การพัฒนา 5G, IoT, AI, Cloud และเทคโนโลยีอื่น ๆ ส่งผลให้สังคมมีวิวัฒนาการอย่างรวดเร็ว บริษัทวิจัยตลาด IDC คาดการณ์ว่า ภายในปี 2565 เศรษฐกิจดิจิทัลจะคิดเป็นสัดส่วน 60% ของเศรษฐกิจโลกทั้งหมด และเมื่อเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก การปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไปสู่ระบบดิจิทัลและระบบอัจฉริยะก็ยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นสำหรับ H3C
H3C ซึ่งเป็นผู้นำด้านโซลูชันดิจิทัล ได้จัดการประชุมออนไลน์ NAVIGATE 2020 ในหัวข้อ "SmartVolution" ระหว่างวันที่ 20-25 เมษายน โดยมีการประกาศกลยุทธ์อัจฉริยะ AI in All อย่างเป็นทางการ พร้อมเปิดโครงการ Digital Brain Project 2020 นอกจากนั้นยังมีการเปิดตัวผลิตภัณฑ์และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับแพลตฟอร์มดิจิทัลอัจฉริยะ รวมทั้งนำเสนอโซลูชันแบบบูรณาการเพื่อช่วยเหลืออุตสาหกรรมต่าง ๆ ในการรับมือและเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัจฉริยะในระดับที่สูงขึ้น
กลยุทธ์อัจฉริยะใหม่สะท้อนถึงความคิดและมุมมองใหม่ของ H3C ที่มีต่อการปฏิวัติอัจฉริยะทั่วโลก "การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลทั่วโลกอย่างจริงจัง ส่งผลให้หลายประเทศต้องการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลกันมากขึ้น" แกรี หวง ประธานฝ่ายธุรกิจระหว่างประเทศและรองประธานอาวุโสของ H3C กล่าว "เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมดิจิทัลทั่วโลกมีศักยภาพมหาศาลในการพัฒนา แต่ต้องอาศัยความร่วมมือขององค์กรต่าง ๆ ที่สามารถพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลและเทคโนโลยีอัจฉริยะ เราจะใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของเราอย่างเต็มที่ คว้าโอกาสมากมายในตลาด มอบคุณค่าสูงสุดจากการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลให้แก่ลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ และเป็นกลไกสำคัญในการเปลี่ยนผ่านสู่ระบบอัจฉริยะทั่วโลก"
ในปี 2562 H3C ได้ขยายธุรกิจไปยังต่างประเทศ โดยใช้ชื่อแบรนด์อย่างเป็นอิสระในแต่ละประเทศ เพื่อช่วยให้นานาประเทศเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัลได้เร็วขึ้น ปัจจุบัน บริษัทได้พัฒนาธุรกิจในต่างประเทศรวม 7 ประเทศ (มาเลเซีย ไทย อินโดนีเซีย ปากีสถาน รัสเซีย คาซัคสถาน และญี่ปุ่น) และสามารถเจาะเข้าสู่อุตสาหกรรมหลักที่มีเงื่อนไขและข้อกำหนดเข้มงวด เช่น การเงิน การขนส่ง และภาครัฐ
H3C จะเร่งขยายธุรกิจในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง "ตลาดต่างประเทศจะเป็นจุดเติบโตหลักของ H3C ในอนาคต โดยในอีก 3-5 ปีข้างหน้า H3C จะเดินหน้าปรับปรุงช่องทางการทำธุรกิจทั่วโลก รวมถึงยกระดับการมีส่วนร่วมในต่างประเทศ และช่วยเหลือลูกค้าในต่างประเทศเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบไปจนถึงการใช้เทคโนโลยี โดยอาศัยโซลูชันบูรณาการครบวงจรของบริษัทซึ่งเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม" แกรี หวง กล่าว
เมื่อพิจารณาจากสภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่แตกต่างกันของตลาดต่างประเทศ H3C จะใช้กลยุทธ์อัจฉริยะเป็นแนวทางในการดำเนินธุรกิจ และใช้โครงการ Digital Brain Project ในการส่งเสริมและปลูกฝังความสำเร็จด้านนวัตกรรมและแนวทางปฏิบัติด้านเทคโลยีในอุตสาหกรรมหลักของแต่ละประเทศ นอกจากนี้ บริษัทจะสร้างสรรค์โซลูชันดิจิทัลครบวงจรร่วมกับพาร์ทเนอร์ และสนับสนุนการสร้างระบบดิจิทัลในหลายประเทศ โดยอาศัยศักยภาพอันแข็งแกร่งของบริษัทในการบูรณาการ AI, บิ๊กดาต้า และคลาวด์คอมพิวติ้ง เพื่อเติบโตไปพร้อมกับระบบนิเวศอุตสาหกรรมทั่วโลก
เกี่ยวกับ H3C
H3C คือผู้นำด้านการจัดหาโซลูชันดิจิทัล บริษัทมุ่งมั่นก้าวสู่การเป็นพาร์ทเนอร์ที่ไว้ใจได้มากที่สุดของลูกค้าที่ต้องการพัฒนานวัตกรรมทางธุรกิจและเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล H3C นำเสนอผลิตภัณฑ์โครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลเต็มรูปแบบ ตั้งแต่การประมวลผล การจัดเก็บข้อมูล การสร้างเครือข่าย ความมั่นคงปลอดภัย ไปจนถึงโดเมนที่เกี่ยวข้อง พร้อมนำเสนอแพลตฟอร์มดิจิทัลครบวงจร ครอบคลุมโซลูชันคลาวด์คอมพิวติ้ง, บิ๊กดาต้า, การเชื่อมต่อ, ความมั่นคงปลอดภัยสารสนเทศ, ระบบรักษาความปลอดภัยรูปแบบใหม่, อินเทอร์เน็ตออฟธิงส์ (IoT), เอดจ์คอมพิวติ้ง, ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ 5G ตลอดจนบริการทางเทคนิคแบบครบวงจร
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.h3c.com/en/
ติดตามข่าวสารล่าสุดได้ทางลิงก์อิน https://www.linkedin.com/company/h3c-technologies-co-ltd/
No comments:
Post a Comment