ผู้นำด้านหุ่นยนต์คลังสินค้าบรรลุความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ในเวลาเพียง 94 วัน
Locus Robotics (www.locusrobotics.com) ผู้นำตลาดหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติ (AMR) สำหรับคลังสินค้าพร้อมจัดส่ง ประกาศในวันนี้ว่า ทางบริษัทได้บรรลุความสำเร็จครั้งสำคัญด้วยยอดการหยิบสินค้ากว่า 500 ล้านชิ้น โดยใช้เวลาเพียง 94 วันหลังจากที่ Locus หยิบสินค้าไปได้ถึงระดับ 400 ล้านชิ้น
Rick Faulk ซีอีโอของ Locus Robotics กล่าวว่า "การบรรลุเป้าหมายครั้งสำคัญในการหยิบสินค้าทะลุหลัก 500 ล้านชิ้นอย่างรวดเร็วของเรานั้น เป็นการตอกย้ำคุณค่าทางธุรกิจที่เทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์แล้วของบริษัทมอบให้กับลูกค้าทั่วโลก ขณะที่พวกเขาเผชิญกับปริมาณการสั่งซื้อที่ล้นหลาม ท่ามกลางสภาพแรงงานที่มีจำกัด" และเพิ่มเติมว่า "ในช่วงเวลาที่ตลาดอีคอมเมิร์ซมีปริมาณเพิ่มขึ้น ความเร็วของการหยิบสินค้าด้วย LocusBots ก็เพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณเช่นกัน โดย Locus ใช้เวลา 1,542 วันในการบรรลุเป้าหมายการหยิบสินค้าครบ 100 ล้านชิ้นแรก ในขณะที่การขนส่งสินค้า 100 ล้านชิ้นครั้งล่าสุดนั้นใช้เวลาเพียง 94 วัน Locus ภูมิใจที่ได้มีส่วนช่วยให้ลูกค้าของเรารับมือกับความท้าทายนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมมอบความสำเร็จให้กับลูกค้า รวมถึงการเติบโตอย่างยืดหยุ่นในอนาคต"
การหยิบสินค้าชิ้นที่ 500 ล้านเกิดขึ้นที่ VF Corporation Fulfillment Center ในกรุงปราก สาธารณรัฐเช็ก โดยสินค้าชิ้นนั้นคือรองเท้า Vans Old Skool
การที่ผู้ซื้อสินค้าทางออนไลน์มีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ขณะที่ธุรกิจหลายแห่งต่างเตรียมความพร้อมรับมือกับช่วงเทศกาลวันหยุดที่จะมียอดสั่งซื้อเข้ามาจำนวนมหาศาล ผู้ค้าปลีกและผู้ประกอบการคลังสินค้าพร้อมส่งจึงหันมาใช้ AMR เพื่อตอบสนองความต้องการที่เพิ่มขึ้น และบรรเทาปัญหาการขาดแคลนแรงงาน เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่จะสูญเสียลูกค้าอันมีค่าไป
"DHL Supply Chain มุ่งมั่นที่จะนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตให้กับลูกค้าของเราร่วมกับพันธมิตรอย่าง Locus เพื่อให้พวกเขามีความสามารถและความยืดหยุ่นในการคว้าประโยชน์จากโอกาสใหม่ ๆ ในตลาด" Adrian Kumar รองประธานฝ่ายวิทยาการการจัดการระดับโลกของ DHL Supply Chain กล่าว "เราขอแสดงความยินดีกับ Locus สำหรับความสำเร็จครั้งสำคัญนี้ และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับ Locus ต่อไปเพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงาน ส่งเสริมศักยภาพ และส่งมอบการพัฒนาอย่างต่อเนื่องภายในห่วงโซ่อุปทานของลูกค้าของเรา"
ปัจจุบัน LocusBots ลำเลียงสินค้าเป็นระยะทางมากกว่า 3 ล้านไมล์ในโกดังของลูกค้า หรือเทียบเท่ากับการเดินทางรอบโลก 120 ครั้ง
"นวัตกรรมและแรงผลักดันที่ไม่เคยหยุดในการส่งมอบความสำเร็จให้กับลูกค้า คือปัจจัยหลักในความสำเร็จครั้งนี้" John Santagate รองประธานฝ่ายวิทยาการหุ่นยนต์ของ Korber Supply Chain กล่าว "การหยิบสินค้าครบ 500 ล้านชิ้นของ LocusBots ถือเป็นหลักชัยสำคัญ เราขอแสดงความยินดีกับทีม Locus และเป้าหมายที่ 500 ล้านชิ้นถัดไป"
โซลูชันหุ่นยนต์ลำเลียงสินค้าชั้นนำในอุตสาหกรรมของ Locus Robotics ช่วยให้แบรนด์ ผู้ค้าปลีก และผู้ดำเนินการด้านโลจิสติกส์ซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 (3PL) สามารถรับมือกับปริมาณการสั่งซื้อที่สูงขึ้นได้อย่างง่ายดาย ตลอดจนความต้องการของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้นสำหรับระบบบริหารและจัดการคลังสินค้าในธุรกิจอีคอมเมิร์ซ การค้าปลีก ออมนิชาแนล และการสั่งผลิต ทั้งนี้ Locus Robotics มีลูกค้าจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น CEVA, DHL, Boots UK, GEODIS, Whiplash, Saddle Creek, Quiet 3PF, Radial และอื่น ๆ ซึ่งเทคโนโลยีของบริษัทสามารถเพิ่มศักยภาพการทำงานขึ้นจากเดิม 2-3 เท่า ไปพร้อมกับการช่วยลดต้นทุนด้านการสรรหาบุคลากร การฝึกอบรม และการรักษาแรงงาน
เกี่ยวกับ Locus Robotics
โซลูชันแบบมัลติบอท (multi-bot) ระดับปฏิวัติวงการของ Locus Robotics ได้รวมเอาหุ่นยนต์เคลื่อนที่อัตโนมัติที่ชาญฉลาดและทรงพลังซึ่งสามารถทำงานร่วมกับแรงงานที่เป็นมนุษย์ มาใช้ปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการสินค้าได้มากขึ้น 2-3 เท่าโดยใช้แรงงานน้อยกว่าระบบหยิบสินค้าแบบดั้งเดิม โซลูชันระดับรางวัลนี้ช่วยให้ผู้ค้าปลีก ผู้ดำเนินการด้านโลจิสติกส์ซึ่งเป็นบุคคลที่ 3 และคลังสินค้าพิเศษสามารถตอบสนองข้อกำหนดที่ซับซ้อนมากขึ้นในการจัดการคลังสินค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ LocusBots สามารถใช้งานในโครงสร้างพื้นฐานคลังสินค้าที่มีอยู่แล้วหรือคลังสินค้าใหม่ได้อย่างง่ายดาย โดยไม่กระทบต่อรูปแบบการทำงาน เพื่อยกระดับประสิทธิภาพการทำงานทันทีโดยไม่ต้องเปลี่ยนคลังสินค้า สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมโปรดเยี่ยมชมที่ www.locusrobotics.com
ติดต่อ: North America, Christina Gorini, BRANDSTYLE, Christina@brandstyle.com, +1 732-496-1118; or UK/EU, Duncan Tift, ADFIELD, duncan@adfield.co.uk, +44 (0) 1952 752511
โลโก้ - https://mma.prnewswire.com/media/1440363/Locus_Robotics_Logo.jpg
No comments:
Post a Comment