Friday, April 24, 2020

UNISOC ส่งชิปเซ็ต T610 เป็นขุมพลังขับเคลื่อนสมาร์ทโฟนถนอมสายตารุ่นใหม่ของ Hisense

UNISOC ผู้ผลิตและจำหน่ายชิปเซ็ตการสื่อสารเคลื่อนที่และชิปเซ็ต IoT ชั้นนำของโลก ประกาศว่า ชิปเซ็ต T610 ของบริษัทได้รับเลือกเป็นขุมพลังขับเคลื่อนโทรศัพท์มือถือสำหรับการอ่าน Hisense A5 Pro CC สมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมหน้าจอแบบสีหมึก หรือ color E-Ink ที่ช่วยถนอมสายตา โดยใช้จอภาพ e-ink สำหรับจอทางด้านหลังซึ่งเป็นหน้าจอรอง และใช้จอ LCD เป็นจอหลัก เทคโนโลยี e-ink สามารถแสดงสีได้ถึง 4,096 สี ด้วยจอแสดงผลคุณภาพเหมือนกระดาษ จึงช่วยปกป้องดวงตาของผู้อ่านจากการอ่านเป็นเวลานาน ๆ อีกทั้งมีแบตเตอรี่ที่อึดทนอยู่ได้นานหลายวันด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียว



หน้าจอแสดงผลแบบ e-ink ไม่มีการปล่อยแสงสีน้ำเงิน ทำให้อ่านเป็นเวลานาน ๆ ได้อย่างสบายตามากขึ้น โดยหน้าจอจะให้แสงที่เป็นธรรมชาติในช่วงเวลากลางวัน ขณะที่ในช่วงกลางคืน อุปกรณ์จะใช้เทคโนโลยีการสะท้อนไม่สมบูรณ์ (Diffuse Reflection) ผ่านทางแหล่งกำเนิดแสงแบบ Warm Light ที่ติดอยู่บนด้านหน้าของจอมือถือ เมื่อเปรียบเทียบกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่น ๆ แล้วนั้น A5 Pro CC ช่วยถนอมสายตาได้อย่างดีเยี่ยม เพราะไม่มีการปล่อยแสงสีน้ำเงินสำหรับการอ่านในช่วงเวลากลางวัน และลดแสงสีน้ำเงินลงถึง 95% สำหรับการอ่านในช่วงเวลากลางคืน จึงเป็นการลดอันตรายต่อดวงตาที่มีสาเหตุมาจากแสงสีน้ำเงิน

จอภาพแบบสีหมึกเหมาะอย่างยิ่งสำหรับการอ่าน มองเห็นได้ดีเยี่ยมในที่แจ้ง ทั้งยังไม่เปลืองแบตเตอรี่ เพราะอุปกรณ์จะใช้พลังงานก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนภาพบนหน้าจอเท่านั้น

Hisense ได้เปิดตัว A5 Pro ในสามเวอร์ชัน ประกอบด้วย A5 Pro รุ่นคลาสสิกที่มาพร้อมหน้าจอ e-Paper สีขาวดำ และ A5 Pro CC ที่มาพร้อมจอภาพแบบ colored E-ink โดยมีหน่วยความจำให้เลือกสองขนาด ได้แก่ 4GB RAM+64GB ROM และ 6GB RAM+128GB ROM ทั้งสามเวอร์ชันต่างขับเคลื่อนด้วยชิปเซ็ต UNISOC T610 ซึ่งรวมหน่วยประมวลผล 1.8 GHz Arm Cortex-A75 จำนวนสองตัว และ 1.8 GHz Arm Cortex-A55 จำนวนหกตัว เข้ากับ Mali G52 MP2 GPU มือถือระบบ LTE รุ่นนี้ยังโดดเด่นด้วยการประมวลผลภาพและขีดความสามารถด้าน AI แบบจัดเต็ม เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่ที่เหนือกว่าสำหรับผู้ใช้สมาร์ทโฟน

เกี่ยวกับ UNISOC

UNISOC เป็นบริษัทเซมิคอนดักเตอร์แบบ fabless ชั้นนำ ที่มีความมุ่งมั่นในการวิจัยและพัฒนาชิปเซ็ตเพื่อรองรับการใช้งานด้านการสื่อสารเคลื่อนที่และ AIoT ผลิตภัณฑ์ของบริษัทประกอบด้วยแพลตฟอร์มชิปเซ็ตมือถือที่รองรับมาตรฐานการสื่อสาร 2G/3G/4G/5G และโซลูชันชิปเซ็ตในด้าน IoT, RFFE, การเชื่อมต่อไร้สาย, TV และอื่น ๆ บริษัทมีพนักงานประมาณ 4,500 คน มีศูนย์วิจัยและพัฒนา 15 แห่ง และศูนย์บริการลูกค้า 7 แห่งทั่วโลก UNISOC ได้ก้าวขึ้นเป็นหนึ่งใน 3 ซัพพลายเออร์ชิปเซ็ตมือถือที่ครองส่วนแบ่งในตลาดโลกมากที่สุด รวมถึงเป็นผู้ให้บริการชิปเซ็ตรายใหญ่เป็นอันดับต้น ๆ ของจีนสำหรับอุปกรณ์ IoT และอุปกรณ์เชื่อมต่อ ตลอดจนบริษัท 5G ชั้นนำของโลก ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.unisoc.com/

No comments:

Post a Comment