Wednesday, July 1, 2020

ผลสำรวจล่าสุดของ Global Hygiene Council เผยเด็กเกือบครึ่งไม่ได้ใช้สบู่ทุกครั้งเมื่อล้างมือที่โรงเรียน

ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขอนามัยตอกย้ำถึงความสำคัญของการให้ความรู้และการใช้มาตรการรักษาความสะอาดมืออย่างมีประสิทธิภาพในโรงเรียน ขณะที่เด็ก ๆ เริ่มกลับไปเรียนหนังสือหลังคลายล็อกดาวน์


ผลสำรวจระดับโลกที่จัดทำโดย Global Hygiene Council (GHC) เผยให้เห็นว่า เด็กอายุ 5-10 ปี เกือบครึ่งหนึ่ง (42%) ไม่ได้ใช้สบู่ทุกครั้งเมื่อล้างมือที่โรงเรียน โดยการสำรวจครั้งนี้ถือเป็นการประเมินความตระหนักรู้เรื่องสุขอนามัยและพฤติกรรมของเด็ก ๆ ใน 7 ประเทศ ท่ามกลางการระบาดของโควิด-19 และพบว่าเด็กทุกประเทศใช้สบู่เมื่ออยู่ที่บ้านมากกว่าที่โรงเรียน

เมื่ออยู่ที่โรงเรียน เด็กไม่ถึงครึ่งหนึ่ง (44%) บอกว่ามีคนคอยเตือนให้ล้างมือทุกครั้งก่อนทานอาหาร ขณะที่เด็กส่วนใหญ่ (71%) บอกว่ามีคนคอยเตือนให้ล้างมือทุกครั้งก่อนทานอาหารเมื่ออยู่ที่บ้าน

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ นายแพทย์ Sumanth Gandra จาก Washington University School of Medicine ในเมืองเซนต์หลุยส์ กล่าวว่า "ในขณะที่เด็ก ๆ ทั่วโลกเริ่มกลับไปโรงเรียน การยกระดับการรักษาสุขอนามัยไม่ควรเป็นเพียงมาตรการระยะสั้น การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทำให้ทั่วโลกตระหนักมากขึ้นว่า การรักษาความสะอาดมือมีความสำคัญต่อการหยุดยั้งการระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ นอกจากนี้ มาตรการรักษาสุขอนามัยขั้นพื้นฐานอย่างการล้างมือยังมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคทั่วไป ซึ่งรวมถึงโรคติดเชื้อในระบบทางเดินอาหาร"

ผลสำรวจเผยให้เห็นว่า มีเด็ก ๆ เพียง 60% ที่ระบุว่าโรงเรียนมีสบู่ให้ใช้ตลอด ขณะที่เด็ก 1 ใน 10 คนระบุว่าไม่เคยมีสบู่ใช้ที่โรงเรียนเลย

โรงเรียนเป็นสถานที่ที่มีโอกาสเกิดการแพร่เชื้อสูง และการใช้มาตรการรักษาสุขอนามัยแบบมุ่งเป้าจะช่วยยกระดับการปกป้องให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้ เอกสารทางวิชาการที่เพิ่งเผยแพร่ทางวารสาร American Journal of Infection Control ระบุว่า การยกระดับพฤติกรรมการรักษาสุขอนามัยในชีวิตประจำวันช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อทั่วไปได้สูงถึง 50% และลดการใช้ยาปฏิชีวนะได้สูงสุด 30%

ศาสตราจารย์ Sally Bloomfield จาก London School of Hygiene and Tropical Medicine กล่าวว่า "การรักษาสุขอนามัยแบบมุ่งเป้าหมายถึงการใส่ใจสุขอนามัยเฉพาะจุดเฉพาะเวลา หรือที่เรียกว่า "ช่วงเวลาเสี่ยง" นั่นคือเมื่อเชื้อโรคอันตรายมีแนวโน้มแพร่กระจายมากที่สุด สำหรับช่วงเวลาเสี่ยงในโรงเรียนประกอบด้วยช่วงเตรียมอาหาร ใช้ห้องน้ำ และสัมผัสพื้นผิวต่าง ๆ"

นายแพทย์ Gandra กล่าวเสริมว่า "ควรมีการปลูกฝังพฤติกรรมการรักษาสุขอนามัยที่ดี เช่น การล้างมือ 20 วินาทีด้วยสบู่และน้ำ ให้คนรุ่นใหม่ เพื่อช่วยป้องกันการแพร่ระบาดในอนาคต และปกป้องครอบครัวจากการติดเชื้อ"



No comments:

Post a Comment