แยกบริษัทออกจาก United Technologies Corp. เสร็จสมบูรณ์แล้ว
ปาล์มบีชการ์เดนส์
รัฐฟลอริด้า, 3
เม.ย. 2020 /พีอาร์นิวส์ไวร์/ -- Carrier Global Corporation (NYSE: CARR) ประกาศเปิดตัวในฐานะบริษัทมหาชนอิสระ
หลังจากดำเนินการแยกตัวออกจากบริษัท United Technologies
เสร็จสมบูรณ์เป็นที่เรียบร้อย โดย Carrier เป็นผู้นำในการสร้างสรรค์โซลูชันการทำความเย็นภายในอาคารซึ่งมีความสำคัญสำหรับผู้คนและโลกของเรา
บริษัทจะเริ่มซื้อขายหุ้นแบบ "regular-way" ในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก
(NYSE) วันนี้ เมื่อตลาดเปิดทำการ ภายใต้ชื่อย่อหุ้น "CARR"
Carrier เป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีระบบปรับอากาศ HVAC (heating, ventilating
and air conditioning), ระบบการทำความเย็น
รวมทั้งระบบอัคคีภัยและความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์และบริการของ Carrier มีความจำเป็นสำหรับชีวิตสมัยใหม่ โดยเฉพาะในสภาพแวดล้อมแบบโลกาภิวัตน์ในปัจจุบัน
บริษัทมีการดำเนินงานครอบคลุมกว้างขวางทั่วโลก โดยมีพนักงานประมาณ 53,000 คนที่คอยให้บริการโซลูชั่นต่าง ๆ ในกว่า 160 ประเทศ
Carrier ครองตำแหน่งผู้นำในเซกเมนต์ที่สำคัญ ซึ่งรวมถึง HVAC
ในที่พักอาศัยในภูมิภาคอเมริกาเหนือ, อุปกรณ์
HVAC เชิงพาณิชย์ในตลาดหลัก ๆ, อุปกรณ์ตรวจจับไฟไหม้และดับเพลิงอัตโนมัติ,
การควบคุมการเข้าออกสำหรับระบบความปลอดภัยทั่วโลก
และอุปกรณ์ทำความเย็นสำหรับธุรกิจตู้คอนเทนเนอร์และรถเทรลเลอร์ขนส่งสินค้าในยุโรปและอเมริกาเหนือ
"ท่ามกลางความไม่แน่นอนทั่วโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนเช่นนี้ Carrier
และพนักงานทุกคนยังคงให้ความสำคัญและเดินหน้าแก้ไขความท้าทายครั้งใหญ่
ตั้งแต่การปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร การปกป้องอุปทานอาหารและยาของโลก
และการทำให้ประชาชนปลอดภัยและมั่นคง ผมรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้เป็นผู้นำบริษัทที่ยอดเยี่ยมแห่งนี้
และผมภาคภูมิใจอย่างยิ่งในความมานะอุตสาหะและความพร้อมรับมือของพนักงานที่มีความสามารถของเรา
โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้" Dave Gitlin ประธานและซีอีโอของ
Carrier กล่าว "เป็นเวลากว่าหนึ่งศตวรรษที่
Carrier เป็นสัญลักษณ์แห่งความเป็นเลิศ และวันนี้ ในฐานะบริษัทอิสระ
เราได้กำหนดกลยุทธ์ของเราเอง รวมไปถึงวิสัยทัศน์ วัฒนธรรม และลำดับความสำคัญต่าง ๆ
ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ที่เราสั่งสมและสืบทอดมานั้นไม่มีใครเสมอเหมือน และเรามุ่งหวังที่จะสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวเพื่อผู้ถือหุ้นของเรา
รวมถึงมีผู้ส่วนได้ส่วนเสียทุกราย"
กลยุทธ์
ในฐานะบริษัทอิสระ
Carrier จะมุ่งเน้นให้ความสำคัญและยกระดับความคล่องตัวเพิ่มมากขึ้น
โดยยึดตามลำดับความสำคัญและกลยุทธ์การดำเนินงานที่โดดเด่นและแตกต่างของบริษัท
เพื่อการเติบโตและการทำกำไรในระยะยาว ซึ่งรวมถึงการเสริมความแข็งแกร่งและสร้างการเติบโตให้กับธุรกิจหลัก
ๆ การขยายต่อยอดกลุ่มผลิตภัณฑ์และความครอบคลุมทางภูมิศาสตร์
ตลอดจนขยายผลิตภัณฑ์และบริการดิจิทัล
บริษัทมีความพร้อมเป็นอย่างดีกับแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงสำคัญ ๆ
ที่ขับเคลื่อนการเติบโตของอุตสาหกรรม การครองความเป็นผู้นำด้วยฐานที่มั่นคง ระบบปฏิบัติการที่มีวินัย
และความมุ่งมั่นอย่างแน่วแน่ต่อนวัตกรรม
ความรับผิดชอบต่อสังคม
Carrier จะยังคงเดินหน้าให้การสนับสนุนที่มีความหมายแก่ชุมชนทั่วโลกผ่านทางพนักงานจิตอาสา
รวมทั้งการดำเนินงาน ผลิตภัณฑ์และบริการที่มีความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม
Carrier ได้บริจาคเงิน 3 ล้านดอลลาร์เป็นเวลาสามปีให้แก่
The Nature Conservancy เมื่อไม่นานมานี้
เพื่อช่วยให้เมืองต่าง ๆ
เตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้ดีขึ้น
อีกทั้งสนับสนุนการพัฒนาการศึกษา STEM ออนไลน์ให้แก่เด็ก ๆ
ทั่วโลก การดำเนินการดังกล่าวเป็นเครื่องยืนยันถึงความมุ่งมั่นของ Carrier ในการเป็นผู้นำด้านสิ่งแวดล้อม
"เราเป็นผู้นำของโลกในการจัดหาโซลูชันประสิทธิภาพพลังงานสำหรับอาคารทั่วโลก
และเรามุ่งมั่นอย่างเต็มเปี่ยมที่จะขับเคลื่อนความเป็นผู้นำในการจัดหาโซลูชันที่มีความยั่งยืนเพื่อโลกใบนี้
และเพื่อคนรุ่นหลังในอนาคต
การเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชนทั่วโลกทำให้เราเป็นบริษัทที่เข้มแข็งยิ่งขึ้น
ด้วยการสร้างคุณค่าร่วมกันสำหรับธุรกิจและสังคมของเรา" Gitlin กล่าว "ในฐานะบริษัทอิสระ
เราจะสามารถนำความเป็นผู้นำอุตสาหกรรมและความยั่งยืนที่เราได้สั่งสมมานั้น
มาใช้รับมือกับความท้าทายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในวันนี้และวันพรุ่งนี้
ควบคู่ไปกับการผลักดันวิสัยทัศน์และดำเนินกลยุทธ์การเติบโตให้ประสบผลสำเร็จ"
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ
Carrier โฉมใหม่ได้ที่ www.Corporate.Carrier.com
เกี่ยวกับ Carrier
Carrier Global
Corporation เป็นบริษัทชั้นนำของโลกผู้ให้บริการนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านระบบปรับอากาศ
HVAC (HVAC) การทำความเย็น ระบบอัคคีภัย ระบบความปลอดภัย
และระบบอาคารอัตโนมัติ ด้วยชื่อ Carrier
ที่มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี
บริษัทมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกปลอดภัยขึ้นและน่าอยู่มากขึ้นสำหรับคนรุ่นต่อ ๆ ไป
ผ่านทางแบรนด์ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม เช่น Carrier, Kidde, Edwards,
LenelS2 และ Automated Logic ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
www.Corporate.Carrier.com หรือติดตามเราได้ทางโซเชียลมีเดีย @Carrier
ข้อความเตือน – ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความ
โดยเฉพาะข้อความที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีตหรือปัจจุบัน ซึ่งถือเป็น "ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต" (forward-looking
statements) ภายใต้กฎหมายหลักทรัพย์ โดยครั้งคราว
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตอาจถูกรวมไว้ในข้อมูลอื่น ๆ
ที่เผยแพร่ต่อสาธารณะ ทั้งปากเปล่าและเป็นลายลักษณ์อักษร ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์เหล่านี้มีเจตนาเพื่อที่จะให้ทราบถึงการคาดการณ์หรือแผนการในปัจจุบันของฝ่ายบริหารสำหรับการดำเนินงานและผลประกอบการในอนาคตของ
Carrier ตามสมมติฐานที่เชื่อว่ามีเหตุผลสนับสนุน ณ ปัจจุบัน
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตเหล่านี้สามารถระบุได้ด้วยการใช้คำ เช่น "เชื่อ," "คาด," "การคาดการณ์," "แผนการ,"
"กลยุทธ์," "โอกาส,"
"ประมาณการ," "โครงการ,"
"เป้าหมาย," "คาดหวัง,"
"จะ," "ควร,"
"เล็งเห็น," "การแนะนำ,"
"มุมมอง," "เชื่อมั่น"
และคำอื่น ๆ ที่มีความหมายคล้ายกัน
และเกี่ยวข้องกับการดำเนินงานหรือผลประกอบการในอนาคตของบริษัทที่แยกตัวออกจาก United
Technologies ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตอาจรวมถึง
ข้อความที่เกี่ยวข้องกับยอดขาย กำไร กระแสเงินสด ผลประกอบการ การใช้เงินสด
การซื้อหุ้นคืน อัตราภาษี และมาตรการอื่น ๆ
ของผลการดำเนินงานทางการเงินหรือแผนการที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต กลยุทธ์
หรือการทำธุรกรรมต่าง ๆ ของ Carrier ภายหลังการแยกบริษัท
เช่น ต้นทุนที่เกี่ยวข้องกับการแยกกิจการ และข้อความอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตทั้งหมดนั้น
มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยง ความไม่แน่นอน และปัจจัยอื่น ๆ
ที่อาจทำให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างออกไปอย่างมากจากที่แสดงชัดเจนหรือโดยนัยในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต
สำหรับข้อความเหล่านั้น Carrier ขออ้างสิทธิตามหลักการให้ความคุ้มครองข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต
(Safe Harbor) ตามที่ระบุใน U.S. Private Securities
Litigation Reform Act of 1995 ความเสี่ยง ความไม่แน่นอน
และปัจจัยอื่น ๆ ได้แก่: (1) ผลกระทบทางเศรษฐกิจในอุตสาหกรรมและตลาดที่
Carrier และธุรกิจของบริษัทดำเนินงานอยู่ในสหรัฐและทั่วโลก
และการเปลี่ยนแปลงใด ๆ เช่น สภาวะตลาดการเงิน ความผันผวนของราคาสินค้าโภคภัณฑ์
อัตราดอกเบี้ยและอัตราแลกเปลี่ยน ระดับความต้องการของตลาดในด้านการก่อสร้าง
ผลกระทบของสภาพอากาศ ประเด็นสุขภาพจากโรคระบาด (ซึ่งรวมถึงไวรัสโคโรนาและผลกระทบต่าง
ๆ ที่จะทำให้อุปทาน อุปสงค์ และการกระจายสินค้าทั่วโลกหยุดชะงัก
เนื่องจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนายังคงดำเนินต่อไป
และอาจส่งผลกระทบยาวนานมากขึ้นต่อการเดินทาง การพาณิชย์ และ/หรือข้อจำกัดอื่น ๆ
ที่คล้ายกัน) ภัยพิบัติทางธรรมชาติ
และสภาพการเงินของลูกค้าและซัพพลายเออร์ของ Carrier; (2) ความท้าทายในการพัฒนา
การผลิต การจัดส่ง การสนับสนุน ประสิทธิภาพ และการทำให้ผลประโยชน์ที่คาดหวังจากเทคโนโลยีขั้นสูง
ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการใหม่เกิดขึ้นได้จริง (3) ระดับการเป็นหนี้ในอนาคต
ซึ่งรวมถึงการเป็นหนี้ที่เกิดจากการแยกบริษัท การใช้จ่ายด้านทุน และการใช้จ่ายด้านการวิจัยและพัฒนา
(4) ความพร้อมของสินเชื่อและปัจจัยในอนาคตที่อาจส่งผลกระทบต่อความพร้อมดังกล่าว
ซึ่งรวมถึงสภาวะตลาดสินเชื่อ และโครงสร้างเงินทุนของ Carrier (5) เวลาและขอบเขตของการซื้อคืนหุ้นสามัญในอนาคตของ Carrier ที่อาจถูกระงับได้ตลอดเวลาจากปัจจัยต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงสภาวะของตลาดและระดับของกิจกรรมการลงทุนอื่น
ๆ และการใช้เงินสด (6) ความล่าช้าและการหยุดชะงักในการจัดส่งวัสดุและบริการจากซัพพลายเออร์
(7) ความพยายามลดต้นทุน การปรับโครงสร้างต้นทุน การออม
และผลกระทบอื่น ๆ ที่ตามมา (8) โอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและการลงทุน
(9) ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับจากการกระจายความเสี่ยง และสมดุลของการดำเนินงานที่ครอบคลุมกลุ่มผลิตภัณฑ์
ภูมิภาค และอุตสาหกรรมต่าง ๆ (10) ผลลัพธ์ของการดำเนินคดีทางกฎหมาย
การสอบสวน และเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้น (11) สมมติฐานแผนบำนาญและการช่วยเหลือทางการเงินในอนาคต
(12) ผลกระทบของการเจรจาข้อตกลงที่ต่อรองร่วมกันและข้อพิพาทด้านแรงงาน
(13) ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสหรัฐและประเทศที่
Carrier และธุรกิจของบริษัทดำเนินการอยู่ ซึ่งรวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายการค้าของสหรัฐ
หรือการแยกตัวของสหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป ที่มีต่อสภาวะทั่วไปของตลาด
นโยบายการค้าโลก และอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินในระยะเวลาอันใกล้นี้ และในอนาคต (14)
ผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของภาษี สิ่งแวดล้อม กฎระเบียบ (รวมถึงการนำเข้า/ส่งออก)
ตลอดจนกฎหมายและข้อบังคับในสหรัฐและประเทศอื่นที่ Carrier และธุรกิจของบริษัทดำเนินการอยู่
(15) ความสามารถของ Carrier ในการรักษาและว่าจ้างบุคลากรสำคัญ
(16) ขอบเขต ธรรมชาติ ผลกระทบ
หรือระยะเวลาของการเข้าซื้อกิจการและการถอนทุนบริษัท รวมถึงการรวมธุรกิจอื่นที่ซื้อมาร่วมกับธุรกิจเดิม
การทำงานร่วมกัน โอกาสในการเติบโตและนวัตกรรม และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้อง (17)
ประโยชน์ที่คาดหวังจากการแยกบริษัท (18) การกำหนดโดย
IRS และหน่วยงานด้านภาษีอื่น ๆ
ที่การจัดจำหน่ายหรือธุรกรรมที่เกี่ยวข้องบางรายการควรถือเป็นธุรกรรมที่ต้องเสียภาษี
(19) ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการเป็นหนี้ที่เป็นผลมาจากธุรกรรมทางการเงินที่เกี่ยวข้องกับการแยกบริษัท
(20) ความเสี่ยงที่ต้นทุนของการแยกบริษัท
ค่าใช้จ่ายของธุรกรรมการปรับโครงสร้าง และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกิดขึ้นจากการแยกบริษัท
จะเกินกว่าการคาดการณ์ของ Carrier และ (21) ผลกระทบจากการแยกธุรกิจของ Carrier รวมทั้งทรัพยากร ระบบ
ขั้นตอน และการควบคุมของ Carrier การหันเหความสนใจของฝ่ายบริหาร
และผลกระทบต่อความสัมพันธ์กับลูกค้า ซัพพลายเออร์ พนักงาน และคู่ค้าทางธุรกิจอื่น
ๆ รายการปัจจัยข้างต้นไม่ครบถ้วนสมบูรณ์หรือไม่จำเป็นต้องเรียงตามลำดับความสำคัญ โดยข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุให้ผลลัพธ์ที่แท้จริงแตกต่างออกไปอย่างมากจากที่ระบุในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตนั้น
สามารถดูได้จากแบบแสดงรายการข้อมูลการจดทะเบียนของ Carrier ในแบบ
Form 10 และรายงานอื่น ๆ ของ Carrier ในแบบ
Forms 10-K, 10-Q และ 8-K ที่ยื่นหรือจัดเตรียมให้กับ
SEC เป็นครั้งคราว
ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคตทุกข้อความกล่าวถึงเฉพาะวันที่ข้อความนั้นถูกทำขึ้นเท่านั้น
และ Carrier ไม่ขอรับผิดชอบในการปรับปรุงหรือแก้ไขข้อความดังกล่าวให้เป็นปัจจุบัน
แม้จะได้รับข้อมูลใหม่ หรือมีเหตุการณ์ในอนาคตเกิดขึ้นก็ตาม เว้นแต่กฎหมายกำหนด
No comments:
Post a Comment