Wednesday, July 27, 2016

Moet Hennessy ฉลองความสำเร็จของ Solar Impulse ในการเดินทางรอบโลกด้วยเครื่องบินพลังงานแสงอาทิตย์

          กว่าหนึ่งปีหลังจากที่เริ่มต้นการเดินทางรอบโลก Solar Impulse ได้กลับมายังอาบูดาบีอีกครั้ง พร้อมบทพิสูจน์ความสำเร็จในการบรรลุเป้าหมายที่เป็นไปไม่ได้

          ในฐานะผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการของ Solar Impulse และในฐานะเจ้าภาพร่วมกับ Mission Control Center ในโมนาโก Moet Hennessy อยู่เคียงข้างทุกช่วงเวลาในการเดินทางรอบโลกของ Solar Impulse


          ภายหลังเดินทาง 48 ชั่วโมงจากไคโร Bertrand Piccard ผู้ริเริ่ม ประธาน และนักบิน Solar Impulse ได้มาถึงอาบูดาบีด้วยเครื่องบินที่นั่งเดียว พร้อมได้รับการต้อนรับจาก Andre Borschberg ซีอีโอ ผู้ร่วมก่อตั้ง และนักบิน Solar Impulse โดยเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ทั้งคู่ได้จินตนาการถึงการเดินทางรอบโลกโดยใช้พลังงานแสงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว และบัดนี้ความฝันของพวกเขาเป็นจริงแล้ว

          Christophe Navarre ประธานและซีอีโอของ Moet Hennessy ประจำการอยู่ที่ Mission Control Center ในโมนาโก เพื่อร่วมเป็นสักขีพยานการเดินทางดังกล่าว โดย Navarre ได้กล่าวในการพูดคุยทางโทรศัพท์กับ Andre Borschberg หลังจากที่ Bertrand Piccard เดินทางถึงอาบูดาบีไม่นานว่า "ยินดีด้วยครับ! คุณทำสำเร็จแล้ว! นี่คือการเดินทางอันยาวนานและเป็นก้าวสำคัญของมวลมุนษยชาติ เราภูมิใจและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับคุณ" ทั้งนี้ นาย Navarre ร่วมด้วย Serge Telle มนตรีแห่งรัฐของโมนาโกซึ่งเป็นชาวฝรั่งเศส และ Raymond Clerc ผู้อำนวยการภารกิจ Solar Impulse ได้ดื่ม Moet & Chandon ฉลองให้ทีมงานทุกคนที่ร่วมกันสร้างผลงานอันน่าทึ่ง ตลอดจนคุณค่าที่ Solar Impulse และ Moet Hennessy มีร่วมกัน นั่นคือ จิตวิญญาณการเป็นผู้บุกเบิกและความใส่ใจต่อโลก

          "เฉลิมฉลองความยั่งยืน"

          Solar Impulse และ Moet Hennessy มุ่งหวังที่จะสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพที่มีอยู่อย่างมากมายของเทคโนโลยีสะอาด และร่วมมือกันเพื่อเฉลิมฉลองการก้าวกระโดดสู่โลกที่ดีกว่า

          สุราและไวน์ทุกขวดของ Moet Hennessy ล้วนปรุงขึ้นโดยผลิตผลจากธรรมชาติ โดยทั้ง 22 แบรนด์ของ Moet Hennessy ต่างใช้นโยบายเชิงรุกด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อสืบสานมรดกนี้ไปสู่ศตวรรษต่อๆไป ไร่องุ่น Champagne Maisons ทุกแห่งของ Moet Hennessy ซึ่งได้แก่ Moet & Chandon, Veuve Clicquot, Dom Perignon, Ruinart, Krug และ Mercier ล้วนได้รับการรับรอง "ไร่องุ่นที่ยั่งยืน" (Sustainable Vineyards) และ "ทรงคุณค่าด้านสิ่งแวดล้อม" (High Environmental Value) ในปี 2014 ทั้งนี้ Hennessy Cognac คือบริษัทแรกในอุตสาหกรรมไวน์และสุราทั่วโลกที่ได้รับการรับรองมาตรฐานในปี 1998 สำหรับระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (Environmental Management System) ซึ่งจะมีการให้การรับรองใหม่ในทุก 3 ปี Moet Hennessy ส่งเสริมความหลากหลายทางชีวภาพ การปกป้องชุมชนท้องถิ่น และการอนุรักษ์น้ำในไร่องุ่นทุกแห่งทั่วโลก

          จิตวิญญาณแห่งนักบุกเบิก

          นอกจากจะได้ชื่อว่าเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาแบบยั่งยืนแล้ว Moet Hennessy ยังเป็นผู้ทำลายขอบเขต ทั้งทางด้านภูมิศาสตร์และข้อจำกัดของมนุษย์ ตั้งแต่แรกเริ่ม แต่ละแบรนด์ต่างพยายามพัฒนาเพื่อก้าวสู่ระดับที่สูงขึ้น และพยายามหาโอกาสให้ผู้บริโภครายใหม่ทั่วโลกได้ลิ้มรสเครื่องดื่มชั้นเลิศ ทั้งนี้ ได้เริ่มมีการส่งออก Veuve Clicquot ไปยังรัสเซียเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1780 และ Hennessy ไปยังสหรัฐเป็นครั้งแรกเมื่อปี 1794 โดย Moet Hennessy คือบริษัทแห่งแรกของฝรั่งเศสที่ริเริ่มปลูกไร่องุ่นในพื้นที่ห่างไกล ตั้งแต่สปาร์คลิงไวน์ Chandon ในเมืองเมนโดซา ประเทศอาร์เจนตินา ในปี 1959 จนมาถึงไวน์แดง Ao Yun ในเมืองแชงกรีลา ประเทศจีน ในปีนี้

          ปัจจุบัน Moet Hennessy ส่งออกผลิตภัณฑ์ 95% โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตและผู้ส่งออกไวน์และสุราระดับหรูหราชั้นนำของโลก


          ที่มา: Moet Hennessy SNC

No comments:

Post a Comment