Designer Parfums จับมือ F1(R) ใช้ช่วงเวลาระหว่างการแข่งขันรายการสุดท้ายของปีอย่าง FORMULA 1 ETIHAD AIRWAYS ABU DHABI GRAND PRIX 201 F1(R) เปิดตัวแบรนด์น้ำหอมใหม่ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจจากความตื่นเต้น ความหลงใหล ความเร้าใจ และเทคโนโลยีของ Formula 1(R) โดยจะวางจำหน่ายในปี 2563 ที่กำลังจะมาถึง
แบรนด์ที่เพิ่งได้รับการเปิดตัวออกมาล่าสุดนี้ เป็นการผสมผสานระหว่างศิลปะ เทคโนโลยี ดีไซน์ และการสร้างสรรค์กลิ่นอย่างไม่มีขีดจำกัด
Ellie Norman ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการสื่อสารของ Formula 1 กล่าวว่า "เราตื่นเต้นมากที่ได้ร่วมมือกับ Designer Parfums เปิดตัวน้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่ที่มีเอกลักษณ์ และมาในขวดซึ่งออกแบบมาเพื่อแบรนด์ F1 โดยเฉพาะให้สื่อถึงความเร้าใจของกีฬาแข่งรถ โดยจะพร้อมวางจำหน่ายในช่วงต้นปีหน้า"
ทั้งสองแบรนด์กำลังเริ่มต้นการเดินทางสุดพิเศษเพื่อบอกเล่าเรื่องราวของ Formula 1(R) ผ่านน้ำหอมขวดนี้ ด้วยแรงผลักดันจากความยอดเยี่ยม แม่นยำ และเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าตามแบบฉบับของ Formula 1(R)
"เรานำวัฒนธรรมและหลักการของกีฬาแข่งรถมาสร้างเป็นแบรนด์น้ำหอมที่มีเอกลักษณ์ซึ่งผสมผสานแนวทางของโลกน้ำหอมแท้ๆ เข้ากับคุณค่าหลักของ Formula 1 จนเกิดเป็นแบรนด์น้ำหอมแบรนด์แรกที่ใช้การพิมพ์สามมิติซึ่งถือเป็นความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ เราตั้งตารอที่จะได้พัฒนายิ่งขึ้นไปอีกในปีต่อๆ ไปเพื่อให้ลูกค้าสามารถออกแบบดีไซน์ของตัวเองได้" Dilesh Mehta ประธานและซีอีโอ Designer Parfums กล่าว
การออกแบบที่ก้าวหน้าของ Formula 1(R) ทั้งเส้นสายและรูปทรงที่ลื่นไหล มีความสอดคล้องกับเอกลักษณ์ของดีไซเนอร์ผู้มีวิสัยทัศน์อย่าง Ross Lovegrove ซึ่งเป็นผู้ออกแบบงานพิมพ์สามมิติเพื่อฉลองการเปิดตัวน้ำหอมคอลเลคชั่นใหม่ที่เลือกใช้ศิลปะแบบสามมิติมาสื่อให้เห็นถึงจิตวิญญาณของ F1 อย่างชัดเจน
แฟน ๆ ของแบรนด์ F1 จะได้พบกับสิ่งที่เหนือความคาดหมาย เมื่อได้สัมผัสน้ำหอมที่ถูกออกแบบมาเพื่อแบรนด์โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกในคอลเลคชั่นสุดพิเศษในปี 2563 ที่จะถึงนี้
ดีไซน์ขวดน้ำหอมของ Ross Lovegrove ประกอบด้วย:
AGILE EMBRACE
จากแรงบันดาลใจของรูปทรงที่สรรสร้างมาด้วยความลื่นไหล โดยเส้นสายโอบรอบตัวแกนของขวดที่เป็นหัวใจของออกแบบ เพื่อสะท้อนการปกป้องอันลุ่มลึกเช่นเดียวกับตัวรถที่ปกป้องคนขับอย่างทรงประสิทธิภาพ
ศิลปะการพิมพ์แบบสามมิติ
FLUID SYMMETRY
การออกแบบที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเส้นสายที่ลื่นไหลของการออกแบบรถยนต์ตามหลักอากาศพลศาสตร์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าฟิสิกส์ของพลังธรรมชาติและวัสดุที่ก้าวหน้าสามารถสร้างสุนทรียภาพด้านเทคโนโลยีรูปแบบใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21
วัสดุไทเทเนียมพิมพ์สามมิติ
COMPACT SUSPENSION
โครงด้านนอกมีรูปร่างคล้ายโครงกระดูกที่โอบอุ้มขวดด้านในซึ่งเป็นรูปทรงเรขาคณิตที่แข็งแกร่งเอาไว้ เพื่อสื่อถึงความก้าวหน้าทางวิศวกรรมในรูปแบบของนวัตกรรมโครงสร้างที่ก้าวล้ำ
ศิลปะการพิมพ์แบบสามมิติ
พบกับความพิเศษของผลงานศิลปะการพิมพ์สามมิติแบบไม่เคยมีที่ไหนมาก่อนอันเป็นหัวใจของโปรเจคนี้ใน 5 สุดยอดน้ำหอมคอลเลคชั่นหรูจากโลกของ Haute Parfumerie
ในการออกแบบคอลเลคชั่น F1 Haute Perfumery นี้ Designer Parfums ได้ร่วมมือกับแบรนด์น้ำหอมล้ำสมัยหลากหลายแบรนด์ทั่วโลกเพื่อสรรสร้างคอลเลคชั่นที่ฉีกทุกกฎเกณฑ์ ซึ่งถูกออกแบบมาด้วยความตั้งใจและละเอียดถี่ถ้วนเช่นเดียวกับรถ F1 ด้วยการนำเอาแรงบันดาลใจอันน่าตื่นเต้น ทรงพลัง และเปี่ยมด้วยความเร้าใจจากโลกของ F1 ไปผสมผสานวัสดุยุคใหม่เข้ากับโครงสร้างที่ไร้กาลเวลาของน้ำหอมเพื่อสร้างกลิ่นต่าง ๆ ที่น่าตื่นเต้นเร้าใจเช่นเดียวกับการแข่งรถขึ้นมา
I - กลิ่นมะกรูดและเลมอนที่ให้ความสดชื่นตัดกับใบลูกแพร์ ผสมผสานด้วยกลิ่นพริกไทยสีชมพูและเอเลมีที่มีกลิ่นคล้ายโลหะ นอกจากนี้ยังเจือด้วยกลิ่นที่เย็นเบาสบายของ ambroxan ซึ่งขับเน้นด้วยกลิ่นของ akigalawood ที่แปลกใหม่ ถือเป็นการเพิ่มความโมเดิร์นให้กับไม้คลาสสิกได้เป็นอย่างดี
II - เป็นการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างซิตรัสที่สดชื่นกับพริกไทยสีชมพูที่มีชีวิตชีวา สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างรถและสนามแข่ง ขับเน้นด้วยกลิ่น black patchouli และกลิ่นหนังที่มีความเข้มและลุ่มลึก โดยกลิ่นหนังนี้เป็นการผสมผสานที่แปลกใหม่ซึ่งแฝงไปด้วยกลิ่นยางไหม้และกลิ่นฝนที่ตกลงบนยางมะตอย
III - ถือเป็นการผสมผสานที่ได้รับแรงบันดาลใจจากหลักอากาศพลศาสตร์ ด้วยการผสมผสานระหว่างอบเชยมาดากัสการ์และมะกรูดคาลาเบรีย ซึ่งต่างมีความเข้มข้นที่ร่วมกันขับเน้นกลิ่นพริกไทยและเมล็ดถั่วทองกา กลิ่นที่ทำให้นึกถึงเกลือนี้เป็นองค์ประกอบที่มีลูกเล่นซึ่งพลิกโฉมความคลาสสิกให้กลายเป็นความแปลกใหม่ นอกจากนี้ยังมีการนำกลิ่นอำพันมาใช้อย่างหรูหรา และขับให้ยิ่งเข้มขึ้นด้วยกลิ่นของเครื่องเทศและไม้เนื้อเข้ม
IV - น้ำหอมที่สื่อถึงความแกร่งกล้าและมั่นใจที่มาจากการผสมผสานกลิ่นเครื่องเทศ โดยมีกลิ่นพริกไทยดำผสมกับกลิ่นเย็นๆ ของจูนิเปอร์ ซึ่งเป็นกลิ่นที่ตัดกันอย่างโดดเด่น เจือด้วยออร์ริสที่นุ่มนวล ผสมผสานกับกลิ่นอายความเป็นชายจากหนังและ tonkalactone สีทองอย่างลงตัว ถือเป็นการสร้างนิยามใหม่ให้แก่ Fougere ซึ่งเป็นคำภาษาฝรั่งเศสที่สื่อถึงกลิ่นพืชและป่าไม้ในธรรมชาติ
V - กลิ่นที่น่าตื่นเต้นเร้าใจที่สื่อถึงแชมเปญที่มีฟองเปล่งประกายอยู่ด้านบน ด้วยกลิ่นซิตรัสที่ขับเน้นด้วยกลิ่น timut pepper ที่ซาบซ่าน พร้อมกับกลิ่นเจอร์เรเนียมสดและใบไวโอเล็ตที่หรูหรา ตัดกับกลิ่นไม้จากไม้จันทน์และ ambrocenide ที่มีความเข้มในตัว ถือเป็นความเร้าใจที่สื่อผ่านกลิ่นที่มีชีวิตชีวาและเปี่ยมพลัง
ผลงานศิลปะรุ่นลิมิเต็ดนี้มีราคาสูงถึง 10,000 เหรียญสหรัฐ โดยเป็นคอลเลคชั่นน้ำหอมทั้งห้ากลิ่นที่จัดแสดงในการแข่งขัน FORMULA 1 ETIHAD AIRWAYS ABU DHABI GRAND PRIX 2019 ระหว่างวันที่ 29 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคม 2019 ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ designerparfums.com
นี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น!
สำหรับน้ำหอมคอลเลคชั่นนี้ของ F1 จะเริ่มวางจำหน่ายที่ร้านค้าปลีกทั่วโลกตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นไป และขณะนี้ Ross Lovegrove ซึ่งเป็นดีไซเนอร์ของโปรเจคก็กำลังเลือกใช้เทคโนโลยีสังเคราะห์แสงดิจิทัลในการพิมพ์สามมิติมาสร้างเป็นโครงที่ทำจากเรซินเพื่อโอบอุ้มขวดน้ำหอมที่อยู่ภายใน
จะวางจำหน่ายที่ร้านบางสาขาในสนนราคาเริ่มต้นที่ 250 เหรียญสหรัฐ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ designerparfums.com
No comments:
Post a Comment