SSAB และ Vestre ได้ร่วมมือกัน โดยที่ Vestre ผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์สไตล์ urban ของนอร์เวย์จะเป็นบริษัทแรกของโลกที่ใช้เหล็กกล้าไร้ฟอสซิลในการผลิตเฟอร์นิเจอร์ และ Vestre จะนำเสนอโครงการความร่วมมือแรกในช่วงฤดูใบไม้ผลินี้
"การที่เราเริ่มต้นการเดินทางสู่ความยั่งยืนกับ Vestre นั้นเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยมมาก เพราะพวกเขามีเป้าหมายเหมือนกับเราในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกตลอดห่วงโซ่คุณค่า ในขณะเดียวกัน ความร่วมมือดังกล่าวยังแสดงให้เห็นถึงขอบเขตการใช้งานที่หลากหลายของเหล็กกล้าไร้ฟอสซิลของเรา" Thomas Hoernfeldt หัวหน้าฝ่ายธุรกิจยั่งยืนของ SSAB กล่าว
Vestre มีเป้าหมายที่จะผลักดันการพัฒนาและการเปลี่ยนผ่านไปสู่วัสดุและกระบวนการผลิตที่ยั่งยืนขึ้น เพื่อให้สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืนสูงสุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าในวันนี้กำลังต้องการมากขึ้นเรื่อย ๆ ได้
"เมื่อเราได้รู้เรื่องกระบวนการ HYBRIT และเหล็กกล้าไร้ฟอสซิลของ SSAB เราก็เล็งเห็นได้ทันทีว่านี่คือส่วนสำคัญของโซลูชั่นของเราที่มุ่งสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกเป็นศูนย์ในอนาคต การประมาณการเบื้องต้นแสดงว่าการเปลี่ยนเหล็กทั้งหมดที่เราใช้เป็นเหล็กกล้าไร้ฟอสซิล สามารถลดรอยเท้าคาร์บอนโดยรวมของเราลงได้ประมาณร้อยละ 60 เรามุ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนความต้องการทางเลือกที่ไร้ฟอสซิล และเมื่อราคาของโควตาคาร์บอนไดออกไซด์ภาคบังคับของสหภาพยุโรปเพิ่มสูงขึ้น ก็จะมีแรงกดดันเพิ่มขึ้นต่ออุตสาหกรรมเหล็กให้ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงด้วยเช่นกัน" ?yvind Bj?rnstad ประธานเจ้าหน้าที่ด้านความยั่งยืนที่ Vestre กล่าว
SSAB มุ่งมั่นที่จะนำอุตสาหกรรมเหล็กของโลกไปสู่อนาคตที่ปลอดคาร์บอนไดออกไซด์ เทคโนโลยีการผลิตเหล็กกล้าไร้ฟอสซิลของ SSAB พัฒนามาจากโครงการริเริ่ม HYBRIT (Hydrogen Breakthrough Ironmaking Technology หรือ เทคโนโลยีใหม่ในการผลิตเหล็กด้วยไฮโดรเจน) ซึ่ง SSAB เปิดตัวไปในปี 2016 ร่วมกับบริษัทเหมืองแร่ LKAB และบริษัทพลังงาน Vattenfall เทคโนโลยีนี้แทนที่ถ่านหินและถ่านโค้กที่ใช้อยู่ในปัจจุบันในกระบวนการถลุงเหล็กด้วยเตาสูง (Blast Furnace) โดยเปลี่ยนเป็นพลังงานไฮโดรเจนและพลังงานไฟฟ้าปราศจากฟอสซิลแทน
No comments:
Post a Comment