Monday, August 21, 2017

นครฉางชุน มณฑลจี๋หลิน ตั้งเป้าดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศต่อเนื่อง หลังขยายตัวรวดเร็วในช่วงครึ่งปีแรก

          นครฉางชุน มณฑลจี๋หลิน--21 ส.ค.--ซินหัว-เอเชียเน็ท/อินโฟเควสท์

          เมื่อวันที่ 15-19 สิงหาคมที่ผ่านมา รวมระยะเวลา 5 วัน ผู้บริหารบริษัท 40 แห่ง จากเกือบ 10 ประเทศและเขตปกครอง ซึ่งรวมถึงสหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส และฮ่องกง ได้เดินทางมายังนครฉางชุน ทางตะวันออกเฉียงเหนือของจีน เพื่อแสวงหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ

          นครฉางชุน เมืองหลวงของมณฑลจี๋หลิน นับเป็นผู้นำในการฟื้นฟูเขตเมืองอุตสาหกรรมเก่าในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศจีนให้กลับมาเฟื่องฟูขึ้นอีกครั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่ช่วงต้นปีนี้ได้มีการเปิดเผยข้อมูลสถิติที่แสดงให้เห็นว่า ผลผลิตอุตสาหกรรมของเมืองฉางชุนมีมูลค่ามากกว่า 5.10 แสนล้านหยวนในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 เพิ่มขึ้นถึง 8.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว เช่นเดียวกับตัวชี้วัดเศรษฐกิจอีกหลายตัวที่ออกมาสูงกว่าค่าเฉลี่ยของภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ พร้อมทำสถิติดีที่สุดนับตั้งแต่ปี 2557

          นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของนครฉางชุนยังขยายตัวถึง 8% ในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งเหนือกว่าค่าเฉลี่ยของทั้งประเทศ และนับเป็นสัญญาณที่ดีถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมอย่างคึกคักและการลงทุนที่กำลังจะเกิดขึ้น

          บริษัท ไพร์ม กรุ๊ป อินเตอร์เนชั่นแนล จากสิงคโปร์ ได้ส่งตัวแทน 3 ราย นำทีมโดยซีอีโอ มาศึกษาดูงาน และได้มีการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงเพื่อสร้างเมืองที่เป็นแหล่งรวมอุตสาหกรรมทั้งในขั้นปฐมภูมิ ทุติยภูมิ และตติยภูมิ

          ทั้งนี้ ในระหว่างเดือนมกราคมถึงมิถุนายนปีนี้ นครฉางชุนได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศเป็นมูลค่า 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 14.8% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

          "การลงทุนส่วนใหญ่เป็นการลงทุนในอุตสาหกรรมทุติยภูมิและตติยภูมิ โดยเฉพาะประเภทหลัง" เกา ซาน ผู้อำนวยการสำนักงานพาณิชย์ นครฉางชุน กล่าว

          คุณเกาเปิดเผยว่า คณะผู้แทนจากคิวบาได้นำเสนอด้านพันธุวิศวกรรมและเทคโนโลยีชีวภาพ ขณะที่บริษัทจากเยอรมนีแสดงความสนใจที่จะร่วมมือในด้านพลังงานใหม่ เทคโนโลยีคุ้มครองสิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยีชีวภาพ

          เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รัฐบาลกลางของจีนจึงได้นำนโยบายต่างๆ มาปรับใช้เพื่อดึงดูดและอำนวยความสะดวกให้กับการลงทุนจากต่างประเทศ

          โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา มนตรีแห่งรัฐ หรือคณะรัฐมนตรีจีน ได้ออกประกาศว่า ทางการจีนจะลดข้อจำกัดด้านการลงทุนของต่างชาติ ดำเนินนโยบายสนับสนุนด้านการเงินและภาษี ยกระดับสภาพแวดล้อมการลงทุนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจ และปรับปรุงระเบียบการอนุญาตให้ผู้มีความสามารถเข้ามาทำงานในประเทศ

          "เราคือผู้ที่ได้รับประโยชน์จากมาตรการปฏิรูปเหล่านี้" คุณเกากล่าว นครฉางชุนสามารถหลุดพ้นจากภาวะตกต่ำในอดีตอันเนื่องมาจากโครงสร้างเศรษฐกิจที่พึ่งพาอุตสาหกรรมหนักเพียงอย่างเดียว โดยเมื่อปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมบริการมีส่วนช่วยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจของฉางชุนมากกว่าครึ่งหนึ่ง

          ในระหว่างการประชุมส่งเสริมการลงทุนงานหนึ่งซึ่งจัดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีนี้ คุณหลิว ฉางหลง นายกเทศมนตรีเมืองฉางชุน ได้กล่าวว่าควรมีการออกโครงการใหม่ๆ ที่มีศักยภาพและเอื้อประโยชน์ต่อนักลงทุนต่างประเทศ

          คุณหลิวกล่าวด้วยว่า ควรเน้นให้ความสำคัญกับห่วงโซ่อุตสาหกรรมที่เป็นสามเสาหลัก ซึ่งประกอบด้วย อุตสาหกรรมยานยนต์ รถไฟ และผลิตภัณฑ์การเกษตร

          นับตั้งแต่นั้นมาได้มีโครงการลงทุนขนาดใหญ่จากต่างประเทศเข้ามาลงทุนในฉางชุนเป็นจำนวนมาก โดยโรงงานเอฟเอดับเบิลยู-โฟล์คสวาเกน ออดี้ ซึ่งมีมูลค่าการลงทุนรวม 1.58 หมื่นล้านหยวน มีกำหนดการเริ่มดำเนินการผลิตภายในปี 2561 และโครงการไก่เนื้อของบริษัทเจียไต๋ กรุ๊ป จากประเทศไทย ซึ่งมีมูลค่าการลงทุน 4.9 พันล้านหยวน ก็อยู่ในระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง ซึ่งทั้งสองโครงการจะช่วยยกระดับภาคอุตสาหกรรมของเมืองฉางชุนไปอีกขั้น

          "ฉางชุนได้เร่งดำเนินความร่วมมือกับนักลงทุนต่างชาติ" คุณเกากล่าว "ความคึกคักมีชีวิตชีวาและศักยภาพของเมืองฉางชุนได้สร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนในการขยายการลงทุนในเมืองนี้"

          ที่มา: สำนักงานพาณิชย์ นครฉางชุน

No comments:

Post a Comment