MyToken แพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลชั้นนำของจีน เปิดตัวโทเคนของตัวเอง

          MyToken แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมของจีน ประกาศเปิดตัวโทเคนของตัวเองในชื่อ MT

          MyToken ก่อตั้งขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคม 2560 และได้กลายมาเป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประเทศจีนอย่างรวดเร็ว ทั้งในแง่ของส่วนแบ่งตลาดและจำนวนผู้ใช้งานเป็นประจำ โดยแพลตฟอร์มนี้มีผู้ใช้งานมากกว่า 400,000 ราย ซึ่งรวมถึงผู้ที่ใช้งานเป็นประจำทุกวันกว่า 150,000 ราย ผ่านแอปพลิเคชันบนระบบปฏิบัติการ iOS, Android, Mac และบนเว็บไซต์

          แพลตฟอร์ม MyToken นำเสนอบริการต่างๆ แก่นักลงทุนสกุลเงินดิจิทัลในจีน ดังนี้

          - ข้อมูลทางธุรกรรมของเกือบ 300 คู่สกุลเงินที่มีการแลกเปลี่ยนในตลาด พร้อมทั้งรายละเอียดปริมาณการซื้อขายและข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์ของคู่สกุลเงินหลักกว่า 70 คู่
          - ข้อมูลราคาแบบเรียลไทม์ของสกุลเงินดิจิทัลมากกว่า 2,000 สกุล
          - กราฟแท่งเทียน ปริมาณการซื้อขาย และข้อมูลเชิงลึกของคู่สกุลเงินหลักทั้งหมด
          - รายละเอียดของสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยมเกือบ 1,000 สกุล รวมถึงตลาดรองในการซื้อขายสกุลเงินเหล่านี้ และราคาขายสกุลเงินดิจิทัลต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรก (ICO)
          - ข้อมูลสินทรัพย์ตอบแทนทั้งหมดแบบเรียลไทม์
          - ข่าวประกาศและข้อมูลอัพเดตจากสกุลเงินหลักๆ
          - รายละเอียดและข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์

          คุณแลร์รี กัว ซีอีโอของ MyToken กล่าวว่า "สำหรับนักลงทุนทั้งหลาย การเข้าถึงข้อมูลที่มีคุณภาพถือเป็นกุญแจสำคัญที่จะนำไปสู่ความสำเร็จ และนี่ก็คือความจริงในอุตสาหกรรมเงินดิจิทัลเช่นกัน นักลงทุนจำเป็นต้องแยกแยะข้อมูลที่มีประโยชน์ออกจากข้อมูลที่ไม่มีประโยชน์ให้ได้ MyToken ถูกสร้างขึ้นเพื่อมอบข้อมูล ข่าวสาร และเครื่องมือที่มีประโยชน์ที่สุดให้แก่นักลงทุน เพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ การผสานข้อมูลที่มีค่าและคอนเทนต์ที่สร้างโดยผู้ใช้งาน กับชุมชนนักลงทุนที่มีชีวิตชีวาและบริการที่เป็นประโยชน์ ทำให้เราสามารถช่วยเหลือนักลงทุนในการลดต้นทุนและเงินลงทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด"

          แอปตลาดตัวแรกที่มีโทเคนเป็นของตัวเอง

          MyToken เปิดตัว MT ซึ่งเป็นโทเคนมาตรฐาน ERC20 ที่ใช้เทคโนโลยีอีเธอเรียม ด้วยหวังว่าจะนำทรัพยากรและความเชี่ยวชาญด้านการจัดการสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ เพื่อมอบบริการที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้ใช้แพลตฟอร์มของบริษัท

          คุณกัว กล่าวว่า "MT มีศักยภาพในการใช้งานหลากหลายรูปแบบ และเราหวังว่าจะเข้ามาเพิ่มมูลค่าให้แก่ผู้ใช้แพลตฟอร์มของเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ลงโฆษณาที่สามารถใช้โทเคนนี้ในการชำระค่าโฆษณา หรือแม้แต่ผู้ใช้งานทั่วไปก็ใช้โทเคนนี้จ่ายค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมได้ เรามองว่าวิธีนี้จะช่วยให้ผู้ใช้งานทุกคนทำธุรกรรมบนแพลตฟอร์มของเราได้อย่างราบรื่นที่สุด"

          สมุดปกขาวของ MyToken ระบุว่า มูลค่าตลาดโดยรวมของ MT อยู่ที่ราว 47 ล้านดอลลาร์ (300 ล้านหยวน) และเมื่อโทเคน MT จดทะเบียนในตลาด มูลค่าของโทเคนที่หมุนเวียนในตลาดจะเท่ากับ 17,000 ETH ส่วนโทเคนที่เหลือซึ่งมีมูลค่า 7,000 ETH จะได้รับการปลดล็อคทุกวันตลอดระยะเวลา 6 เดือนข้างหน้า ตามแผนการรักษาเสถียรภาพราคาของ MT ในสภาวะตลาดปัจจุบันที่มีความผันผวน

          แพลตฟอร์ม MyToken มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนปริมาณมากอยู่แล้ว จึงเปิดทางสู่การซื้อขายโทเคน MT ได้ทันที โดยการโฆษณารายเดือนบนแพลตฟอร์มมีมูลค่า 900,000 ดอลลาร์ ถึง 1.8 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกัน บริษัทก็คิดค่าบริการ 4% - 8% ทุกครั้งที่มีการขายสกุลเงินดิจิทัลต่อสาธารณชนเป็นครั้งแรกบนแพลตฟอร์มของบริษัท นอกจากนั้นยังมีโอกาสสูงที่จะมีการนำโทเคน MT ไปใช้ใน DApp ด้วย

          ด้วยเหตุนี้ คุณไอริส จาง หุ้นส่วนของ Spectra Ventures & Advisory ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาของ MyToken จึงมั่นใจว่าโทเคน MT จะก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในตลาดสกุลเงินดิจิทัลระหว่างประเทศอย่างรวดเร็ว

          คุณไอริส กล่าวว่า "MyToken เป็นแอปตลาดตัวแรกที่ออกโทเคนของตัวเอง โดยเริ่มต้นด้วยความได้เปรียบอย่างมาก MyToken เป็นแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ได้รับความนิยมอยู่แล้วในจีน และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญสำหรับนักลงทุนชาวจีน ในขณะที่จีนเป็นประเทศที่มีปริมาณการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลมากที่สุดในโลก การที่ MyToken มีสถานะเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม ทำให้โทเคน MT มีโอกาสขึ้นแท่นเป็นโทเคนยอดนิยมที่ใช้งานอย่างแพร่หลายในทันที"

          คุณไอริสกล่าวเสริมว่า "เราเชื่อว่าอุตสาหกรรมบล็อกเชนจะเติบโตอย่างรวดเร็วในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า และด้วยความเป็นผู้นำในอุตสาหกรรม MyToken จึงสามารถก้าวขึ้นเป็นแพลตฟอร์มที่ทำกำไรสูงได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสิ่งนี้ทำให้โทเคน MT มีความได้เปรียบอย่างมาก ทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากนโยบายซื้อคืนของ MyToken ด้วย และมีความเป็นไปได้สูงว่าในอีกไม่นานนี้เราจะบรรลุเป้าหมายในการซื้อโทเคนคืน เพื่อลดปริมาณโทเคนที่หมุนเวียนในตลาดให้เหลือเพียง 3 พันล้านโทเคน"