Unilever Japan K.K. ได้เปิดตัวแคมเปญชื่อ "CLEAR Headgear-Cover Plan. A Salute to Headgear Warriors." เพื่อโปรโมท CLEAR แชมพูดูแลหนังศรีษะ ด้วยยอดขายอันดับหนึ่งของโลกในกลุ่มแชมพูสำหรับผู้ชาย (*1) แคมเปญนี้ยังเป็นโครงการแรกของโลก (*2) ที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมให้บริษัทและทีมกีฬาต่างๆ จัดหาแชมพูให้กับพนักงานและผู้เล่นของทีมที่ต้องสวมหมวกขณะปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเสี่ยงทำให้หนังศีรษะเผชิญกับปัญหามากมาย
นอกเหนือจากการเปิดตัวแคมเปญแล้ว Unilever Japan K.K. ยังได้ปล่อยคลิปวิดีโอในชื่อ "CLEAR Headgear-Cover Plan. A Salute to Headgear Warriors." โดยบริษัทเปิดเผยว่า ภาพยนตร์โฆษณาตัวนี้จะชูให้เห็นถึงความภาคภูมิใจและบทบาทหน้าที่เบื้องหลังการสวมหมวกปฏิบัติงาน ตลอดจนปัญหาที่น่ากังวลต่อหนังศีรษะ ซึ่งอาจถูกทำร้ายจากสภาวะรุนแรงขณะสวมหมวก
รายละเอียดของวิดีโอ:
CLEAR Headgear-Cover Plan. A Salute to Headgear Warriors.
(รับชมได้ในเวอร์ชั่นความยาว 90 วินาที และความยาว 15 วินาที)
วันเปิดตัว: 22 มิถุนายน 2016
เว็บไซต์หลักของแคมเปญ: http://www.clearhaircare.jp/campaigns/chakubo-teate/index.html
(*1) จัดอันดับโดย Unilever โดยคำนวณจากยอดขายแชมพูในช่วง 12 เดือน จนถึงเดือนมกราคม หรือกุมภาพันธ์ 2016 ใน 41 ประเทศ ไม่รวมญี่ปุ่น ตามข้อมูลของ Nielsen Co., Ltd. (ช่วงเวลาของข้อมูลที่ได้รับมานั้นแตกต่างไปในแต่ละประเทศ)
(*2) ที่มา: ESP Research Institute, Inc., June 2016 (ครอบคลุม 200 ประเทศ)
แนวคิดของวิดีโอ
"CLEAR Headgear-Cover Plan. A Salute to Headgear Warriors." เป็นวิดีโอที่สื่อถึงความภาคภูมิใจ ความสำคัญ จุดมุ่งหมาย และบทบาทหน้าที่เมื่อสวมหมวก เช่นเดียวกับปัญหาที่น่ากังวลต่อหนังศีรษะ ข้อความเหล่านี้ได้รับการถ่ายทอดอย่างเร้าอารมณ์ผ่านเพลงฮิปฮอปที่แต่งขึ้นตามเพลงมาร์ช "Pomp and Circumstance."
Headgear-Cover Plan
หมวกหรืออุปกรณ์ป้องกันศีรษะ เป็นส่วนหนึ่งของชุดเครื่องแบบ ซึ่งไม่ได้มีไว้เพื่อความปลอดภัยและอนามัยที่ดีเพียงเท่านั้น แต่ยังแสดงให้เห็นถึงความภาคภูมิใจในอาชีพของตนด้วย อย่างไรก็ตาม ผลการวิจัยพบว่า เมื่อปฏิบัติกิจกรรมทางกายภาพภายในเวลา 30 นาที สภาวะภายใต้หมวกจะก่อให้เกิดความอึดอัดเสมือนอยู่ในป่าดิบชื้น (*3) ซึ่งสร้างความเสียหายต่อเส้นผมและหนังศีรษะจากเหงื่อและความชื้น และอาจส่งผลต่อสมรรถภาพของผู้สวมหมวกด้วย CLEAR ได้ศึกษาธรรมชาติของหนังศีรษะมาเป็นเวลาหลายปี จนเกิดเป็น "CLEAR Headgear-Cover Plan. A Salute to Headgear Warriors." ทั้งนี้ ในทำนองเดียวกันกับสิ่งอำนวยความสะดวกตามรีสอร์ท หรือโรงยิมกีฬาที่บริษัทต่างๆได้จัดสรรพื้นที่เพื่อส่งเสริมให้พนักงานของตนมีสุขภาพกายและใจที่ดี CLEAR จึงขอเสนอให้บริษัทต่างๆ พิจารณาจัดหาแชมพูให้เป็นโบนัสสำหรับบุคลากรที่มักจะเผชิญกับปัญหาหนังศีรษะ
ขั้นตอนการทำงานของ Headgear-Cover Plan:
องค์กรที่ร่วมโครงการ Headgear-Cover Plan:
เคนอิจิ โตโยดะ บรรณาธิการบริหารของ Gekkan Somu (นิตยสารรายเดือนด้านงานธุรการ) แสดงความเห็นว่า:
"บริษัทต่างๆจะหันมาดำเนินธุรกิจตามหลักปรัชญา "บริษัทส่งเสริมสุขภาพ" (Healthy Companies") กันมากขึ้น ด้วยเล็งเห็นว่าสุขภาพกายและใจที่ดีของพนักงานถือเป็นสินทรัพย์อย่างหนึ่งขององค์กร โดยโครงการ CLEAR Headgear-Cover Plan สามารถเป็นตัวอย่างหนึ่งซึ่งนำเสนอเทรนด์ใหม่ในการให้การสนับสนุนภายในองค์กร ที่บริษัททั้งหลายสามารถดำเนินตามได้"
เกี่ยวกับ "CLEAR"
CLEAR เป็นแบรนด์นวัตกรรมดูแลหนังศีรษะที่ผสานวิธีการทางวิทยาศาสตร์สองแขนงเข้าไว้ด้วยกัน ได้แก่ การศึกษาด้านเส้นผมและหนังศีรษะ และผิวหนังวิทยา โดยมีเป้าหมายที่จะดูแลรักษาหนังศีรษะเพื่อให้เส้นผมมีความแข็งแรง(*4) และสละสลวย
ทางแบรนด์ได้ทำการศึกษาอย่างครอบคลุมในเรื่องของความแตกต่างระหว่างหนังศีรษะกับเส้นผมของผู้ชายและผู้หญิง ปัจจุบัน CLEAR มีผลิตภัณฑ์แยกกันสำหรับผู้หญิงและผู้ชาย และมีแผนที่จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่ๆต่อไป CLEAR มีการวางจำหน่ายทั่วโลก โดยสามารถทำยอดขายแชมพูผู้ชายได้มากเป็นอันดับ 1 ของโลก (*1) ทั้งนี้ CLEAR ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อย่างเต็มรูปแบบเป็นครั้งแรกในญี่ปุ่นเมื่อปี 2014 และเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วมานับตั้งแต่นั้น จนกลายเป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์ดูแลหนังศีรษะทุกวันนี้
(*3) ที่มา: 2016 Inside-Headwear Environment Research Institute
(*4) แชมพู ครีมนวดผม และทรีทเม้นท์: ป้องกันผมขาดหลุดร่วง
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับแคมเปญนี้ กรุณาติดต่อที่อีเมล: info@chakubo-teate.com
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับเครดิตและผลิตภัณฑ์ กรุณาติดต่อ:
Unilever Customer Service Office
โทร: +81-120-500-513
ชั่วโมงทำการ: 9:00-17:00 น.
(ตามเวลาญี่ปุ่น ยกเว้นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์)
เว็บไซต์พิเศษ: http://www.clearhaircare.jp/campaigns/chakubo-teate/index.html
หมายเลขอ้างอิง: 2016-C-5
ที่มา: Unilever Japan K.K.
No comments:
Post a Comment