Tuesday, July 23, 2019

ARPA เปิดตัวเครือข่ายประมวลผลที่รักษาความเป็นส่วนตัวรองรับบล็อกเชน

   ยิ่งมีข้อมูลมากขึ้น ปัญหาเรื่องความเป็นส่วนตัวก็มากขึ้นตาม

          บล็อกเชนเป็นเทคโนโลยีที่มีขึ้นเพื่อทำหน้าที่บันทึกข้อมูล ขณะที่ธุรกิจร่วมทุนต่าง ๆ เช่น ARPA มีความมุ่งมั่นเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของธุรกิจและบุคคล โดยเครือข่ายประมวลผลแรกที่มีขึ้นเพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวและโครงการระดมทุนแบบ IEO ระหว่างจีนกับเกาหลีใต้โครงการแรกของโลกนี้ กำลังสร้างเครือข่ายประมวลผลที่มีความปลอดภัย และรองรับการทำงานกับบล็อกเชน (รองรับการทำงานกับเชนที่มีอยู่เดิม เช่น Ethereum และ EOS)

          แพลตฟอร์มของ ARPA เปิดโอกาสให้นักพัฒนานำข้อมูลไปวิเคราะห์และใช้งานได้อย่างปลอดภัย แต่ขณะเดียวกันก็ปกป้องไม่ให้ข้อมูลหลุดไปยังบุคคลภายนอกด้วย

          ทำไมความเป็นส่วนตัวถึงมีความสำคัญ

          เพราะผลการวิจัยพบว่า ผู้ใช้งานส่วนใหญ่มีความกังวลเกี่ยวกับการเก็บข้อมูลส่วนบุคคล และควรมีการอนุมัติกฎหมายใหม่ ๆ เพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัว ซึ่งสิ่งนี้จะเกิดขึ้นจริงหรือไม่ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องจับตากันต่อไป เพราะแนวปฏิบัติด้านการกำกับดูแลทั่วโลกนั้นยังตามไม่ทันนวัตกรรมคริปโตและบัญชีสาธารณะ ปัจจุบัน กฎหมาย GDPR ของยุโรปซึ่งมีผลบังคับใช้เมื่อปีที่ผ่านมานั้น กำลังถูกจับตาอย่างใกล้ชิดจากภาคธุรกิจ หน่วยงานกำกับดูแล และหน่วยงานเฝ้าระวังทั่วโลก

          ในอเมริกาเหนือ ผลการวิจัยพบว่า ผู้คนตั้งแต่สองในสามไปจนถึงสามในสี่ต่างมีความกังวลเกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูล โดยผลการวิจัยเมื่อปี 2561 จาก Akamai พบว่า ผู้ตอบแบบสำรวจ 71% เลือกใช้ซอฟต์แวร์ที่มีฟีเจอร์บล็อกโฆษณา ปกป้องความเป็นส่วนตัว และฟีเจอร์อื่น ๆ ขณะที่ผู้ตอบแบบสำรวจ 66% มองว่า รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ควรหันมาอนุมัติกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวกันมากขึ้น และหากความคิดเห็นเหล่านี้ปรากฏให้เห็นมากขึ้นแล้ว ผู้บัญญัติกฎหมายก็น่าจะมองเห็นข้อเรียกร้องจากประชาชนในการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคล

          คุ้มครองความเป็นส่วนตัวในการประมวลผล

          "ความเป็นส่วนตัวและความยืดหยุ่นในการรองรับการขยายของบล็อกเชน เป็นสองปัญหาที่สำคัญที่สุดในเชนสาธารณะ" คุณ Yemu Xu ผู้ร่วมก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโตของ ARPA กล่าว "เทคโนโลยีของเราอาศัยการประมวลผลความปลอดภัยแบบหลายกลุ่ม (MPC) และเรากำลังสร้างสิ่งที่เรียกว่า 'สัญญาอัจฉริยะ 2.0'"

          หากต้องอธิบายให้เข้าใจง่ายขึ้นแล้ว เทคโนโลยี MPC เปิดโอกาสให้กลุ่มต่าง ๆ สามารถทำการประมวลผลร่วมระหว่างกันเอง ยกตัวอย่างเช่น สถาบันการเงินสามารถค้นหารายชื่อแบล็คลิสต์ที่มีร่วมกัน หรือทำการวิเคราะห์ความเสี่ยงของผู้ขอกู้ยืมร่วมกัน โดยไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนตัวของแต่ละฝ่าย สำหรับในแวดวงการตลาดดิจิทัลนั้น MPC เปิดโอกาสให้นักโฆษณาสามารถแสดงผลโฆษณาตามลักษณะพฤติกรรมของผู้ใช้งานที่มีจำนวนมากโดยไม่ละเมิดความเป็นส่วนตัว

          ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจเมื่อเดือนก.พ. 2562 โดย Egress พบว่า ผู้เชี่ยวชาญในแวดวงการรักษาความปลอดภัยเกือบสี่ในห้า (83%) เชื่อว่า พนักงานเคยทำข้อมูลที่มีความอ่อนไหวของลูกค้าหรือธุรกิจในองค์กรของตนหลุดโดยไม่ได้ตั้งใจ

          สร้างสรรค์สัญญาอัจฉริยะที่ปกป้องความเป็นส่วนตัว

          ARPA ยังเดินหน้าพัฒนาสัญญาอัจฉริยะที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวด้วย ตลาดสัญญาอัจฉริยะ (สัญญาชนิดโปรแกรม) คาดว่าจะมีมูลค่าแตะ 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2566 แม้ปัจจุบันตลาดดังกล่าวยังไม่ถือว่าใหญ่มาก แต่ก็คาดว่าจะเข้ามาลดต้นทุนได้เป็นอย่างมากสำหรับบริษัทและบุคคลทั่วไปด้วยการกำจัดค่าคนกลาง โดยสัญญาอัจฉริยะที่ปกป้องความเป็นส่วนตัวนี้ ทำหน้าที่คุ้มครองข้อมูลที่มีความอ่อนไหว ไม่ให้ผู้ไม่หวังดีเข้าถึงได้

          ในประเด็นการทำให้บล็อกเชนมีความยั่งยืนมากยิ่งขึ้นนั้น ผู้ก่อตั้ง ARPA ได้วางแผนที่จะพัฒนากระบวนการ sharding ในแง่ของการประมวลผล เพื่อให้บล็อกเชนรองรับการทำธุรกรรมได้มากขึ้น ซึ่งถือเป็นเป้าหมายที่มีความท้าทายเนื่องจากการทำ sharding คือการแบ่งส่วนของข้อมูลเพื่อทำให้เชนมีความยั่งยืน แต่มีโครงการบางโครงการ (รวมถึง Ethereum) ที่พบว่าโซลูชันดังกล่าวนำมาปรับใช้ได้ยาก ทั้งนี้ sharding เป็นโซลูชันที่จะช่วยเข้ามาแก้ปัญหาบล็อกเชนพองตัว (blockchain bloat) ซึ่งเครือข่ายอาจถูกรบกวนหรือไม่มีความน่าเชื่อถือเนื่องจากมีการสะสมข้อมูลบนเชนมากเกินไป

          การใช้งานในอุตสาหกรรมต่าง ๆ

          การใช้งานบล็อกเชนในภาคอุตสาหกรรมมีประโยชน์หลัก ๆ หลายประการ โดยส่วนมากมักเกี่ยวข้องกับประเด็นความปลอดภัยและการแชร์ข้อมูลระดับโลก

          ข้อมูลถือเป็นสินทรัพย์ประเภทใหม่ และการรักษาความเป็นส่วนตัวในการประมวลผลคือกุญแจสำคัญในการป้องกันการแฮ็กหรือการเข้าถึงข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต การเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์จะมีปัญหาเมื่อมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินคริปโต ซึ่งกุญแจส่วนตัวจะถูกควบคุมโดยศูนย์กลาง ดังนั้น เมื่อข้อมูลที่มีความอ่อนไหวได้รับการคุ้มครองและกระจายตัวออกไปยังฝ่ายต่าง ๆ แฮกเกอร์จึงไม่สามารถเข้าถึงกองทุนดิจิทัลหรือข้อมูลส่วนตัวได้

          "เครือข่ายประมวลผลที่มีความปลอดภัยของ ARPA รองรับการนำไปใช้งานในลักษณะ to-B และ to-C อันน่าตื่นเต้นมากมาย" คุณ Yemu Xu กล่าว "ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบเครดิตในระดับองค์กร การทำการตลาดที่แม่นยำ การวินิจฉัยทางการแพทย์ กระเป๋าเงินที่มีความปลอดภัยในการเก็บข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภค การจัดการระบบการแจกจ่ายกุญแจ และอื่น ๆ อีกมากมาย"

          การเก็บข้อมูลที่ปลอดภัยนั้นต่างเป็นความต้องการของอุตสาหกรรมต่าง ๆ แต่จะยิ่งมีประโยชน์มากขึ้นไปอีกหากได้รับการนำไปใช้ในด้านบริการทางการเงิน สุขภาพ และอุตสาหกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อองค์กรต่าง ๆ สามารถประมวลข้อมูลระหว่างหน่วยงานที่ร่วมมือกันในภูมิภาคต่าง ๆ ทั่วโลกได้อย่างปลอดภัยแล้ว สิ่งนี้ก็จะปล่อยการประมวลผลข้อมูลที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนได้

          "ARPA ขอแจ้งเกิดด้วยโซลูชันการแชร์ข้อมูลส่วนตัวระดับองค์กรและสร้างผลประโยชน์ทางธุรกิจด้วยข้อมูลที่มีความปลอดภัย" คุณ Felix Xu ซีอีโอของ ARPA กล่าว "สิ่งเหล่านี้รวมถึงข้อมูลเครดิตร่วมของหลายฝ่าย การเช่าข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลที่มีความปลอดภัย และงานอื่น ๆ ในอุตสาหกรรมการเงิน" นอกจากนี้ แพลตฟอร์มดังกล่าวยังมีการนำไปใช้ในด้านการประกันภัย การทำการตลาดโดยใช้บิ๊กดาต้า ระบบสาธารณสุข และปัญญาประดิษฐ์ด้วย

          ทั้งนี้ ARPA ก่อตั้งขึ้นในเดือนเมษายน 2561 และได้รับการสนับสนุนจากนักลงทุนสถาบันมากมาย ไม่ว่าจะเป็นผู้ก่อตั้ง TechCrunch อย่าง Arrington XRP ไปจนถึง GBIC, Genesis Capital และ Metropolis VC โดยทางบริษัทวางแผนที่จะเปิดตัว mainnet ในปีนี้ ปัจจุบัน โทเคนของ ARPA ได้มีการซื้อขายบน gate.io, KuCoin และจะเปิดให้มีการซื้อขายบน Binance DEX เร็ว ๆ นี้

No comments:

Post a Comment