Aminolhuda พร้อมด้วยตัวแทนจาก IDC รวมถึงฝ่ายบริหารของ IRDA และ CGPV ในพิธีมอบรางวัล IDC Smart City Award ซึ่งจัดขึ้นที่ Forest City |
โครงการ Forest City ในรัฐยะโฮร์ มีความโดดเด่นเหนือโครงการอื่นๆ อีก 57 โครงการในทุกสาขา อันเป็นผลมาจากระบบสุดล้ำอย่าง "Smart B.I.A"
สำหรับโครงการอื่นๆ ที่ได้รับรางวัลในปีนี้เป็นโครงการสาธารณะจากนิวซีแลนด์ สิงคโปร์ ออสเตรเลีย และประเทศอื่นๆ ซึ่งรวมถึงระบบยืนยันใบหน้าไบโอเมตริกของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองสิงคโปร์, โครงการสุดยอดเมืองอัจฉริยะของกองความมั่นคงสาธารณะซูโจวอู๋เจียง (สาขา Smart Policing) และโครงการถนนอัจฉริยะของสภาเมืองโอ๊คแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์ (สาขา Top Smart City Project for Sustainable Infrastructure)
Syarul Izam Sarifudin ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการพัฒนา บริษัท CGPV กล่าวว่า Forest City มุ่งมั่นสร้างสรรค์โซลูชันที่โดดเด่นสำหรับอาคารอัจฉริยะ โดยระบบ "Smart B.I.A" ได้บูรณาการเทคโนโลยีใหม่อย่าง BIM-IOT-AI ที่ผสานโมเดลข้อมูลอาคาร BIM, แพลตฟอร์ม IOT sensing และแอปพลิเคชัน AI city ซึ่งครอบคลุมถึงระบบน้ำหยด ระบบอัตโนมัติในอาคาร ระบบรักษาความปลอดภัยอัจฉริยะ มาตรวัดอัจฉริยะ ระบบฉุกเฉิน หุ่นยนต์บริการชุมชน และระบบอื่นๆ อีกมากมาย
"การใช้ BIM พัฒนา Forest City มีบทบาทสำคัญในการยกระดับคุณภาพการออกแบบโครงการ การก่อสร้างตามหลักความยั่งยืน รวมถึงการบริหารสิ่งอำนวยความสะดวกและสินทรัพย์ โดย BIM จะสร้างแบบจำลองอาคารเสมือนจริง 3 มิติ ทำให้สามารถติดตามความคืบหน้าของโครงการก่อสร้าง และรับประกันว่าสามารถตรวจสอบการเปลี่ยนแปลงก่อนลงมือสร้างจริง ซึ่งจะช่วยลดข้อผิดพลาดหรือการทำงานซ้ำ นอกจากนี้ Forest City ยังใช้ข้อมูล BIM สร้างมาตรฐานในการก่อสร้างอีกด้วย โดยส่วนประกอบอาคารบางส่วนสามารถประกอบให้เสร็จล่วงหน้าในโรงงานที่ใช้ระบบ Industrialised Building System (IBS) ซึ่งช่วยยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของอาคาร รวมถึงช่วยลดมลภาวะที่เกิดขึ้นในไซต์งานก่อสร้างด้วย" Syarul Izam กล่าว
ในด้านการบริหารอาคารอัจฉริยะนั้น Forest City สามารถบริหารจัดการจากระยะไกลผ่านแพลตฟอร์ม IOT sensing ที่ประกอบด้วยมาตรวัดอัจฉริยะ ระบบติดตามอาคาร และกำแพงสีเขียว ซึ่งเป็นกำแพงภายนอกอาคารที่ปกคลุมด้วยสวนแนวตั้งพร้อมระบบน้ำหยดอัตโนมัติ โดยสามารถรดน้ำต้นไม้ในปริมาณที่เหมาะสมผ่านเครือข่ายติดตามออนไลน์อัตโนมัติ จึงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพรวมถึงประโยชน์ทางระบบนิเวศและสิ่งแวดล้อมของอาคารได้อย่างมหาศาล ยิ่งไปกว่านั้นยังสามารถบริหารอาคารได้อย่างมีประสิทธิภาพด้วยแอปพลิเคชัน AI city เช่น การควบคุมความปลอดภัยและการใช้พลังงานในอาคารครบวงจร
Gerald Wang หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านเมืองอัจฉริยะของ IDC กล่าวว่า ระบบ "Smart B.I.A" ใน Forest City ช่วยสนับสนุนการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อให้บริการแก่สาธารณะและขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นจุดที่เศรษฐกิจดิจิทัลของมาเลเซียให้ความสำคัญ
"แนวคิดเมืองอัจฉริยะแสดงให้เห็นว่าเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถนำเสนอนวัตกรรมและโซลูชันอัจฉริยะเพื่อเอาชนะความท้าทายทั้งในปัจจุบันและอนาคต"
นับตั้งแต่ปี 2558 มีผู้เข้าชิงรางวัลจากเวทีนี้มากมาย เช่น สำนักงานเทคโนโลยีภาครัฐแห่งสิงคโปร์, เทศบาลเมืองไทเป, เทศบาลเมืองต่างๆ ของสาธารณรัฐประชาชนจีน (เซินเจิ้น เซี่ยงไฮ้ ปักกิ่ง), สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ประเทศไทย), เทศบาลเมืองต่างๆ ของเกาหลีใต้ (อินชอน แทจอน ปูซาน), รัฐบาลนิวเซาท์เวลส์ (ออสเตรเลีย) และเทศบาลเมืองต่างๆ ของนิวซีแลนด์ (โอ๊คแลนด์ ไครสต์เชิร์ช เวลลิงตัน)
Aminolhuda Hassan ประธานคณะกรรมการด้านการศึกษา ทรัพยากรบุคคล วิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีของรัฐยะโฮร์ ซึ่งร่วมเป็นสักขีพยานในการมอบรางวัล กล่าวว่า การมีแรงงานที่เสียสละ เฉลียวฉลาด และมุ่งมั่น ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เนื่องจากมีส่วนช่วยสนับสนุนระบบ "Smart B.I.A"
"การสร้างเมืองอัจฉริยะต้องอาศัยความมุ่งมั่นและแหล่งเงินทุนที่แข็งแกร่ง รวมถึงความร่วมมือจากภาครัฐ คณะทำงาน บริษัทเอกชน และชุมชน ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายเลย"
นอกจากนี้ยังมีผู้ทรงเกียรติอีกหลายท่านร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบรางวัล เช่น Sudev Bangah กรรมการผู้จัดการ IDC ประจำภูมิภาคอาเซียน, Maimunah Jaafar หัวหน้าฝ่ายวางแผนและปฏิบัติงานของสำนักงานเพื่อการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษอิสกันดาร์ (IRDA) และ Hugo Wu ผู้จัดการบริหารของ CGPV
เกี่ยวกับ Forest City
โครงการเมืองใหม่ Forest City ร่วมพัฒนาโดยบริษัท Country Garden และบริษัท Esplanade Danga 88 Sdn Bhd (EDSB) ที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐยะโฮร์ Forest City ตั้งอยู่ในเขตเศรษฐกิจพิเศษอิสกันดาร์ที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาอาเซียน และอยู่ติดกับจุดตรวจทูแอส Forest City ครอบคลุมพื้นที่ราว 30 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยเกาะที่มนุษย์สร้างขึ้น 4 เกาะ รีสอร์ทพร้อมสนามกอล์ฟ และนิคมอุตสาหกรรม IBS ทั้งนี้ Forest City คือเมืองอุตสาหกรรมอัจฉริยะสีเขียวที่ตั้งเป้าพัฒนา 8 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ การท่องเที่ยวและ MICE, การดูแลสุขภาพ, การศึกษาและการฝึกอบรม, สำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาค, การเงินแบบ Nearshore Finance, อีคอมเมิร์ซ, เทคโนโลยีใหม่ และอุตสาหกรรมอัจฉริยะสีเขียว ผสานแนวคิดการออกแบบที่บูรณาการสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยี และอุตสาหกรรมไว้ด้วยกัน เพื่อสร้างพื้นที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำงานในอุดมคติที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี และเป็นแม่แบบเมืองแห่งอนาคต
thailand is a hub of startups and if you now more info about there athailand startups check there.
ReplyDelete