Wednesday, April 22, 2020

เมอร์ค เพิ่มกำลังผลิตไวรัสพาหะและยีนบำบัดเชิงพาณิชย์

- โรงงานแห่งใหม่มูลค่า 100 ล้านยูโร จะเพิ่มกำลังการผลิตมากกว่าสองเท่าของที่มีอยู่เดิม

- รองรับการผลิตผลิตภัณฑ์ไวรัสและยีนบำบัดเชิงพาณิชย์ในปริมาณมาก


เมอร์ค บริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ ประกาศสร้างโรงงานแห่งที่สองในเมืองคาร์ลสแบด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา เพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์บริการไวรัสและยีนบำบัด BioReliance(R) โดยคาดว่าโรงงานแห่งใหม่มูลค่า 100 ล้านยูโร จะเปิดดำเนินการได้ในปีหน้า

"การผลิตไวรัสพาหะ (viral vector) ได้เปลี่ยนแปลงจากอุตสาหกรรมเฉพาะกลุ่มมาเป็นเสาหลักแห่งอนาคตของวงการชีวเภสัชภัณฑ์" อูดิท บาทรา สมาชิกคณะกรรมการบริหารของเมอร์ค และและซีอีโอกลุ่มธุรกิจชีววิทยาศาสตร์ (Life Science) กล่าว "มีบริษัทเพียงไม่กี่แห่งที่มีระบบขนาดใหญ่และมีคุณภาพพร้อมสำหรับการผลิตผลิตภัณฑ์ไวรัสเพื่อการพาณิชย์ เราสานต่อความสำเร็จในการช่วยให้ลูกค้าสามารถจำหน่ายยีนบำบัดได้โดยใช้ไวรัสพาหะ การขยายการผลิตของเราในครั้งนี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์ผลิตไวรัสและยีนบำบัดได้ในปริมาณที่ตอบสนองความต้องการของผู้ป่วยจำนวนมากขึ้น"

โรงงานผลิตของธุรกิจ Life Science ในเมืองคาร์ลสแบด ผลิตยีนบำบัดสำหรับลูกค้าทั่วโลก ยีนบำบัดคือการส่งสารพันธุกรรมเข้าไปในเซลล์ของผู้ป่วยเพื่อก่อให้เกิดปฏิกิริยาการรักษา เช่น การแก้ไขยีนกลายพันธุ์ หรือการเปลี่ยนเป้าหมายของเซลล์ภูมิคุ้มกันเพื่อต่อสู้กับมะเร็ง โรคต่าง ๆ อย่างเช่น ฮีโมฟีเลีย และ มะเร็ง กำลังถูกวิจัยโดยใช้เทคนิคนี้ ซึ่งการให้ยีนบำบัดเพียงครั้งเดียวก็อาจรักษาโรคได้ โดยรายงานการคาดการณ์อุตสาหกรรมและการวิเคราะห์ตลาดจาก Biotech Forecasts เมื่อไม่นานมานี้ ระบุว่า ตลาดยีนบำบัดมีมูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์ในปี 2561 และคาดว่าจะแตะ 1 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2569

โรงงานผลิตขนาด 140,000 ตารางฟุตแห่งใหม่ของเมอร์ค จะรองรับการผลิตไวรัสและยีนบำบัดที่ปริมาณ 1000 ลิตรโดยใช้อุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียว Mobius(R) ของเมอร์ค โรงงานแห่งนี้เป็นส่วนหนึ่งในการขยายการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการแก่ตลาดไวรัสและยีนบำบัดภายใต้ธุรกิจ Life Science ของเมอร์ค ทั้งนี้ เมอร์คมีประสบการณ์เกือบสามทศวรรษในการด้านเซลล์และยีนบำบัด และโรงงานที่เมืองคาร์ลสแบด รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ได้มีส่วนร่วมในสาขายีนบำบัดมาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งใกล้เคียงกับช่วงเวลาที่เริ่มมีการทดลองยีนบำบัดทางคลินิก ในช่วงเวลาดังกล่าว บริษัทได้ผลิตไวรัสพาหะสำหรับผลิตภัณฑ์เซลล์และยีนบำบัดสองรายการ

การขยายกำลังการผลิตครั้งนี้เน้นย้ำให้เห็นถึงการลงทุนอย่างต่อเนื่องของเมอร์คในวงการไวรัสและยีนบำบัด ตั้งแต่ระดับห้องทดลองจนถึงการผลิตเพื่อการพาณิชย์ อีกทั้งยังเป็นการลงทุนครั้งใหญ่ครั้งที่สองของเมอร์คที่โรงงานในคาร์ลสแบดในช่วงไม่กี่ปีมานี้ โดยการลงทุนเมื่อปี 2559 ได้ส่งผลให้มีการเพิ่มกำลังการผลิตจากเดิมถึงเกือบสองเท่า โดยโรงงานได้รับการยกระดับให้มีพื้นที่ใหญ่ขึ้นจาก 44,000 ตารางฟุต เป็น 65,000 ตารางฟุต ปัจจุบัน โรงงานที่คาร์ลสแบดประกอบด้วยห้องปลอดเชื้อสำหรับผลิตไวรัสพาหะ จำนวน 16 ห้อง พร้อมอุปกรณ์แบบใช้ครั้งเดียว รวมถึงห้องบรรจุยาสำหรับยีนบำบัด วัคซีนไวรัส และผลิตภัณฑ์ภูมิคุ้มกันบำบัด 2 ห้อง แต่หลังจากขยายโรงงานแล้ว บริษัทจะมีห้องคลีนรูมเพิ่มอีก 11 ห้อง รวมเป็น 27 ห้อง สำหรับใช้ในขั้นตอนต่าง ๆ ของการผลิต

นอกจากรับจ้างผลิตและพัฒนาไวรัสพาหะตามสัญญาของลูกค้าแล้ว เมอร์คยังให้บริการผลิตและทดลองแก่ลูกค้าทั่วไปที่ศูนย์ทดลองยาและยาชีววัตถุที่กระจายอยู่ทั่วโลกอีกด้วย

เมอร์คตระหนักดีว่า เซลล์และยีนบำบัดได้ส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าที่สำคัญในวงการยา บริษัทสนับสนุนวิธีการบำบัดรักษาเหล่านี้ภายใต้การพิจารณาอย่างรอบคอบตามมาตรฐานทางจริยธรรมและกฎหมาย โดยเมอร์คได้จัดตั้งคณะกรรมการที่ปรึกษาด้านชีวจริยธรรม (Bioethics Advisory Panel) อิสระจากภายนอก เพื่อให้คำแนะนำเกี่ยวกับหัวข้อต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการปรับแต่งจีโนม และการใช้สเต็มเซลล์ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัท นอกจากนี้ บริษัทยังได้กำหนดจุดยืนการดำเนินงานที่ชัดเจน โดยคำนึงถึงประเด็นทางวิทยาศาสตร์และสังคมเป็นสำคัญ

ข่าวประชาสัมพันธ์ของเมอร์คทั้งหมดได้รับการเผยแพร่ผ่านทางอีเมลในเวลาเดียวกับที่มีการเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์ของเมอร์ค กรุณาเข้าไปที่ www.merckgroup.com/subscribe เพื่อลงทะเบียนออนไลน์ เปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกบริการนี้

เกี่ยวกับ เมอร์ค

เมอร์ค คือบริษัทวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีชั้นนำ โดยมีการดำเนินงานครอบคลุมด้านการดูแลสุขภาพ ชีววิทยาศาสตร์ และวัสดุสมรรถนะสูง พนักงานประมาณ 57,000 คนของบริษัทต่างทุ่มเทในการสร้างความแตกต่างที่ดีต่อชีวิตของผู้คนหลายล้านคนในทุก ๆ วัน ด้วยการนำเสนอแนวทางการใช้ชีวิตที่มีความสุขและยั่งยืนยิ่งขึ้น เมอร์คเป็นทั้งผู้พัฒนาเทคโนโลยีตัดต่อยีน ไปจนถึงการเสาะหากลวิธีใหม่ ๆ ในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บที่ท้าทายที่สุด ตลอดจนการคิดค้นอุปกรณ์อัจฉริยะ โดยในปี 2562 เมอร์คทำยอดขายได้ 1.62 หมื่นล้านยูโร ใน 66 ประเทศ

การสำรวจทางวิทยาศาสตร์และการทำธุรกิจอย่างมีความรับผิดชอบ คือหัวใจหลักในความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของเมอร์ค ทั้งยังอยู่เบื้องหลังความสำเร็จของเมอร์คนับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นเมื่อปีพ.ศ. 2211 ปัจจุบัน ครอบครัวผู้ก่อตั้งยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ของกลุ่มบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เมอร์คครอบครองสิทธิ์ในชื่อและแบรนด์ เมอร์ค ทั่วโลก ยกเว้นในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ซึ่งหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ของเมอร์คดำเนินงานภายใต้ชื่อ อีเอ็มดี เซโรโน ในวงการดูแลสุขภาพ, มิลลิพอร์ซิกมา ในวงการชีววิทยาศาสตร์ และอีเอ็มดี เพอร์ฟอร์แมนซ์ แมททีเรียลส์



No comments:

Post a Comment