Thursday, March 21, 2019

Vivid Sydney 2019 ก้าวสู่ทศวรรษใหม่แห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์

          - อุโมงค์ Argyle Cut ในเขต The Rocks กลับมาอีกครั้งในปีนี้ นำเสนอโดย Pixar Animation Studios
          - Cambell's Cove และ Hickson Road Reserve กลับมาร่วมเป็นสถานที่จัดแสดงแสงสีอีกครั้งเช่นกัน
          - พบกับ Spike Lee และ Esther Perel ผู้โด่งดังประจำ Vivid Ideas รวมทั้ง The Cure, Rufus Du Sol, FKA Twigs และ Underworld rock
          - ชมคลิปวิดีโอและรูปภาพจากงานแถลงข่าวการจัดงานประจำปี 2019 ได้ที่ www.vividsydney.com/media-centre


          Vivid Sydney เทศกาลแสดงแสงสี ดนตรี และความคิดสร้างสรรค์ที่ใหญ่ที่สุดในซีกโลกใต้ จะเปลี่ยนโฉม Harbour City ให้เต็มไปด้วยแสงสีตระการตาในฤดูหนาวปีนี้ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 24 พฤษภาคม ถึงวันเสาร์ที่ 15 มิถุนายน 2019 พร้อมก้าวเข้าสู่ทศวรรษใหม่แห่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ด้วยสุดยอดอีเวนต์ต่าง ๆ ที่ทรงพลังและสร้างแรงบันดาลใจ

          Sandra Chipchase ซีอีโอของ Destination NSW และผู้อำนวยการผลิตเทศกาล Vivid Sydney กล่าวว่า "เทศกาลที่ได้รับรางวัลมาแล้วมากมายและเป็นที่รักที่สุดของออสเตรเลีย กำลังจะก้าวเข้าสู่ปีที่ 11 ในปีนี้ และจะรวบรวมบรรดาศิลปินด้านแสง ผู้ผลิตดนตรี และผู้มีความคิดสร้างสรรค์สุดบรรเจิด มาจัดแสดงผลงานในซิดนีย์ ซึ่งเป็นนครแห่งอุตสาหกรรมครีเอทีฟของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

          "เทศกาล Vivid Sydney ในปีนี้ทั้งฉูดฉาด น่าตื่นเต้น และมีความหลากหลายเหมาะกับทุก ๆ คน จึงขอเชิญชวนผู้ที่อยากมาสัมผัสงานที่พลาดไม่ได้ในปีนี้เริ่มวางแผนการเดินทางแต่เนิ่น ๆ"

          เทศกาล Vivid Sydney บริหารและดำเนินการโดย Destination NSW ซึ่งเป็นหน่วยงานด้านการท่องเที่ยวและการจัดอีเวนต์รายการใหญ่ของรัฐบาลรัฐนิวเซาท์เวลส์ โดยในปี 2018 มีผู้เข้าร่วมงานมากถึง 2.25 ล้านคน และสร้างรายได้ 172.9 ล้านเหรียญให้กับเศรษฐกิจรัฐนิวเซาท์เวลส์

          Ms Chipchase กล่าวว่า "ดิฉันภูมิใจที่จะกล่าวว่ากิจกรรมการตลาดของเราได้ทำสถิติยอดขายแพ็คเกจท่องเที่ยวให้กับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศจำนวน 185,887 แพ็คเกจสำหรับเทศกาล Vivid 2018 เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้า 37% เทศกาล Vivid Sydney เป็นอีเวนต์ที่พลาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยว และได้สร้างแรงจูงใจให้คนเดินทางมาเที่ยวซิดนีย์และเมืองอื่น ๆ ในออสเตรเลีย"

          "ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่หรือมีความสนใจด้านไหน ไม่ว่าคุณจะเพิ่งมาเที่ยวซิดนีย์เป็นครั้งแรกหรือว่าเป็นคนในพื้นที่อยู่แล้ว Vivid Sydney เป็นเทศกาลสำหรับทุกคน เทศกาลประจำปี 2019 นี้จัดเต็มด้วยศิลปะจัดวาง กิจกรรม และประสบการณ์สุดพิเศษมากมายทั่วทั้งเมือง ซึ่งคุณสามารถสัมผัสได้ในคืนเดียวหรือตลอดทั้ง 23 คืนที่มีการจัดงาน"

          นอกจากนี้ Ms Chipchase ยังประกาศด้วยว่า เทศกาลปีนี้จะมีกิจกรรม Vivid School จัดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยกิจกรรมดังกล่าวจัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้นักเรียนชั้นมัธยมปลายระดับเกรด 9-12 ได้เรียนรู้เกี่ยวกับกระบวนการคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการคิดจินตนาการ การออกแบบ และการสร้างผลงานศิลปะแสงสีในงานอีเวนต์ใหญ่ระดับโลกนี้"

          "โครงการนี้จะช่วยให้ทั้งนักเรียนและครูได้พบปะกับเหล่ามืออาชีพผู้อยู่เบื้องหลังผลงานการฉายภาพแสงสีบนอาคารและการจัดวางแสงสีตามทางเดินในเทศกาล Vivid Sydney ทั้งยังจะได้ฟังศิลปิน นักออกแบบ และช่างเทคนิคพูดคุยเกี่ยวกับเส้นทางอาชีพ ตลอดจนวิธีการเพิ่มพูนทักษะสำหรับโครงการและการทำงานในอนาคต" Ms Chipchase กล่าว

          VIVID LIGHT

          การแสดงผลงานศิลปะจากแสงไฟ Light Walk ในปีนี้ ประกอบด้วยผลงาน 50 ชิ้นที่คัดเลือกมาจัดแสดงในแกลเลอรี่กลางแจ้งที่ใหญที่สุดในซีกโลกใต้ ด้วยความยาวกว่าสามกิโลเมตร

          Pixar Animation Studios เจ้าของรางวัลออสการ์ จะเปลี่ยนโฉมอุโมงค์ Argyle Cut ที่ได้ชื่อว่าเป็นมรดกของเมืองซิดนีย์ในเขต The Rocks ด้วยการฉายภาพแสงสีที่โดนใจคนทุกวัย อาทิ ผลงานศิลปะเบื้องหลังการผลิตภาพยนตร์แอนิเมชั่น และวิวัฒนาการของการ์ตูนแอนิเมชั่นชื่อดัง การกลับมาของอุโมงค์ Argyle Cut ในการจัดแสดง Vivid Light ในปีนี้ จะดึงดูดผู้เข้าร่วมเทศกาลด้วยตัวละครขวัญใจจากภาพยนตร์ของ Pixar อย่างเช่นคู่หูที่ใครต่างก็หลงรัก Woody และ Buzz Lightyear

          สำหรับการแสดง Lighting of the Sails ที่ทุกคนรอคอยในปีนี้ ศิลปินและผู้สร้างภาพยนตร์ชาวอเมริกันเชื้อสายจีนจากลอสแอนเจลิส Andrew Thomas Huang จะนำเสนอผลงาน Austral Flora Ballet การแสดงละลานตาที่อุทิศให้กับพืชพรรณและดอกไม้พื้นเมืองออสเตรเลีย ผ่านการแสดงอันพลิ้วไหวของนักเต้นรำ รับกับเงาโค้งที่อ่อนช้อยของ Sydney Opera House

          ผู้เข้าร่วมงานสามารถลัดเลาะผ่านสวน Royal Botanic Garden Sydney เพื่อสัมผัสงานศิลปะแสงไฟซึ่งสะท้อนและหักเหทั้งแสงและธรรมชาติ นอกจากนี้ยังมี Firefly Field ลานหิ่งห้อยที่ส่องแสงและโฉบไปมาอยู่เหนือพื้น ผลงานศิลปะแสงสีที่ตระการตาด้วยไฟลอย 500 ดวงที่เลียนแบบการเคลื่อนไหวของแมลงกลางคืนตัวจิ๋วที่เจิดจรัส

          ขณะเดียวกัน ขอเชิญผู้ชมร่วมสำรวจความลับเหนือท้องฟ้าและดวงดารายามราตรีกับ KA3323 จานดาวเทียมสไตล์ย้อนยุคกึ่งอนาคตจากต่างดาวที่จะมาปรากฏ ณ สวน Botanic Garden อย่างลึกลับ นอกจากนี้ ในพื้นที่จัดแสดงผลงาน I Hear You (But Do You Hear ME?) จะมีเสาไฟแอลอีดีเรียงรายแบ่งพื้นที่ระหว่างคนสองคน ซึ่งเสียงพูดคุยของพวกเขาจะทำให้เกิดบทสนทนาของแสงและเสียง ซึ่งจะตั้งคำถามถึงความไม่เท่าเทียมในยุคดิจิทัล

          ขณะที่ทั่วย่าน Quay นั้น ผนังด้านข้างของอาคารพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยออสเตรเลีย หรือ Museum of Contemporary Art Australia จะถูกแปลงโฉมโดย Claudia Nicholson ศิลปินระดับรางวัลชาวออสเตรเลีย-โคลัมเบีย ร่วมกับกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านแสง Spinifex Group โดยจะรังสรรค์ผลงานศิลปะตระการตาขึ้นใหม่ในชื่อ Let Me Down ซึ่งเป็นภาพเคลื่อนไหวที่สะท้อนวัฏจักรของการสร้าง ทำลาย และการเกิดใหม่ คลอไปกับเสียงเท่ ๆ ของศิลปิน Lonelyspeck

          ถัดมา นอกเหนือจากสุดยอดประสบการณ์ ณ Foundation Hall แล้ว บริษัท Samsung Electronics Australia จะสร้างประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิต ณ First Fleet Park โดยใช้คุณสมบัติที่โดดเด่นของ โทรศัพท์มือถือ Galaxy S10 ที่จะเปลี่ยนมุมมองของคุณที่มีต่อเทศกาล Vivid Sydney

          ผลงาน Watch your chips! ที่เขต The Rocks สำรวจพฤติกรรมของนก โดยเลียนแบบนกนางนวลที่มาแย่งเศษอาหารมนุษย์ และผลงาน Nostalgia Above ที่เชื่อมโยงความโรแมนติกของธรรมชาติเข้ากับเทคโนโลยีข้อมูลภูมิอากาศ เพื่อสร้างบารอมิเตอร์เสมือนที่สามารถทำนายสภาพอากาศได้ ไม่ว่าจะฝน พายุ หรือความมืดครึ้มของท้องฟ้า

          Campbells Cove กลับมาอีกครั้งกับผลงาน Ballerina การแสดงลีลาการเต้นเดี่ยวที่เปล่งประกายระยับตาริมอ่าวราวกับอยู่ในฝัน ขณะที่ผลงาน Let it Snow ทำให้ดูราวกับว่าเกล็ดหิมะขนาดยักษ์ได้ร่วงหล่นลง ณ Hickson Road Reserve ด้วยวิวสุดอลังการจากกลางน้ำ

          เพื่อเฉลิมฉลองปีแห่งภาษาท้องถิ่นสากล หรือ International Year of Indigenous Language ทางฝั่งใต้ของ สะพาน Sydney Harbour Bridge จะถูกปลุกให้มีชีวิตด้วยผลงานชุด Eora: Broken Spear คัดสรรโดย Rhoda Roberts AO และออกแบบโดย The Electric Canvas ผลงานที่ทรงพลังนี้จะเตือนใจให้เราหวนระลึกถึงความเป็นท้องถิ่นในแง่ต่าง ๆ

          ผนังด้านข้างของอาคาร Customs House จะได้รับการแปลงโฉมให้เป็นดินแดนมหัศจรรย์ใต้น้ำอีกครั้ง ในผลงานชุด Under the Harbour โดย Spinifex Group ที่จะต้องถูกใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่อย่างแน่นอน โลกใต้น้ำที่เต็มไปด้วยสัตว์ทะเลสีฉูดฉาด สวนพืชพรรณ และสิ่งน่าพิศวงมากมาย จะพาให้ผู้ชมเคลิ้มไปกับจินตนาการแห่งโลกใต้น้ำที่จะสร้างแรงบันดาลใจและพาดื่มด่ำไปกับท้องทะเลแห่งซิดนีย์

          VIVID SYDNEY PRECINCTS

          สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยม ทั้งสวนสัตว์ Taronga, อ่าว Darling, Chatswood, Barangaroo และสวนสนุก Luna Park จะเปล่งแสงสีเจิดจรัสในเทศกาลประจำปี 2019 นี้

          บริเวณฝั่งเหนือ ผลงานดาวเด่นของเทศกาล Lights for the Wild โดยสวนสัตว์ Toronga จะจัดแสดงโคมไฟแบบอินเทอร์แอคทีฟเป็นรูปสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ต่าง ๆ ซึ่งนอกจากช้างเอเชีย กอริลล่าหลังเงิน เต่าทะเล มังกรทะเลใบไม้ที่แข่งกันเจิดจรัสแล้ว ปีนี้ยังจะมีลูกเสือโคร่งสุมาตรามาร่วมวง เพื่อฉลองการเกิดของลูกเสือสามตัว และแสดงถึงพันธกิจของสวนสัตว์ในการอนุรักษ์สัตว์ต่าง ๆ

          ด้านสวนสนุก Luna Park Sydney เข้าร่วมจัดแสดงในเทศกาลนี้เป็นปีที่สอง โดยทางสวนสนุกจะเปล่งแสงพราวตายามค่ำคืนอีกครั้ง และปีนี้ผู้ที่แสวงหาความระทึกใจสามารถล่องลอยไปในอากาศบน Volare ตกแต่งด้วยไฟแอลอีดีหลายพันดวง ซึ่งจะช่วยส่งความงามของชิงช้าสวรรค์ประดับไฟที่ขึ้นชื่อได้เป็นอย่างดี

          การจัดแสดง Vivid Sydney ณ Chatswood ที่ผู้มาเป็นครอบครัวโปรดปราน จะเปล่งแสงแพรวพราวอย่างสงบและกลมกลืน ลานแห่งนี้จะเจิดจรัสด้วย Co-existence ผลงานการฉายภาพขนาดใหญ่โดย Limelight กลุ่มศิลปินชาวฮังกาเรียน ขณะที่แฟนดนตรียังสามารถชมการแสดงของ Vince Jones และ Lisa Fischer รวมทั้งวงออเคสตร้า Willoughby Symphony Orchestra นอกจากนี้ยังประกอบด้วยผลงานจากโปรแกรม Vivid Ideas ด้วยเทศกาลและงานประชุมสำหรับเกมเมอร์หญิง และการสัมมนาฟรีเกี่ยวกับความงามพิสุทธิ์แบบ Clean Beauty ตลอดจนเทคโนโลยีสุขภาพหรือ fit-tech และสุขภาวะ

          Barangaroo ประกอบด้วยผลงานที่จะเร้าทุกสัมผัสของคุณ ซึ่งจะเปลี่ยนย่าน Exchange Place ให้เป็นค่ายฤดูหนาวหรือ Winter Camp ในแต่ละคืน โดยมีผลงานหุ่นแสงไฟ Marri Dyin (Great Woman) สูงหกเมตร ตั้งแต่วันพฤหัสบดีถึงวันอาทิตย์ ผู้เข้าร่วมงานสามารถร่วมออกล่าหาอาหารไปกับ Marri Dyin ในทุ่งที่ส่องสว่างระยับตา และเพลิดเพลินไปกับเทศกาลที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแสงสีในทุกระดับราคาจากร้านอาหาร บาร์ และคาเฟ่กว่า 40 ร้าน

          ณ อ่าว Darling Harbour ผลงานชุด Robot SPACELand รังสรรค์โลกอนาคตอันใกล้ ซึ่งอารยธรรมใหม่กำลังถือกำเนิดขึ้นจากซากปรักหักพังหลังยุคอุตสาหกรรม คุณจะได้พบกับสุดยอดหุ่นยนต์ยานยนต์ไฟฟ้าที่น่าพิศวง ซึ่งถูกส่งไปหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งวันพรุ่งนี้ที่สดใสและเป็นมิตรกับธรรมชาติ

          สนามเด็กเล่นแห่งเทศกาล Vivid Sydney ในชื่อ Tambalong Lights กลับมาอีกครั้ง โดยได้รับการสนับสนุนจาก Cushman & Wakefield ซึ่งเป็นพันธมิตรด้าน Access and Inclusion ขณะที่พื้นที่ playSPACE จะรวบรวมศิลปะจัดวางขนาดยักษ์ให้นักสำรวจที่กล้าหาญได้เดินใต้ทางช้างเผือกไปกับผลงาน Under the Milky Sky หรือเล่นสนุกกับ Spaceballs และแลกเปลี่ยนมุมมองที่แตกต่างกับ See What I See

          VIVID IDEAS

          ตลอด 23 วัน 23 คืน โปรแกรม Vivid Ideas จะรวบรวมการพูดคุย เวิร์กช็อป และการประชุมเพื่อค้นหาความหมายของความรัก ความเหงา และความผูกพันในชีวิตที่เร่งรีบท่ามกลางทุกสิ่งทุกอย่างที่เชื่อมต่อถึงกันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

          กิจกรรม Game Changers ปีนี้ท้าทายฐานคติเกี่ยวกับเชื้อชาติและความสัมพันธ์ ผู้บุกเบิกแห่งฮอลลีวูด Spike Lee จะเปิดใจเรื่องมุมมองส่วนตัวทางการเมือง การเล่าเรื่อง และเคล็ดลับการสร้างหนังให้ประสบความสำเร็จ นอกจากนี้ Esther Perel นักจิตบำบัดชื่อดังและผู้ผลิตรายการพอดคาสต์ยอดนิยม Where Should We Begin? จะมาพูดคุยเกี่ยวกับความรักสมัยใหม่ในยุคดิจิทัลและผลกระทบของเทคโนโลยีที่มีต่อความสัมพันธ์

          กิจกรรมชุด The New Horizons สำรวจโลกแห่งอนาคตอันใกล้ โดยมีไฮไลท์ได้แก่ Bryony Cole นักวิจัยและผู้ผลิตรายการพอดคาสต์ Future of Sex ที่จะมาพูดคุยเกี่ยวกับเทคโนโลยี sextech ขณะที่ Marc Fennell จะมาพูดคุยเกี่ยวกับความเหงาและสาเหตุที่คนญี่ปุ่นจำนวนมากรู้สึกว่าตัวเองทำงานหนักเกินไปและมีเพศสัมพันธ์น้อยเกินไป และ Eileen Ormsby จะมาสร้างความกระจ่างให้กับประเด็นในเงามืด นอกจากนี้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยจาก UTS, ABC และ CSIRO จะมาอธิบายเรื่องอนาคตของปัญญาประดิษฐ์ (AI) และจรรยาบรรณ ตลอดจนการสำรวจอวกาศและอื่น ๆ

          ในกิจกรรม The Mark Colvin Conversation: Net Worth นักเขียนผู้ได้รับรางวัลพูลิตเซอร์ Sebastian Smee นักจิตวิทยา Jocelyn Brewer และศิลปิน-นักเขียน Holly Throsby จะพูดคุยเกี่ยวกับคุณค่าของ "ชีวิตภายในตนเอง" (inner life) และสิ่งที่เราต้องเสียไปจากการรบกวนทางดิจิทัลที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา

          กิจกรรม Vivid Art After Hours กลับมาอีกครั้ง ณ Art Galley of NSW และเปิดให้เข้าชมฟรีในคืนวันพุธ โดยผสมผสานกิจกรรมศิลปะ ดนตรีสด และการพูดคุยโดยนักคิดที่มีความคิดสร้างสรรค์ในประเด็นเกี่ยวกับความผูกพัน ประกอบด้วย Meshel Laurie นักแสดงตลกผู้ได้รับฉายา "bad Buddhist" รวมถึงแร็ปเปอร์ กวี และนักเขียน Omar Musa และศิลปิน Abdul Abdullah ในการพูดคุยเกี่ยวกับอัตลักษณ์ทางวัฒนธรรม นอกจากนี้ทีมงานผู้อยู่เบื้องหลัง You Can't Say That รายการชื่อดังของ ABC จะมาพูดคุยเพื่อส่งเสริมความหลากหลายทางสังคม

          กิจกรรมเวิร์กช็อป Citizens of the World และการอบรมอื่น ๆ จะช่วยพัฒนาทักษะที่จำเป็นในการใช้ชีวิตที่สร้างสรรค์และสมบูรณ์ยิ่งขึ้น Semi Permanent กลับมาอีกครั้งในปีนี้ พร้อมอัดแน่นด้วยกิจกรรมเกี่ยวกับการออกแบบ ร่วมด้วย Michael Gough รองประธานฝ่ายการออกแบบของ Uber และผู้ทรงอิทธิพลทางความคิดคนอื่น ๆ

          เป็นอีกปีหนึ่งที่กิจกรรม Vivid Ideas Exchange จะจัดขึ้นที่ชั้น 6 ของพิพิธภัณฑ์ศิลปะร่วมสมัยออสเตรเลีย โดยมีการพูดคุยและเวิร์กช็อปฝึกทักษะตลอด 23 วัน ประกอบด้วยการประชุมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมในอนาคต การสัมมนาเชิงลึก และการจัดแสดงผลงานที่จะช่วยจุดประกายมุมมองและท้าทายความคิดสร้างสรรค์ของคุณ

          VIVID MUSIC

          เทศกาล VIvid Sydney เชิดชูวัฒนธรรมดนตรีสดของนครซิดนีย์ ด้วยการรวบรวมทั้งศิลปินที่ทรงอิทธิพลจากต่างประเทศ และขณะเดียวกันก็ให้ความสนใจกับศิลปินผู้มีความสามารถในประเทศ รายชื่อศิลปินในปีนี้มีดังนี้

          วงอิเล็กทรอนิก RUFUS DU SOL และศิลปินป็อปผู้ไม่จำกัดแนวเพลง FKA Twigs เป็นไฮไลท์ของโปรแกรม Carriageworks นอกจากนี้ Curve Ball แดนซ์ปาร์ตี้ประจำปี ซึ่งดำเนินการโดย Fuzzy Events จะกลับมาอีกครั้ง โดยมีศิลปินได้แก่ Hayden James, Touch Sensitive และ Mallrat

          The City Recital Hall ขอเสนอความหลากหลายแห่งเสียงดนตรี โดยตำนานแห่งงวงการดนตรีออสเตรเลีย Paul Kelly และนักประพันธ์เพลงแถวหน้าชาวออสเตรเลีย James Ledger จะมาเล่นเพลงใหม่ 13 เพลงและแสดงดนตรี soundscape ที่ได้แรงบันดาลใจจากเสียงนกร้อง นอกจากนี้ยังร่วมด้วยนักร้องเพลงป็อป Kate Miller-Heidke นักเปียโนผู้มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ ZOFO และ Concertos on Fire

          การแสดง Vivid LIVE ที่ Sydney Opera House เชิดชูศิลปินผู้รังสรรค์แนวเพลงที่แหวกแนว และศิลปินที่สร้างสรรค์ผลงานในแบบของตัวเอง The Cure วงดนตรีอัลเทอร์เนทีฟร็อกรุ่นบุกเบิกจากอังกฤษ ฉลองครบรอบ 30 ปีของอัลบัม Disintegration ด้วยการแสดงพิเศษเฉพาะที่ออสเตรเลียสี่รายการ ซึ่งขายตั๋วหมดเกลี้ยงแล้ว ด้าน Underworld วงอิเล็กทรอนิกจากอังกฤษ จะมาเปลี่ยนฮอลล์จัดแสดงคอนเสิร์ตให้เป็นแดนซ์ฟลอร์สุดมันด้วยการแสดงพิเศษสี่รายการ Maggie Rogers ศิลปิน synth-pop ดาวรุ่งชาวอเมริกัน จะมาแสดงที่ Sydney Opera House เป็นครั้งแรก พร้อมกับเพลงใหม่ล่าสุด Heard IT in a Past Life นักร้องและนักประพันธ์เพลงชื่อดัง Sharon Van Etten จะมาแสดงพิเศษเพียงหนึ่งคืนเท่านั้น และพลาดไม่ได้กับการแสดงครั้งเดียวในซิดนีย์ของผู้บุกเบิกวงการเพลงแจ๊ซระดับตำนาน Herbie Hancock

          ปี 2019 เป็นปีที่สามที่ X|Celerate's จับมือกับนครซิดนีย์ และ Destination NSW เพื่อสนับสนุนวงการดนตรีของซิดนีย์ที่กำลังเติบโตอย่างต่อเนื่อง สถานที่ต่าง ๆ ในเมืองชั้นใน 23 แห่ง อาทิ ร้านทำผม โบสถ์ และโรงเบียร์ จะเป็นสถานที่แสดงของศิลปินหน้าใหม่ในทุกแนวเพลง อย่างเช่น The Catholics, Set Mo, Carlotta และ I Know Leopard โดยมีวง Heaps Gay กลับมาอีกครั้งในปีนี้ สำหรับการแสดง Qweens Ball ที่ Sydney Town Hall

          กิจกรรม Vivid Art After Hours กลับมาอีกครั้งเช่นกัน ณ Art Gallery of NSW พร้อมกับกิจกรรม Vivid Ideas และ Vivid Music ในคืนวันพุธ พบกับเพลง Do the Spike Thing ของ Andrew Bukenya ดนตรีของ OKENYO ที่จะพาผู้ฟังดำดิ่งไปกับแนวคิดเรื่องความเป็นมนุษย์ และ JZ Lunar Capsule ซึ่งจะนำเสนอ Astronaut's Playlist เพื่อสรรเสริญดนตรีของผู้ท่องอวกาศตามจินตนาการของนักอวกาศ Apollo 11 เมื่อ 50 ปีก่อน

          ผู้สนับสนุนเทศกาล VIVID SYDNEY

          เทศกาล Vivid Sydney ขอขอบคุณผู้สนับสนุนทุกท่านที่สนับสนุนเทศกาลประจำปี 2019

          American Express กลับมาในฐานะพันธมิตรของงานเป็นปีที่สามติดต่อกัน โดยให้บริการ American Express Lounge ที่ Cruise Bar นอกจากนี้ยังให้การสนับสนุนกิจกรรมอาสาสมัคร Vivid Sydney Volunteer Program

          Samsung Electronics Australia และ TransGrid ซึ่งเป็นพันธมิตรด้านพลังงานอย่างเป็นทางการ กลับมาเป็นพันธมิตรของเทศกาลอีกครั้งในปีนี้ ขณะที่ Pixar Animation Studios เปิดตัวในฐานะพันธมิตรเป็นครั้งแรก

          สำหรับผู้สนับสนุนรายอื่น ๆ ได้แก่ City of Sydney, Sydney Opera House, Technical Direction Company และ 32 Hundred Lighting และ ICC Sydney

          นับเป็นปีที่สามแล้วที่ บริษัท Cushman & Wakefield กลับมาเป็นพันธมิตรด้าน Access and Inclusion ของเทศกาล Vivid Sydney นอกจากนี้ ทางเทศกาลยังสานต่อการเป็นพันธมิตรด้านความยั่งยืนกับ Banksia Foundation และ Informed 365 อีกด้วย

          ในส่วนของผู้ร่วมจัดงานเทศกาล Vivid Sydney ประกอบด้วย Art Gallery of NSW, Australian Museum, BEMO, Carriageworks, Dallas Fort Worth International Airport, Event Engineering, Kennards Hire, Museum of Contemporary Art Australia, NSW National Parks & Wildlife Service, PropMill, Spinifex Group, State Library NSW

          ขณะที่ Royal Flying Doctor Service, South Eastern Section รับหน้าที่จัดงานเลี้ยงการกุศลอย่างเป็นทางการ

          ดาวน์โหลดสื่อ โปรแกรม และภาพความละเอียดสูง รวมถึงการแสดงแสงสีที่กำลังจะเกิดขึ้นในเทศกาล Vivid Sydney 2019 และคลิปวิดีโอกิจกรรมไฮไลท์ของเทศกาลประจำปี 2018 ได้ที่ www.vividsydney.com/media-centre



No comments:

Post a Comment