- มอบรางวัล 'Power of Radiance Awards' เพื่อประกาศเกียรติคุณสตรีสองท่านผู้อุทิศตนส่งเสริมการศึกษาให้กับเด็กผู้หญิง
ขณะที่โลกกำลังปรับตัวเข้าสู่ภาวะปกติใหม่หรือ New Normal แต่วงการการศึกษากลับหยุดนิ่งอยู่ที่ทางแยก เนื่องจากมาตรการล็อกดาวน์และการปิดโรงเรียนได้ส่งผลกระทบต่อโอกาสทางการศึกษาของเด็กๆ ทั่วโลก Cle de Peau Beaute แบรนด์สกินแคร์และเครื่องสำอางหรู ยังคงยึดมั่นในพันธกิจเพื่อส่งเสริมการศึกษาให้กับเด็กผู้หญิง ด้วยการมอบรางวัล 'Power of Radiance Awards' ประจำปี 2563 เพื่อยกย่องเชิดชูสตรีผู้สร้างแรงบันดาลใจจากการอุทิศตนอย่างแรงกล้าเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของเด็กผู้หญิงผ่านการศึกษา รางวัล 'Power of Radiance Awards' จัดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนมีนาคม 2562 โดยเป็นส่วนหนึ่งของพันธกิจเพื่อสังคมในระยะยาวของ Cle de Peau Beaute ซึ่งมุ่งสนับสนุนการศึกษาและสร้างคุณค่าให้เด็กผู้หญิง สำหรับในปีนี้ ทางแบรนด์ได้ยกย่องความสำเร็จอันโดดเด่นของ Binita Shrestha และ Pratiksha Pandey จากเนปาล ผู้อุทิศตนเพื่อส่งเสริมการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์ (STEM) แก่เด็กผู้หญิงในเนปาลผ่านทางองค์กรที่ทั้งสองได้ร่วมจัดตั้งขึ้น ซึ่งมีชื่อว่า "Women in STEM Nepal" (WiSTEM Nepal)
ในช่วงที่โควิด-19 ระบาดหนัก การศึกษาของเด็กนักเรียนทั่วโลกกว่า 90% ต้องหยุดชะงัก* ซึ่งนั่นยิ่งทำให้ปัญหาเรื่องความด้อยโอกาสทางการศึกษาในกลุ่มที่เปราะบาง อย่างเช่นเด็กผู้หญิง ไม่ได้รับการเหลียวแลมากขึ้นไปอีก เนื่องด้วยการเข้าถึงการศึกษาและความรู้ด้านเทคโนโลยีถูกจำกัดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้น เพื่อสร้างอนาคตที่เท่าเทียมมากขึ้นสำหรับเด็กผู้หญิง และเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระยะยาวทั้งต่อชีวิตและชุมชนของเด็กหญิงเหล่านั้น จึงจำเป็นที่จะต้องให้ความสำคัญกับสะเต็มศึกษา (STEM education) เป็นอันดับแรก เพราะสะเต็มศึกษาจะช่วยเสริมสร้างทักษะที่เอื้อต่อการทำงานในอนาคตให้กับเด็กผู้หญิง อันจะนำไปสู่การยกระดับทางการเงินและพึ่งพาตนเองได้
ในยามที่โลกต้องรักษาระยะห่างทางสังคม Cle de Peau Beaute ตระหนักถึงความจำเป็นที่จะต้องเชื่อมโยงผู้คนและระดมความคิดเพื่อให้ก้าวพ้นข้อจำกัดทางวัฒนธรรมและภูมิศาสตร์ และเพื่อให้เด็กทุกคนมีสิทธิ์ได้รับการศึกษา Cle de Peau Beaute จึงมุ่งหวังที่จะใช้รางวัล 'Power of Radiance Awards' เป็นเครื่องมือในการขจัดอุปสรรคทางการศึกษาอันเนื่องมาจากการระบาดของโควิด-19 ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ไม่สามารถจัดการเรียนการสอนได้ต่อเนื่อง สำหรับปีนี้ การมอบรางวัล 'Power of Radiance Awards' ประจำปีครั้งที่สอง ถูกจัดขึ้นทางออนไลน์เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมทั่วโลก โดยในพิธีมอบรางวัล ได้มีการยกย่องความสำเร็จที่น่าทึ่งของ น.ส. Shrestha น.ส. Pandey และสตรีอีกหลายคนจากทั่วโลกที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์ จากการอุทิศตนเพื่อช่วยให้เด็กผู้หญิงได้รับการศึกษาในช่วงเวลาที่ท้าทายเช่นนี้ ภายในงานยังมีการแสดงทัศนะเกี่ยวกับความสำคัญของการจัดการศึกษาอย่างต่อเนื่องในยุคนิวนอร์มอล นอกจากน.ส.Shrestha และน.ส. Pandey แล้ว งานนี้ได้รับเกียรติจาก Toni Garrn นางแบบ นักแสดง และนักสิทธิมนุษยชน, Chriselle Lim ดิจิทัลคอนเทนต์ครีเอเตอร์และเจ้าของธุรกิจ, Fionnghuala O'Reilly นางแบบ นางงาม NASA Datanaut และผู้อำนวยการ Space Apps DC ร่วมด้วย Chiaki Horan พีธีกรและนักแสดง ขณะเดียวกัน งานอีเวนต์ออนไลน์นี้ยังประกอบด้วยการเสวนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างผู้หญิงทั้งหกคน ในประเด็นเกี่ยวกับความสำคัญของการแสวงหาแนวทางที่มีความหมายเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้กับเด็กผู้หญิงรุ่นใหม่โดยใช้การศึกษาและวิชา STEM เป็นเครื่องมือ ในช่วงท้ายของการจัดงาน ได้มีการเปิดวิดีโอเพื่อถ่ายทอดเรื่องราวที่เด็กสาวได้พูดถึงความฝันและเป้าหมายในอนาคตเพื่อส่งต่อความหวังให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป
Binita Shrestha กล่าวว่า "ดิฉันเชื่อมั่นว่า สะเต็มศึกษาเป็นทักษะที่จำเป็นแห่งศตวรรษที่ 21" และเสริมว่า "การศึกษาวิชาต่างๆ ในหมวดสะเต็มจะช่วยให้เด็กผู้หญิงได้รับโอกาสการจ้างงานไม่มีที่สิ้นสุด พึ่งพาตนเองได้มากขึ้น และเชื่อมโยงเข้ากับชุมชนของตนเองและโลกรอบตัวได้ดีขึ้น การได้รับรางวัล 'Power of Radiance Awards' จาก Cle de Peau Beaute เป็นแรงผลักดันให้เราเข้าใกล้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงระบบการศึกษาของเนปาลไปอีกหนึ่งก้าว และทลายมายาคติเรื่องเพศในสะเต็มศึกษาด้วย"
ทางด้าน Pratiksha Pandey เปิดเผยว่า "รางวัล 'Power of Radiance Awards' จาก Cle de Peau Beaute เป็นการหยิบยื่นโอกาสครั้งสำคัญในการช่วยให้เราเดินหน้าสร้างคุณค่าให้กับเด็กผู้หญิงและสตรีในเนปาลได้ต่อไป" และเธอยังกล่าวด้วยว่า "ช่วงเริ่มก่อตั้ง WiSTEM Nepal เราพบข้อจำกัดในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย การให้ความช่วยเหลือ และเงินสนับสนุน รางวัลที่ได้รับจึงมีความสำคัญในการช่วยสนับสนุนการดำเนินงานของเราเพื่อส่งเสริมสะเต็มศึกษาให้กับเด็กผู้หญิงที่ด้อยโอกาสและในชนบทของเนปาล"
น.ส. Yukari Suzuki ประธานเจ้าหน้าที่แบรนด์ Cle de Peau Beaute กล่าวว่า "ที่ Cle de Peau Beaute เราเชื่อว่า กุญแจสู่วันพรุ่งนี้ที่ดีกว่า อยู่ที่การปลดล็อกศักยภาพของเด็กผู้หญิงผ่านการศึกษา รางวัล 'Power of Radiance Awards' เชิดชูพลังของผู้หญิงที่ลงมือทำเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีในชุมชนของพวกเธอด้วยการศึกษา เราหวังว่าการมอบรางวัลให้คุณ Binita Shrestha และ Pratiksha Pandey จะเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้คนอื่นๆ มาร่วมกับเราในการเสริมสร้างศักยภาพแก่เด็กผู้หญิงรุ่นต่อๆ ไปผ่านสะเต็มศึกษา เพื่อที่พวกเธอก็จะสามารถสรรสร้างสังคมที่เจิดจรัส เท่าเทียมและยุติธรรมมากขึ้นได้เช่นเดียวกัน"
สำหรับเงินรางวัลในโครงการ 'Power of Radiance Awards' จะมาจากยอดขายผลิตภัณฑ์ The Serum ของ Cle de Peau Beaute ทั่วโลก
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.cledepeau-beaute.com/int/powerofradiance-2020.html
แหล่งข้อมูล: UNESCO
(https://en.unesco.org/covid19/educationresponse/globalcoalition)
เกี่ยวกับ Cle de Peau Beaute
Cle de Peau Beaute แบรนด์หรูระดับโลกจากชิเซโด้ คอสเมติกส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2525 โดยแสดงถึงความสง่างามและวิทยาศาสตร์อันเหนือชั้น Cle de Peau Beaute แปลว่ากุญแจสู่ผิวสวย ปรัชญาของแบรนด์คือการปลดล็อกพลังความเปล่งประกายของผู้หญิงด้วยเทคโนโลยีเครื่องสำอางและสกินแคร์คุณภาพจากทั่วโลก ผลิตภัณฑ์ของ Cle de Peau Beaute ยึดมั่นในสัมผัสแห่งสุนทรียศาสตร์และอัจฉริยภาพเป็นสำคัญ จึงอัดแน่นไปด้วยความทันสมัย เสน่ห์เย้ายวน และแรงผลักดันที่จะก้าวขึ้นเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในการมอบความสว่างกระจ่างใสจากภายใน ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ของ Cle de Peau Beaute วางจำหน่ายใน 20 ประเทศและดินแดนทั่วโลก
เว็บไซต์ทางการของ Cle de Peau Beaute: www.cledepeau-beaute.com
อินสตาแกรมทางการของ Cle de Peau Beaute: https://www.instagram.com/cledepeaubeaute/
สำหรับบรรณาธิการ:
เกี่ยวกับ Binita Shrestha
Binita Shrestha เป็นวิศวกรด้านไอที นักการศึกษา และผู้ประกอบการทางสังคม ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา เธอและทีมงานร่วมกันทลายมายาคติของสังคมเกี่ยวกับ STEAM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม ศิลปะ และคณิตศาสตร์) และอาชีพในสายคอมพิวเตอร์ สำหรับเด็กสาววัยรุ่นในเนปาล ด้วยการริเริ่มโครงการรณรงค์เพื่อการรู้หนังสือวิชา STEAM หลากหลายโครงการเพื่อช่วยลดช่องว่างที่ชัดเจนระหว่างเพศ โดยเธอได้ดูแลกิจการการกุศลด้านเทคโนโลยีที่ประสบความสำเร็จหลายโครงการ ซึ่งรวมถึงการเป็นพันธมิตรกันระหว่าง WiSTEM Nepal, UNICEF และ Nepal Telecommunication
เกี่ยวกับ Pratiksha Pandey
Pratiksha Pandey เป็นวิศวกรอิเล็กทรอนิกส์และการสื่อสาร เธออุทิศตนเพื่อหยุดการแบ่งแยกทางเพศ เธอสนับสนุนให้ผู้หญิงนั่งเรียนในแถวหน้าของห้องเรียน และไล่ตามความฝันในการเรียนรู้และการศึกษาหาความรู้อย่างเต็มภาคภูมิ ในฐานะกรรมการของ WiSTEM Nepal น.ส. Pandey ได้จัดอบรมด้านการเขียนโค้ด อิเล็กทรอนิกส์ และการออกแบบ เพื่อช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้กับเด็กหญิงรุ่นต่อไปในการทำตามความฝันที่จะประกอบอาชีพในสายงาน STEM นอกจากนี้ เธอยังทำงานเป็นที่ปรึกษาให้กับเด็กผู้หญิง 1,000 คน และโครงการแห่งอนาคตนับ 1000 โครงการของ The New York Academy of Sciences
เกี่ยวกับ Toni Garrn
Toni Garrn เป็นนางแบบระดับโลก เป็นนักสิทธิมนุษยชน และเป็นพรีเซ็นเตอร์ของ Cle de Peau Beaute นอกจากนี้ เธอยังดำรงตำแหน่งทูตกิจกรรมรณรงค์ "Girls Get Equal" ระดับโลกขององค์การแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นกิจกรรมระหว่างประเทศที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมสิทธิของเด็กผู้หญิง
เกี่ยวกับ Chriselle Lim
Chriselle Lim เป็นหนึ่งในคอนเทนต์ครีเอเตอร์ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก และเป็นซูเปอร์สตาร์แห่งวงการดิจิทัล นอกจากจะเป็นผู้สร้าง Chriselle Factor แล้ว เธอยังเป็นแบบอย่างที่สร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้หญิงทั่วโลกในการจัดสรรเวลาทำงานและชีวิตส่วนตัวอย่างเหมาะสม เธอยังเป็นผู้ก่อตั้ง B?MO ชุมชนดิจิทัลและกายภาพ ที่สร้างขึ้นเพื่อทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองมีชีวิตที่ง่ายขึ้น จรรยาบรรณในการทำงาน แรงผลักดันส่วนตัว ตลอดจนความสามารถอันน่าทึ่งของเธอ เป็นตัวอย่างที่แสดงให้เห็นถึงของความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุดสำหรับเด็กผู้หญิงทั่วโลก
เกี่ยวกับ Fionnghuala O'Reilly
Fionnghuala O'Reilly เป็นผู้หญิงที่สะท้อนแก่นแท้ของพลังแห่งสะเต็มศึกษาและความเป็นไปได้ไม่สิ้นสุดสำหรับผู้หญิง เธอเป็นวิศวกร โดยสำเร็จการศึกษาจากมหาวิทยาลัยจอร์จวอชิงตัน แม้ทำงานในแวดวงวิศวกรรมที่ผู้ชายครองความเป็นใหญ่ แต่เธอก็ประสบความสำเร็จและสามารถบรรลุภารกิจในการแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงสามารถทลายเพดานแก้วได้อย่างไร เมื่อปีที่ผ่านมา เธอเปิดตัว #ReachForTheStars ซึ่งเป็นกิจกรรมรณรงค์ทางโซเชียลมีเดียที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเชิดชูความสำคัญของผู้หญิงและความหลากหลายในสาขาวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรม และคณิตศาสตร์
เกี่ยวกับ Chiaki Horan
Chiaki Horan เกิดและเติบโตในกรุงโตเกียว เธอกลายเป็นบุคคลสำคัญของวงการสื่อญี่ปุ่น เป็นทั้งพีธีกรรายการโทรทัศน์และนักแสดง การได้รับการอมรมและเลี้ยงดูจากบิดาชาวไอริชและมารดาชาวญี่ปุ่นทำให้เธอมีความสนใจในวัฒนธรรมตะวันตก และเลือกเรียนวรรณคดีอังกฤษที่มหาวิทยาลัยอาโอยามะ กักคุอิน ที่มีชื่อเสียงในกรุงโตเกียว โดยเธอได้รับรางวัลจากความขยันและตั้งใจเรียนในระหว่างศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งนี้ และเนื่องด้วยเป็นคนพูดจาฉะฉาน เธอจึงกลายเป็นผู้ดำเนินรายการข่าวประจำสถานีโทรทัศน์ TBS (Tokyo Broadcasting Television) ซึ่งนำเสนอหัวข้อที่หลากหลาย ตั้งแต่การเมืองไปจนถึงกิจกรรมทางวัฒนธรรม และเป็นแรงบันดาลใจให้เด็กสาวกล้าแสดงออกและพัฒนาการคิดเชิงวิพากษ์
No comments:
Post a Comment