มหกรรม China Huizhou Internet of Things (IoT) and Cloud Computing Technology Application Expo (IOT&CC Expo) ครั้งที่ 6 เตรียมเปิดฉากวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ณ ศูนย์การประชุมและนิทรรศการเมืองหุ้ยโจว ในมณฑลกวางตุ้ง ซึ่งเป็นศูนย์กลางด้านการผลิตและพัฒนาเทคโนโลยีไฮเทคของจีน
มหกรรมครั้งนี้จะครอบคลุมผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์ รถยนต์เชื่อมต่อ แอป โปรแกรมเมืองอัจฉริยะ บริการแอปพลิเคชั่นบิ๊กดาต้า จอแสดงผลความละเอียด 4K และอื่นๆ พร้อมรวบรวมบรรดาบริษัทและสถาบันวิจัยรวมกันทั้งสิ้น 466 แห่ง ทั้งแบรนด์เกิดใหม่และแบรนด์ดัง อาทิ Cisco, SAP, Huawei, Samsung, OPPO, VIVO, ofo และ Mobike
นอกจากนี้ มหกรรม IOT&CC Expo จะประกอบด้วยผลิตภัณฑ์และโครงการใหม่ๆมากมาย รวมถึงสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจาก Huawei เซมิคอนดัคเตอร์ชิปรุ่นใหม่จาก Qualcommm, HiSilicon และ Tsinghua Unigroup อุปกรณ์ต่อพ่วงชนิดกล้องคู่และชีวมิติ โซลูชั่นชาร์จเร็วแบบไร้สายหลากหลายรูปแบบ ตลอดจนอัปเดตจากผู้บุกเบิกด้านเศรษฐกิจแบ่งปันอย่าง ofo และ Mobike
งานมหกรรมนี้ออกแบบขึ้นเป็นพิเศษเพื่อเชื่อมต่อวงการเทคโนโลยีและแบรนด์ของจีนและยุโรปเข้าด้วยกัน โดยจะไม่ได้เป็นเวทีแสดงความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเพียงเท่านั้น แต่ยังจะมาพร้อมกับโร้ดโชว์และอีเว้นท์ธุรกิจสตาร์ทอัพ เพื่อส่งเสริมให้มีการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยจากทั้งจีนและยุโรปมากขึ้น ซึ่งรวมถึง
- งาน China Mobile Innovation Night และการบรรยายจากผู้ประกอบการ
- โร้ดโชว์โครงการจีน-ยุโรป
- การประชุมความร่วมมือทางอุตสาหกรรมจีน-ยุโรป
- เวทีจัดแสดงนวัตกรรมของอุตสาหกรรมมือถือจีนประจำปี 2560 ในเมืองหุ้ยโจว
โครงการที่เข้าร่วมมหกรรมนี้มีทั้งโครงการแสงนำทางระบบ GPS อัจฉริยะสำหรับจักรยาน เครื่องสแกนพกพาและเครื่องสแกนขยะรีไซเคิลจากกลุ่มการค้าหลักในยุโรป อาทิ หอการค้าปารีส (CCI Paris) และสมาคมหอการค้าและอุตสาหกรรมแห่งเยอรมนี (DIHK)
"อุตสาหกรรมคลาวด์คอมพิวติ้งและ IoT ล้วนเป็นเรื่องของนวัตกรรมที่ไม่หยุดยั้ง โดยเราหวังที่จะมอบเวทีนี้แก่บริษัทต่างๆ ในการจัดแสดงผลิตภัณฑ์และบริการที่ทั้งล้ำสมัยและพลิกวงการ" ผู้อำนวยการคณะกรรมการจัดงาน IOT&CC Expo กล่าว "งานมหกรรมครั้งนี้ซึ่งจัดขึ้นในมณฑลกวางตุ้ง ศูนย์กลางด้านนวัตกรรมและอุตสาหกรรมการผลิตเทคโนโลยีไฮเทคของจีน จะมอบโอกาสอันเหนือชั้นให้แก่ผู้ประกอบการทั่วโลก เพื่อแสวงหาและเชื่อมต่อกับบรรดาบริษัทที่จะเป็นผู้กำหนดอนาคต"
No comments:
Post a Comment