนเซลล์/ไขมัน 1 ml สำหรับปริมาตรหน้าอกระหว่าง 400-800 ml) "การเพิ่มเซลล์เข้าไปด้วยนั้นเป็นเทคโนโลยีเดียวที่ก่อให้เกิดอัตราส่วนที่ถูกต้องระหว่างเซลล์กับไขมัน" Giuseppe Mucci ซีอีโอของ Bioscience Institute กล่าว "ผลลัพธ์ที่ได้นั้นมีความเป็นธรรมชาติทั้งรูปลักษณ์และผิวสัมผัส และยังมีโอกาสที่จะนำเทคนิคนี้ไปใช้กับส่วนอื่น ๆ ของร่างกายด้วย เช่น บั้นท้าย นอกจากนี้ เซลล์ ADSC ยังเก็บรักษาได้บางส่วน เพื่อเปิดโอกาสให้นำไปใช้ได้ในอนาคตข้างหน้า เช่น นำไปรักษาผิวเสื่อมสภาพ โดยคุณสมบัติที่กล่าวมานี้ทำให้ Liposkill Plus เป็นทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ เพื่อทดแทนการผ่าตัดเสริมหน้าอกทั่วไป"