- มีนักเดินทางเพียง 31% เท่านั้นที่นำเงินสดติดตัวไปยังจุดหมายปลายทางในปี 2566 ลดลงจาก 79% ในปี 2563
- นักเดินทางยังใช้จ่ายมากขึ้น โดยเฉลี่ยอยู่ที่ 2,525 ดอลลาร์ต่อการเดินทาง ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 1,708 ดอลลาร์ในปี 2563
นักเดินทางในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกนิยมชำระเงินด้วยบัตรเครดิต บัตรเดบิต และบัตรเติมเงิน (บัตรพรีเพด) เมื่อเดินทาง อ้างอิงจากผลการสำรวจล่าสุดเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลก (Global Travel Intentions หรือ GTI) ของวีซ่า (Visa) เน้นย้ำถึงการที่ผู้บริโภคพึ่งพาวิธีการชำระเงินดิจิทัลเพิ่มมากขึ้น
จำนวนผู้เดินทางที่นำเงินสดติดตัวมาระหว่างเดินทางลดลง 60% หลังการแพร่ระบาด โดยมีเพียง 31% ของผู้ตอบแบบสำรวจที่พกเงินสดในปี 2566 เทียบกับ 79% ในปี 2563 ผู้ตอบแบบสำรวจอ้างถึงเหตุผลต่าง ๆ เช่น การยอมรับอย่างกว้างขวางจากร้านค้า ความปลอดภัยในการเดินทาง และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศที่ดี เป็นตัวกระตุ้นการใช้บัตรในต่างประเทศ
"เราเห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญของพฤติกรรมนักท่องเที่ยวและวิธีการชำระเงินอันเป็นที่นิยมหลังการแพร่ระบาด โดยคนจำนวนมากเลือกใช้วิธีการชำระเงินที่ปลอดภัย ผ่านระบบดิจิทัล และไร้การสัมผัส" คุณแดเนียล จิน (Danielle Jin) หัวหน้าฝ่ายการตลาดภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของวีซ่า กล่าว "ผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของเราเน้นย้ำถึงความสำคัญที่เพิ่มขึ้นของการชำระเงินดิจิทัล ในการยกระดับประสบการณ์การเดินทางโดยรวม และวิธีการที่ระบบนิเวศการเดินทางจะช่วยให้ธุรกิจในท้องถิ่นนำเสนอโซลูชันการชำระเงินที่ปลอดภัยและไร้การสัมผัส ซึ่งสอดคล้องกับความต้องการของนักเดินทางในปัจจุบัน"
ทำความเข้าใจแนวโน้มการเดินทางและความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป
ผลการสำรวจจากนักท่องเที่ยวมากกว่า 15,000 คนทั่วเอเชียแปซิฟิกในปีนี้ พบว่านักท่องเที่ยวมีแนวโน้มและพฤติกรรมที่โดดเด่นหลายประการ
- จุดหมายปลายทางยอดนิยมที่เลือกเดินทาง: ญี่ปุ่นครองอันดับหนึ่งในบรรดาจุดหมายปลายทางที่ผู้ตอบแบบสำรวจเดินทางไปมากที่สุด โดย 25% ของผู้ตอบแบบสำรวจเดินทางไปเยือนประเทศญี่ปุ่นในปีนี้ ตามมาด้วยออสเตรเลีย (18%) และสิงคโปร์ (12%) นอกจากนี้ ออสเตรเลีย (16%) ญี่ปุ่น (16%) และจีนแผ่นดินใหญ่ (9%) ติดอันดับสูงสุดในรายการทริปเดินทางเชิงธุรกิจและการพักผ่อนระหว่างประเทศ หรือ 'เบลเชอร์' (bleisure) ซึ่งผู้บริโภคผสมผสานการพักผ่อนเข้ากับกิจกรรมทางธุรกิจในระหว่างการเดินทาง
- ค่าใช้จ่ายในการเดินทางที่เพิ่มขึ้น: นักท่องเที่ยวยังใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในปี 2566 โดยเฉลี่ย 2,525 ดอลลาร์ต่อการเดินทาง เพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 1,708 ดอลลาร์ในปี 2563
- แรงจูงใจในการเดินทาง: นอกจากนี้ การสำรวจยังแสดงให้เห็นชัดเจนว่าแรงจูงใจหลักในการเดินทางคือการพักผ่อน (39%) ตามมาด้วยความปรารถนาที่จะสำรวจและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ (14%) และการเยี่ยมครอบครัวและเพื่อนฝูง (13%) แรงจูงใจอื่น ๆ ได้แก่ การชอปปิง (8%) และการออกไปผจญภัย (8%)
- ความยั่งยืนถือเป็นประเด็นสำคัญ: 63% ของผู้ตอบแบบสำรวจระบุว่าสนใจในการเดินทางแบบยั่งยืน โดยกล่าวถึงการเลือกที่พักที่ยั่งยืน การใช้รูปแบบการขนส่งที่ประหยัดพลังงาน และการหลีกเลี่ยงการใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวในระหว่างการเดินทาง ซึ่งเป็นวิธีปฏิบัติในการเดินทางแบบยั่งยืน
- แรงบันดาลใจสำหรับการเดินทางในอนาคต: เมื่อวางแผนการเดินทางในอนาคต นักท่องเที่ยวจะได้รับแรงบันดาลใจจากแหล่งต่าง ๆ อย่างการโฆษณา (49%) และการบอกต่อ (48%) เป็นแนวทางหลัก ทั้งนี้ โปรโมชัน (41%) โซเชียลมีเดีย (39%) และเนื้อหาการท่องเที่ยว (37%) ยังเป็นตัวกระตุ้นที่สำคัญในการเลือกจุดหมายปลายทางและเลือกกิจกรรม
ใช้ข้อมูลปลดล็อกโอกาสใหม่ ๆ ในการเดินทาง
สำหรับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว การสำรวจแนวโน้มของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปนี้จะเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จ ความร่วมมืออย่างใกล้ชิดของวีซ่ากับพาร์ทเนอร์มากมายในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบิน ร้านค้า สถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐ แสดงให้เห็นว่าวีซ่าเป็นองค์กรที่พร้อมด้วยข้อมูล สามารถเข้าถึงลูกค้านักเดินทางในวงกว้างได้ดียิ่งขึ้นด้วยการมอบประสบการณ์ความเป็นส่วนตัวและความพึงพอใจ
"ความพร้อมด้านข้อมูลและข้อมูลเชิงลึกของวีซ่าให้ภาพรวมของแนวโน้มการเดินทางในเอเชียแปซิฟิก ที่ให้รายละเอียดว่าใคร อย่างไร ที่ไหน และทำไม ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ สามารถดึงดูดความสนใจและพร้อมให้บริการนักท่องเที่ยวทันทีที่พวกเขาตัดสินใจเดินทาง" คุณจิน กล่าวเสริม "เพื่อให้บริการแก่พันธมิตรของเราได้ดียิ่งขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้ เราได้จัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศด้านการท่องเที่ยวในเอเชียแปซิฟิก ซึ่งเป็นทีมงานที่ตั้งขึ้นเฉพาะเพื่อช่วยให้ลูกค้าใช้ประโยชน์จากข้อมูล รวมทั้งเพิ่มโอกาสสูงสุดสำหรับด้านการเดินทางและการชำระเงินข้ามพรมแดน"
ข้อมูลการชำระเงินและความสามารถด้านวิทยาการข้อมูลภายในองค์กรของวีซ่า ช่วยให้องค์กรต่าง ๆ วางแผนล่วงหน้าได้ เพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจสูงสุดเมื่อการเดินทางมีเพิ่มมากขึ้น เมื่อผนวกกับข้อมูลจากพันธมิตร เช่น จำนวนที่นั่งของสายการบิน ข้อมูลเชิงลึกของวีซ่าสามารถคาดการณ์ฤดูที่นักท่องเที่ยวเยอะที่สุดและนิยมสูงสุดสำหรับธุรกิจในระบบนิเวศการเดินทาง ซึ่งประกอบด้วยร้านค้าและผู้ค้าปลีกไปจนถึงธนาคาร ฟินเทค และหน่วยงานรัฐบาลในภาคการท่องเที่ยว องค์กรขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กต่าง ๆ เหล่านี้สามารถใช้ข้อมูลเชิงลึกของวีซ่า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการและความชอบของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้นในช่วงเวลาที่มีการเดินทางหนาแน่น รวมทั้งวางแผนดีลข้อเสนอและรางวัลในการเดินทางสำหรับผู้ถือบัตรวีซ่าในเวลาที่เหมาะสม
ผลสำรวจเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยวระดับโลกของวีซ่า ประจำปี 2566 ดำเนินการโดยโฟร์ไซต์ รีเสิร์ช แอนด์ อนาลิติกส์ (4SIGHT Research & Analytics) ในเดือนเมษายนถึงมิถุนายน 2566 และสำรวจผู้ตอบแบบสอบถาม 15,467 รายจากออสเตรเลีย ฮ่องกง อินเดีย อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น จีนแผ่นดินใหญ่ มาเลเซีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ เกาหลีใต้ ไต้หวัน ไทย และเวียดนาม การสำรวจ GTI นี้จัดทำขึ้นทุก ๆ 2 ปี มาเป็นเวลากว่าทศวรรษ โดยศึกษาเกี่ยวกับพฤติกรรมการเดินทางและการชำระเงิน ขณะเดียวกันก็วิเคราะห์แนวโน้มใหม่ ๆ ในภาคการท่องเที่ยว
เกี่ยวกับวีซ่า
วีซ่า (Visa) (NYSE:V) เป็นผู้นำในการให้บริการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก วีซ่าให้บริการในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างผู้บริโภค ร้านค้า สถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้ สะดวก และปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ผู้บริโภค ร้านค้า และเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจที่รวมทุกคนในทุกที่เข้าด้วยกัน จะช่วยยกระดับทุกคนในทุกที่ และมองว่าการเข้าถึงเป็นรากฐานสำคัญในการเคลื่อนย้ายเงินในอนาคต ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Visa.com
No comments:
Post a Comment