เซนต์คิตส์และเนวิสครองอันดับประเทศที่พาสปอร์ตแข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศแถบแคริบเบียนที่มีโปรแกรมลงทุนเพื่อขอสัญชาติ

      เป็นปีที่ 5 ติดต่อกันแล้วที่สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสครองอันดับ 1 ในการจัดอันดับพาสปอร์ตที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศแถบแคริบเบียนที่มีโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ หรือ Citizenship by Investment (CBI) ข้อมูลจากสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (IATA) ระบุไว้ว่า ผู้ถือพาสปอร์ตของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสสามารถเดินทางไปได้ 157 ประเทศ แม้ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พลเมืองของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสเดินทางไปได้หลายประเทศมากกว่าปีที่แล้ว

นอกเหนือไปจากการมีพาสปอร์ต CBI ที่แข็งแกร่งที่สุดของแคริบเบียนแล้ว สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสยังครองอันดับเหนือกว่าประเทศอื่น ๆ ที่เสนอโปรแกรม CBI เช่น มอนเตเนโกร ตุรกี และวานูอาตู และเมื่อมองไปทั่วโลกแล้ว พาสปอร์ตของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสถูกจัดให้อยู่ในอันดับที่ 24 ของโลก แซงหน้าประเทศที่มีขนาดใหญ่กว่าและพัฒนาแล้วหลายแห่ง

"เรารู้สึกภูมิใจที่ได้รับตำแหน่งพาสปอร์ตที่แข็งแกร่งที่สุดเป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศแถบแคริบเบียนที่มีโปรแกรมลงทุนเพื่อขอสัญชาติ" Les Khan ซีอีโอของโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส กล่าว "เป็นอีกครั้งที่เน้นย้ำถึงข้อเสนอที่แข็งแกร่งของพาสปอร์ตสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส และโปรแกรมการลงทุนเพื่อขอสัญชาติ ทั้งยังเป็นการยอมรับถึงความสามารถของเราในการปรับตัวและสร้างสิ่งใหม่ได้อย่างคล่องตัว ตัวอย่างเช่นในปีนี้ เราได้เปิดตัวทางเลือกการลงทุนใหม่ ๆ นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการดำเนินการต่าง ๆ ในระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และการเปิดตัวข้อเสนอแบบจำกัดเวลา ขณะที่ยังคงใช้มาตรฐานการตรวจสอบระดับสูงสุดของเรา"

สหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิสเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักลงทุนจากเอเชียที่ต้องการหาความปลอดภัยและมั่นคง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงระหว่างการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 มีนักลงทุนมากมายที่ติดอยู่ในประเทศที่ให้โอกาสไม่มากนัก ความต้องการโอกาสในการเคลื่อนย้ายอย่างรวดเร็วในกรณีที่มีการล็อกดาวน์อีกครั้งจึงเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง หลายประเทศ เช่น เวียดนามและกัมพูชาสามารถเดินทางไปได้เพียง 54 ประเทศโดยไม่ต้องขอวีซ่า ขณะที่ไทยสามารถไปได้ 79 ประเทศ

"ขณะที่การสิ้นสุดของการแพร่ระบาดดูเหมือนจะใกล้เข้ามาแล้ว แต่ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมาก็แสดงให้เห็นถึงความจำเป็นในการมีแผนสำรองในช่วงเวลาที่ผันผวน" Micha Emmett ซีอีโอของ CS Global Partners กล่าว "การมีสัญชาติที่สองให้ความมั่นใจได้ว่า ต่อให้มีการล็อกดาวน์อีกครั้ง คุณและครอบครัวของคุณก็สามารถเดินทางระหว่างประเทศได้ และไม่ส่งผลเสียต่อความปลอดภัยของคุณ"

กลุ่มผู้ที่เลือกลงทุนในโปรแกรม CBI ของสหพันธรัฐเซนต์คิตส์และเนวิส มั่นใจได้ว่านี่คือประเทศในอุดมคติ ด้วยความเคารพหลักนิติธรรมอย่างจริงจังและอัตราการเกิดอาชญากรรมต่ำ โปรแกรมนี้ก่อตั้งขึ้นในปี 2527 โดยเป็นโปรแกรมที่ดำเนินการมายาวนานที่สุดในโลกและมีชื่อเสียงในระดับโลกในฐานะแบรนด์ "มาตรฐานระดับแพลทินัม" ผู้ที่ผ่านเกณฑ์การลงทุนในกองทุน Sustainable Growth Fund ของโปรแกรม และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยที่จำเป็น จะได้รับสิทธิ์ให้อยู่อาศัย ทำงาน และศึกษาในประเทศควบคู่ไปกับความคล่องตัวระดับโลกที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ พวกเขายังมีโอกาสเข้าถึงสถาบันการศึกษาชั้นนำและส่งต่อสัญชาติให้ลูกหลานได้ด้วย

ติดต่อ : 
+44 (0)7867 942505 
pr@csglobalpartners.com 
www.csglobalpartners.com