ในระหว่างงานหัวเว่ย คอนเนกต์ (Huawei Connect) ประจำปี 2566 หัวเว่ยได้เปิดตัวโซลูชัน CloudCampus 10 Gbps คุณภาพสูงเวอร์ชันอัปเกรดใหม่ที่มาพร้อมกับ 4 ฟีเจอร์สุดพิเศษ ได้แก่ การเข้าถึงความเร็วสูง, สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่าย, สุดยอดประสบการณ์ และการดำเนินงานและการบำรุงรักษาแบบเรียบง่าย (O&M) โดยโซลูชันดังกล่าวพร้อมรองรับอนาคต มีความเหมาะสมอย่างยิ่งสำหรับองค์กรทั่วโลกในการสร้างเครือข่ายแคมปัสคุณภาพสูง "ความเร็ว 10 Gbps สำหรับสำนักงาน, 10 Gbps สำหรับการผลิต และ 10 Gbps สำหรับสาขา" เพื่อเร่งความเร็วในการเดินทางเปลี่ยนผ่านจากยุคดิจิทัลไปสู่ยุคระบบอัจฉริยะ
รายงานจากโอวุม (OVUM) ระบุว่า จำนวนเทอร์มินัลอัจฉริยะจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดในอีก 2 ปีต่อจากนี้ การรับส่งข้อมูลเสียงและวิดีโอจะเพิ่มขึ้นอีก 30% เมื่อเทียบรายปี และภายในปี 2568 แอปพลิเคชันต่าง ๆ ราว 80% จะย้ายไปอยู่บนระบบคลาวด์ ด้วยเหตุนี้ เครือข่ายแคมปัสขององค์กรจึงกำลังพัฒนาไปใน 4 ทิศทางได้แก่ อัลตร้าบรอดแบนด์, ความเรียบง่าย, สุดยอดประสบการณ์ และการดำเนินงานและ O&M แบบเรียบง่าย
เควิน หยาง (Kevin Yang) รองประธานฝ่ายโดเมนเครือข่ายแคมปัส กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย กล่าวว่า "ยุคความเร็ว 10 Gbps ได้มาถึงแล้ว เพื่อที่จะรองรับเครือข่ายนี้ ลูกค้าจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ร่วมผนึกกำลังกับหัวเว่ยเพื่อสร้างเครือข่ายแคมปัส 10 Gbps คุณภาพสูงแบบเน้นประสบการณ์เป็นศูนย์กลางเป็นของตัวเอง"
โดยทั่วไปแล้ว องค์กรต่าง ๆ จะมีสำนักงานเครือข่ายแคมปัสอยู่ภายในองค์การ แต่โซลูชัน CloudCampus ความเร็ว 10 Gbps คุณภาพสูงของหัวเว่ยช่วยให้องค์กรระดับโลกทุกขนาดสามารถสร้างสำนักงานเครือข่ายแคมปัสที่ดีที่สุดที่มีทั้งการเข้าถึงความเร็วสูง สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่าย สุดยอดประสบการณ์ และการดำเนินงานและการบำรุงรักษาแบบเรียบง่าย
ในงานปีนี้ หัวเว่ยได้เน้นย้ำถึงนวัตกรรมสวิตช์ Time-Sensitive Networking (TSN) ที่รองรับการจัดการโดยอัตโนมัติในซีรีส์ CloudEngine S5735I-H สวิตช์ที่มีฟีเจอร์มากมายเหล่านี้มีเวลาแฝงต่ำและความน่าเชื่อถือสูงซึ่งจำเป็นสำหรับระบบควบคุมอุตสาหกรรม และอำนวยความสะดวกในการรวมกันของเครือข่ายไอทีสำนักงาน, เทคโนโลยีเชิงปฏิบัติงาน (OT) และไอทีการผลิต นอกจากนี้ โซลูชันสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายของหัวเว่ยซึ่งประกอบด้วยสวิตช์ส่วนกลาง, หน่วยระยะไกล (RU) และสายเคเบิลไฮบริด 2,000 ม. สามารถลดความซับซ้อนของเครือข่ายสามชั้นแบบเดิมให้เป็นเครือข่ายสองชั้นได้ ซึ่งจะช่วยให้ครอบคลุมเครือข่ายการผลิตทางอุตสาหกรรมทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้น โซลูชันของหัวเว่ยยังรองรับการผสมผสานโมดูลฟังก์ชันแบบเลโก้เพื่อรองรับสถานการณ์ทางอุตสาหกรรมต่าง ๆ การผสมผสานเหล่านี้จะช่วยลดจำนวนอุปกรณ์เครือข่ายและหน่วยจัดการเครือข่ายลง 50% ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าลดรายจ่ายดำเนินงาน (OPEX) ลงได้ถึง 50%
นอกจากนี้ ในงานยังมีผู้บุกเบิกระดับโลกจากหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมบอกเล่าแนวทางปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายแคมปัส 10 Gbps คุณภาพสูงกับหัวเว่ย โดยจนถึงปัจจุบัน โซลูชันเครือข่ายแคมปัสของหัวเว่ยได้รับการพิสูจน์ในภาคปฏิบัติแล้วในองค์กรต่าง ๆ จำนวนมากในกว่า 150 ประเทศและภูมิภาค
ในภายภาคหน้า หัวเว่ยจะยังคงเจาะลึกในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมที่มองหาเครือข่ายแบบเรียบง่ายและสุดยอดประสบการณ์ได้ดียิ่งขึ้น การทำเช่นนี้จะผลักดันอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ก้าวเข้าสู่อนาคตอัจฉริยะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน CloudCampus 10 Gbps คุณภาพสูงของหัวเว่ยได้ที่ https://e.huawei.com/en/topic/enterprise-network/high-quality-cloudcampus
เควิน หยาง (Kevin Yang) รองประธานฝ่ายโดเมนเครือข่ายแคมปัส กลุ่มผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย กล่าวว่า "ยุคความเร็ว 10 Gbps ได้มาถึงแล้ว เพื่อที่จะรองรับเครือข่ายนี้ ลูกค้าจากอุตสาหกรรมต่าง ๆ ร่วมผนึกกำลังกับหัวเว่ยเพื่อสร้างเครือข่ายแคมปัส 10 Gbps คุณภาพสูงแบบเน้นประสบการณ์เป็นศูนย์กลางเป็นของตัวเอง"
โดยทั่วไปแล้ว องค์กรต่าง ๆ จะมีสำนักงานเครือข่ายแคมปัสอยู่ภายในองค์การ แต่โซลูชัน CloudCampus ความเร็ว 10 Gbps คุณภาพสูงของหัวเว่ยช่วยให้องค์กรระดับโลกทุกขนาดสามารถสร้างสำนักงานเครือข่ายแคมปัสที่ดีที่สุดที่มีทั้งการเข้าถึงความเร็วสูง สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่าย สุดยอดประสบการณ์ และการดำเนินงานและการบำรุงรักษาแบบเรียบง่าย
- การเข้าถึงความเร็วสูง: ผลิตภัณฑ์ AirEngine Wi-Fi 7 รุ่นใหม่ทั้ง 8 รุ่นของหัวเว่ยช่วยมอบความเร็วสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 18.67 Gbps และรองรับประสบการณ์การรับชมวิดีโอ HD แบบราบรื่นถึง 120 ช่องสัญญาณ นอกจากนี้ สวิตช์ CloudEngine S5755-H multi-GE ตัวใหม่ของหัวเว่ยยังเปิดโอกาสให้เลือกพอร์ต GE, 2.5GE, 5GE และ 10GE ได้ตามความต้องการ ช่วยให้การเข้าถึงเทอร์มินัลจำนวนมากขึ้นมีความยืดหยุ่นและเชื่อถือได้
- สถาปัตยกรรมแบบเรียบง่าย: โซลูชันของหัวเว่ยใช้สถาปัตยกรรมเครือข่ายรุ่นใหม่ที่ผสมผสานหลากหลายเครือข่ายและเครือข่ายเดียวสำหรับหลายวัตถุประสงค์ ศักยภาพด้านนี้สามารถปรับใช้ได้กับบริการเครือข่ายขนาดใหญ่พิเศษได้อย่างยืดหยุ่น และปูทางสู่การขยายบริการใหม่และการดำเนินงานที่คุ้มค่าในอนาคต โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AP ของหัวเว่ยมีการ์ด IoT ในตัวและความสามารถของคอนเทนเนอร์ในการหลอมรวม Wi-Fi และ IoT เทคโนโลยีการจำลองเสมือนเครือข่ายที่ล้ำสมัย เช่น VXLAN และการแบ่งส่วนเครือข่าย ยังสามารถใช้เพื่อสร้างเครือข่ายเดี่ยวสำหรับบริการที่หลากหลายและจัดหาทรัพยากรเครือข่ายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับบริการแต่ละประเภท
- สุดยอดประสบการณ์: การรับประกันประสบการณ์แบบหลายมิติในระดับเทอร์มินัล ผู้ใช้ บริการ และเครือข่ายการเข้าถึงเป็นสิ่งที่ต้องมี เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเพลิดเพลินกับประสบการณ์เครือข่ายที่สม่ำเสมอได้ทุกที่ ทุกเวลา บนเทอร์มินัลใดก็ได้ และในโหมดการเข้าถึงใดก็ได้ โซลูชันการรับประกันประสบการณ์เสียงและวิดีโอคุณภาพสูงของหัวเว่ยตอบสนองความต้องการนี้ได้ดี โซลูชันนี้ช่วยให้ประสบการณ์การประชุมวิดีโอราบรื่นสำหรับแคมปัสที่มีผู้ใช้ 10,000 คน
- O&M แบบเรียบง่าย: หัวเว่ยเปิดตัวแผนที่ดิจิทัลสำหรับเครือข่ายแคมปัสเป็นรายแรกของอุตสาหกรรม ซึ่งโดดเด่นด้วยความสามารถในการมองเห็นสถานะเครือข่ายแบบเรียลไทม์และการจัดการคุณภาพเครือข่าย แผนที่ดิจิทัลนี้ทำให้สามารถกำหนดค่าบริการและส่งมอบนโยบายจาก iMaster NCE ของหัวเว่ยได้โดยอัตโนมัติ ด้วยวิธีนี้ วิศวกรจึงไม่จำเป็นต้องดำเนินการทดลองเดินเครื่องหน้างาน ซึ่งจะช่วยย่นระยะเวลาในการกำหนดค่าเครือข่ายจากหลายวันเป็นหลายชั่วโมง นอกจากนี้ แผนที่ดิจิทัลยังช่วยให้คาดการณ์ข้อผิดพลาดของเครือข่ายอย่างชาญฉลาดได้ง่ายขึ้นและระบุข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ซึ่งช่วยลดความซับซ้อนของ O&M ได้อย่างมาก
ในงานปีนี้ หัวเว่ยได้เน้นย้ำถึงนวัตกรรมสวิตช์ Time-Sensitive Networking (TSN) ที่รองรับการจัดการโดยอัตโนมัติในซีรีส์ CloudEngine S5735I-H สวิตช์ที่มีฟีเจอร์มากมายเหล่านี้มีเวลาแฝงต่ำและความน่าเชื่อถือสูงซึ่งจำเป็นสำหรับระบบควบคุมอุตสาหกรรม และอำนวยความสะดวกในการรวมกันของเครือข่ายไอทีสำนักงาน, เทคโนโลยีเชิงปฏิบัติงาน (OT) และไอทีการผลิต นอกจากนี้ โซลูชันสถาปัตยกรรมที่เรียบง่ายของหัวเว่ยซึ่งประกอบด้วยสวิตช์ส่วนกลาง, หน่วยระยะไกล (RU) และสายเคเบิลไฮบริด 2,000 ม. สามารถลดความซับซ้อนของเครือข่ายสามชั้นแบบเดิมให้เป็นเครือข่ายสองชั้นได้ ซึ่งจะช่วยให้ครอบคลุมเครือข่ายการผลิตทางอุตสาหกรรมทั้งหมดได้อย่างครบถ้วน ยิ่งไปกว่านั้น โซลูชันของหัวเว่ยยังรองรับการผสมผสานโมดูลฟังก์ชันแบบเลโก้เพื่อรองรับสถานการณ์ทางอุตสาหกรรมต่าง ๆ การผสมผสานเหล่านี้จะช่วยลดจำนวนอุปกรณ์เครือข่ายและหน่วยจัดการเครือข่ายลง 50% ซึ่งจะช่วยให้ลูกค้าลดรายจ่ายดำเนินงาน (OPEX) ลงได้ถึง 50%
นอกจากนี้ ในงานยังมีผู้บุกเบิกระดับโลกจากหลากหลายอุตสาหกรรมมาร่วมบอกเล่าแนวทางปฏิบัติที่ประสบความสำเร็จในการสร้างเครือข่ายแคมปัส 10 Gbps คุณภาพสูงกับหัวเว่ย โดยจนถึงปัจจุบัน โซลูชันเครือข่ายแคมปัสของหัวเว่ยได้รับการพิสูจน์ในภาคปฏิบัติแล้วในองค์กรต่าง ๆ จำนวนมากในกว่า 150 ประเทศและภูมิภาค
ในภายภาคหน้า หัวเว่ยจะยังคงเจาะลึกในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรทั่วโลกเพื่อให้บริการลูกค้าอุตสาหกรรมที่มองหาเครือข่ายแบบเรียบง่ายและสุดยอดประสบการณ์ได้ดียิ่งขึ้น การทำเช่นนี้จะผลักดันอุตสาหกรรมต่าง ๆ ให้ก้าวเข้าสู่อนาคตอัจฉริยะ
ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับโซลูชัน CloudCampus 10 Gbps คุณภาพสูงของหัวเว่ยได้ที่ https://e.huawei.com/en/topic/enterprise-network/high-quality-cloudcampus
No comments:
Post a Comment