IndiGrid เผยผลประกอบการดีกว่าคาดในปีแรกของการดำเนินงาน หลังทำ IRR ได้ถึง 12%

          มุมไบ, อินเดีย--26 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          สาระสำคัญ

          - IndiGrid ประกาศเงินปันส่วนแบ่งกำไร 3.00 รูปีต่อหน่วยในไตรมาส 4 ปีงบการเงิน 2561
          - เงินปันส่วนแบ่งกำไรปีงบ 2561 อยู่ที่ 9.56 รูปีต่อหน่วย สูงกว่าตัวเลขประเมินเบื้องต้นที่ 9.20 รูปี อยู่ 4%
          - ปรับเพิ่มตัวเลขประมาณการส่วนแบ่งกำไรสำหรับปีงบการเงิน 2562 เป็น 12.00 รูปีต่อหน่วย
          - มีอัตราผลตอบแทนภายใน (IRR) จากการลงทุนในโครงการปัจจุบัน อยู่ที่ 12%
          - ซื้อทรัพย์สินสามรายการแรกเสร็จสมบูรณ์ก่อนกำหนด และเซ็นสัญญาซื้อกิจการภายนอกหนึ่งรายการ
          - มีฐานผู้ลงทุนที่หลากหลาย ระหว่างผู้ลงทุนในประเทศและผู้ลงทุนต่างชาติรายใหญ่

          IndiGrid ทรัสต์เพื่อการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน (InvIT) รายแรกของอินเดียในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสและปีแรกของการดำเนินงาน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561

          (โลโก้: http://mma.prnewswire.com/media/569718/IndiGrid_Logo.jpg )

          ยอดรายได้รวมประจำไตรมาส 4 ปีงบการเงิน 2561 อยู่ที่ 1,480 ล้านรูปี (INR) รวม EBITDA ที่ 1,326 ล้านรูปี สำหรับงวด 10 เดือน สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 มียอดรายได้รวม 4,476 ล้านรูปี รวม EBITDA ที่ 4,155 ล้านรูปี

          Board of Sterlite Investment Managers Limited ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้จัดการการลงทุนของ IndiGrid ได้อนุมัติเงินปันส่วนแบ่งกำไร 3.00 รูปีต่อหน่วยสำหรับไตรมาส 4 ของปีงบการเงิน 2561 ที่สามารถนำมาจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยลงทุน ส่งผลให้เงินปันส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยช่วง 10 เดือนของปีงบการเงิน 2561 รวมอยู่ที่ 9.56 รูปีต่อหน่วย ซึ่งสูงกว่าตัวเลข 9.20 รูปีต่อหน่วยในรายงานประมาณการเบื้องต้น และคิดเป็นเงินปันส่วนแบ่งกำไรรวมทั้งสิ้น 2,702 ล้านรูปี แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในปีแรกของการดำเนินงาน

          ความต้องการไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในอินเดีย ประกอบกับกำลังการผลิตพลังงานทดแทนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 275 กิกะวัตต์ (GW) ภายในปี 2570 จะทำให้เกิดการลงทุนอย่างมากในระบบส่งจ่ายกำลังไฟฟ้า นอกจากนี้ การเปิดเสรีโครงข่ายสายส่งไฟฟ้าระหว่างรัฐด้วยวิธีการประกวดราคาแบบ tariff-based ก็จะยิ่งเป็นการส่งเสริมการลงทุนในภาคส่วนนี้

          IndiGrid อยู่ระหว่างดำเนินการซื้อกิจการภายนอกจาก Techno Electric ให้แล้วเสร็จภายในไตรมาสแรกของปี 2562 ซึ่งเมื่อรวมการซื้อทรัพย์สินเหล่านี้ บริษัทคาดว่าเงินส่วนแบ่งกำไรต่อหน่วยสำหรับปีงบการเงิน 2562 จะอยู่ที่ 12.00 รูปี ทั้งนี้ Mr. Pratik Agarwal ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ IndiGrid กล่าวในโอกาสเปิดเผยผลประกอบปีแรกว่า "นับเป็นอีกไตรมาสที่เรารายงานผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่ง ทั้งยังออกมาเหนือกว่าตัวเลขประเมินเบื้องต้นของเรา ขณะเดียวกัน เราได้ขยายพอร์ตการลงทุนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ และแสดงให้เห็นอีกด้วยว่าเราสามารถบรรลุเป้าหมาย IRR ที่ 12% ได้ในระยะเวลาอันสั้น IndiGrid เติบโตตามกลยุทธ์ที่วางไว้ และเริ่มพิจารณาที่จะซื้อทรัพย์สินชุดต่อไปแล้ว ทั้งจากผู้สนับสนุนกิจการและจากบุคคลที่สาม ความต้องการไฟฟ้าที่คาดว่าจะขยายตัวขึ้นในช่วงทศวรรษหน้านี้จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานด้านการส่งไฟฟ้าเป็นที่ต้องการและมีความจำเป็นอย่างมาก ซึ่งถือเป็นนิมิตหมายอันดีสำหรับ IndiGrid"

          ติดต่อ:
          Balaji Krishnaswami
          อีเมล: balaji.krishnaswami@sterlite.com
          โทร. +91-9971757474

          ที่มา: IndiGrid