- การประชุมสุดยอดนัดพิเศษเพื่อถกเรื่องเอไอ พาสำรวจบทบาทของเอไอในการพลิกโฉมการเงิน อุตสาหกรรม และสังคมมนุษย์
- การประชุมสุดยอดหัวข้อคาร์บอนชวนประชาคมโลกใต้ร่วมกำหนดกรอบการดำเนินงานด้านตลาดคาร์บอน เพื่อระดมทุนส่งเสริมสิ่งแวดล้อม
- เปิดตัวเครื่องมือ ESG เพื่อลดความเหลื่อมล้ำทางการลงทุนด้าน ESG หลัก 5.4 ล้านล้านดอลลาร์ในตลาดเกิดใหม่
วันสุดท้ายของการประชุม FII7 ชูขอบเขตใหม่ของการลงทุนและเทคโนโลยี โดยเน้นในภาคอวกาศและการบิน เทคโนโลยีชีวภาพ ความปลอดภัยทางไซเบอร์ หุ่นยนต์ การร่วมลงทุน ประเทศสตาร์ตอัป และอื่น ๆ อีกมากมาย
การประชุมนี้ได้เปิดเวทีสุดยอดนัดพิเศษเพื่อถกประเด็นด้านปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ (AI) โดยมีบุคคลระดับแถวหน้าร่วมหารือเกี่ยวกับกฎระเบียบเอไอระดับโลกมากมาย ทั้งดร. เอริค เดมเลอร์ (Eric Daimler) ผู้ร่วมก่อตั้งและซีอีโอของโคเน็กซัส (Conexus) คุณไมเคิล คราซิออส (Michael Kratsios) กรรมการผู้จัดการของสเกล เอไอ (Scale AI) และฯพณฯ เซบาสเตียน เคิร์ซ (Sebastian Kurz) อดีตนายกรัฐมนตรีสหพันธรัฐสาธารณรัฐออสเตรีย
วิทยากรท่านอื่น ๆ ได้แก่ คุณจอห์น เคอร์ติอุส (John Curtius) ผู้ก่อตั้งเซดาร์ อินเวสต์เมนต์ เมเนจเมนต์ (Cedar Investment Management) คุณลอเรนซ์ โมโรนีย์ (Laurence Moroney) หัวหน้าฝ่ายเอไอของกูเกิล (Google) และคุณรามี กาเซ็ม (Rami Qasem) รองประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของบียอนด์ ลิมิตส์ (Beyond Limits)
การประชุมสุดยอดเอไอได้อภิปรายข้อมูลล่าสุดจากโกลด์แมน แซคส์ อีโคโนมิกส์ (Goldman Sachs Economics) ซึ่งระบุว่าภายในปี 2568 การลงทุนที่เกี่ยวข้องกับเอไอทั่วโลกอาจสูงถึง 2 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ สะท้อนให้เห็นศักยภาพของเอไอในการพลิกวงการ เพื่อปฏิวัติประสิทธิภาพการผลิต และปรับโฉมกระบวนการทางธุรกิจ ในขณะที่ก้าวไปสู่การใช้งานทางเศรษฐกิจและสังคมในวงกว้าง
นิโคลัส แครีย์ (Nicolas Carey) ผู้ร่วมก่อตั้งและรองประธานบล็อกเชนดอตคอม (Blockchain.com) กล่าวว่า "เอไอและอนาคตของบริการทางการเงินจะมีความสัมพันธ์กันอย่างมาก ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่เทคโนโลยีอย่างบล็อคเชนและเอไอเกิดขึ้นพร้อม ๆ กัน สิ่งนี้มีความเชื่อมโยงกันสูง คุณต้องมีสารสนเทศจำนวนมาก ทั้งยังต้องมีศักยภาพหลายด้าน และต้องเข้าใจได้ว่าสารสนเทศเหล่านี้เผยอะไรให้คุณทราบบ้าง"
ในการประชุมได้อภิปรายวิธีที่หน่วยงานกำกับดูแลระดับโลก ฝ่ายบัญญัติกฎหมายระดับชาติ และองค์กรพัฒนามาตรฐาน เริ่มพัฒนากรอบการทำงานเพื่อเพิ่มประโยชน์ของเอไอให้กับสังคม ในขณะเดียวกันก็ช่วยลดความเสี่ยงที่ทราบและไม่ทราบด้วย
การประชุมโกลบอล เซาธ์ คาร์บอน มาร์เก็ตส์ (Global South Carbon Markets) นัดพิเศษ ได้รวมผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากโลกใต้ โดยร่วมแรงร่วมใจกำหนดวาระและผลลัพธ์ที่ต้องการก่อนการประชุม COP28
ส่วนการประชุมระดับผู้บริหารทำหน้าที่เป็นเวทีให้ซีกโลกใต้มารวมตัวกัน โดยมีเป้าหมายร่วมกันในการกำหนดกรอบการดำเนินงานด้านตลาดคาร์บอนภายใน ที่สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ด้านสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งหมดนี้เป็นไปตามบริบทของการส่งเสริมความยุติธรรมด้านสภาพภูมิอากาศในระดับโลก
ในวันสุดท้ายของการประชุม FII7 ทางสถาบันยังได้เปิดตัวเครื่องมือและคะแนนสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) แบบครอบคลุม ในการประชุมหลักประจำปีของ FII เพื่อปรับปรุงคุณภาพของข้อมูลเกี่ยวกับ ESG ในตลาดเกิดใหม่ และเสริมศักยภาพบริษัทต่าง ๆ ในตลาดเหล่านี้ให้ได้รับกระแสทางการเงิน ความคิดริเริ่มนี้ได้รับการพัฒนาด้วยความร่วมมือกับอีเอสจี บุ๊ก (ESG Book) ซึ่งเป็นผู้นำระดับโลกในด้านข้อมูลและเทคโนโลยีเกี่ยวกับความยั่งยืน
เครื่องมือ ESG แบบครอบคลุมของสถาบัน FII ได้รับการพัฒนาเพื่อช่วยให้บริษัทต่าง ๆ ในตลาดเหล่านี้ ปรับปรุงความพยายามและผลลัพธ์ด้านความยั่งยืนได้ ขณะเดียวกันก็ช่วยให้นักลงทุนพบผู้นำด้านผลการดำเนินงานในปัจจุบันและอนาคตด้วย
เมื่อสิ้นสุดวันที่ 3 การประชุม FII7 ก็มีการประกาศการลงทุนมูลค่าถึง 1.79 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการลงทุนที่สอดรับกับกระแสโลกในหลากหลายภาคส่วน โดยกองทุนการลงทุนสาธารณะ (Public Investment Fund) ได้ประกาศความร่วมมือกับผู้ผลิตยางล้อของอิตาลีอย่างพีเรลลี่ (Pirelli) ซึ่งมุ่งมั่นที่จะสร้างขีดความสามารถด้านการผลิตในท้องถิ่น โดยสร้างโรงงานผลิตยางล้อในซาอุดีอาระเบีย ขณะที่เอซีดับบลิวเอ พาวเวอร์ (ACWA Power) ลงนามข้อตกลงทางการเงินเพื่อพัฒนาโครงการพลังงานลมขนาด 240MW ในอาเซอร์ไบจาน กับธนาคารเพื่อการบูรณะและพัฒนาแห่งยุโรป และกองทุนโอเปกเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ
นอกจากนี้ ทางสถาบัน FII ยังได้เพิ่มการลงทุนใหม่อีก 2 รายการในพอร์ตโฟลิโอ ทำให้มีการลงทุนในบริษัทสตาร์ตอัประดับนานาชาติทั้งหมด 9 รายการ ซึ่งสอดคล้องกับเป้าหมาย ESG ของทางสถาบัน โดยได้ลงทุนครั้งแรกกับบริษัทสัญชาติลาตินอย่างแพลนต์ สควอด (Plant Squad) ผู้นำตลาดโปรตีนทางเลือกจากพืช ซึ่งนำเสนอรสชาติดั้งเดิมและสูตรที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าคู่แข่ง และได้ลงทุนครั้งที่สองกับอัลทิม (Ultim) ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มระดับโลกในด้านเซลล์เชื้อเพลิงไฮโดรเจน
คุณริชาร์ด อัตเทียส (Richard Attias) ซีอีโอของสถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต หรือสถาบัน FII กล่าวว่า "ในช่วง 3 วันที่ผ่านมา เรามีผู้นำระดับโลก ยักษ์ใหญ่แห่งวงการการเงิน และผู้เชี่ยวชาญในสาขาต่าง ๆ ซึ่งไม่เพียงแต่พูดคุยกันเท่านั้น แต่ยังสำรวจหาและตกลงที่จะดำเนินการอย่างจริงจังเพื่อปรับปรุงภูมิทัศน์การลงทุน ส่งเสริมเศรษฐกิจ กระตุ้นการสนับสนุน และปรับปรุงโลกของเราในท้ายที่สุด FII เตรียมย้ายจากตะวันออกกลางไปยังตะวันออกไกลในเร็ว ๆ นี้ด้วยการประชุมเอฟไอไอ ไพรออรีตี ซัมมิต (FII PRIORITY Summit) ที่ฮ่องกงในวันที่ 7 และ 8 ธันวาคม และเราจะสานต่อภารกิจของเราในการเปลี่ยนแปลงชีวิตและอนาคตของมนุษย์ทั่วโลก"
เกี่ยวกับสถาบัน FII
สถาบันโครงการลงทุนเพื่ออนาคต หรือสถาบัน FII คือมูลนิธิไม่แสวงหาผลกำไรระดับโลกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและมีเครื่องมือการลงทุนและมีเป้าหมายเพียงหนึ่งเดียวคือการสร้างอิทธิพลเชิงบวกต่อมนุษยชาติ เราดำเนินงานอย่างครอบคลุมในระดับโลก เราส่งเสริมผู้มีไอเดียดี ๆ จากทั่วโลกและเปลี่ยนไอเดียเหล่านั้นให้เป็นโซลูชันที่ใช้งานได้จริงในสี่ส่วนสำคัญด้วยกัน ได้แก่ ปัญญาประดิษฐ์ (AI) และวิทยาการหุ่นยนต์ การศึกษา การดูแลสุขภาพ และความยั่งยืน
No comments:
Post a Comment