เดินเครื่องผลิตแล้ว 6 หน่วย คิดเป็นกำลังผลิตรวมได้กว่า 86% จากทั้งหมดของโครงการ LCCP
Sasol ประกาศในวันนี้ว่า หน่วยผลิตแอลกอฮอล์ Guerbet ในโครงการ Lake Charles Chemicals Project (LCCP) ของเรา ได้เริ่มเดินเครื่องผลิตแล้วเมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2020 ที่ผ่านมา หลังจากที่หน่วยผลิตแอลกอฮอล์ Ziegler เริ่มการผลิตไปเมื่อ 3 วันก่อน ส่งผลให้กำลังการผลิตของหน่วยผลิตเคมีภัณฑ์ชนิดพิเศษของ LCCP เพิ่มขึ้นเป็น 100% และกำลังการผลิตรวมของ LCCP เพิ่มขึ้นเป็น 86%
“การเดินเครื่องผลิตของหน่วยผลิตเหล่านี้ในโครงการ LCCP ทำให้โครงการขนาดยักษ์ระดับ 7 หน่วยผลิตในบริเวณกัลฟ์โคสต์ของสหรัฐโครงการนี้ มีความก้าวหน้าจนใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว” ฟลีตวู้ด กร๊อบเลอร์ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Sasol กล่าว “กำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นทำให้ตำแหน่งผู้นำของ Sasol ในตลาดแอลกอฮอล์ชนิดพิเศษและอะลูมินาแข็งแกร่งขึ้น ซึ่งเป็นส่วนสำคัญสำหรับแผนกลยุทธ์ในการขยายธุรกิจเคมีภัณฑ์ของบริษัท”
แบรด กริฟฟิธ รองประธานฝ่ายบริหารประจำธุรกิจเคมีภัณฑ์ของ Sasol กล่าวว่า “การลงทุนของเราใน Lake Charles ซึ่งรวมถึงกำลังการผลิต ethoxylation เพิ่มเติมที่เริ่มขึ้นในเดือนมกราคม 2020 ประกอบกับการเริ่มหน่วยผลิต ethoxylation แห่งใหม่ของเราในหนานจิง ประเทศจีน ในปี 2019 ตอกย้ำฐานสินทรัพย์ที่มีอยู่เดิมของเราให้แข็งแกร่งขึ้น”
คุณกริฟฟิธ กล่าวว่า “ด้วยการขยายธุรกิจไปทั่วโลกครั้งนี้ เราจะยังคงปรับธุรกิจของเราให้สอดคล้องกับเทรนด์ใหญ่ระดับโลกที่ทรงอิทธิพล เพื่อหาโอกาสในการขยายธุรกิจที่มีมูลค่าสูงที่เราสามารถสนับสนุนได้ด้วยเคมีสูตรเฉพาะของเรา เทรนด์ใหญ่ระดับโลกดังกล่าวนี้จะสนับสนุนแผนกลยุทธ์ของเราในการจัดหาโซลูชันต่าง ๆ ให้แก่กลุ่มชนชั้นกลางที่กำลังขยายตัวและอาศัยอยู่ในเมือง โดยเน้นในเรื่องสุขภาพ สุขอนามัย และความยั่งยืน และด้วยการสร้างนวัตกรรมแบบร่วมมือกับลูกค้าของเรา เราจึงมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาทางออกที่มีความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนที่กำลังพัฒนาอยู่”
แอลกอฮอล์ที่ผลิตได้จากหน่วย Ziegler และ Guerbet ช่วยขยายตำแหน่งของ Sasol ในการมีผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์และสารลดแรงตึงผิวที่ครบวงจรมากที่สุดในโลก ทั้งนี้ Sasol เป็นผู้นำที่เป็นที่ยอมรับในด้านเคมีภัณฑ์สำหรับตลาดผลิตภัณฑ์การดูแลที่จำเป็น อาทิ การซักรีด การดูแลรักษาบ้าน การดูแลส่วนบุคคล และสุขอนามัย
Sasol ยังมีความพร้อมมากที่จะจำหน่ายเคมีภัณฑ์ที่อิงตามประสิทธิภาพชนิดพิเศษ และสารละลายที่ผลิตตามสั่งให้แก่ลูกค้าที่จะนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ อาทิ เคมีเกษตร สารกัดกร่อน งานโลหะและการหล่อลื่น น้ำมันและก๊าซ ยานยนต์ รวมทั้งสีและสารเคลือบผิว
หน่วย Ziegler ในโครงการ LCCP เป็นการขยายโรงงาน Ziegler เดิมใน Lake Charles และมีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตแอลกอฮอล์ 173,000 ตันต่อปี (173 ktpa) และกำลังการผลิตอะลูมินา 32,000 ตัน (32 ktpa) การขยายครั้งนี้เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับต้นทุนต่อหน่วยที่สำคัญของ Sasol โดยใช้ประสบการณ์ทางเทคนิคและการดำเนินงานที่ช่ำชองของบริษัท
หน่วย Ziegler ช่วยเสริมการผลิตแอลกอฮอล์และอะลูมินาทั่วโลกของ Sasol ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตเดิมของหน่วยผลิต Ziegler ที่อยู่ทั้งใน Lake Charles และ Brunsbuettel เยอรมนี หน่วยผลิตแห่งนี้เป็นหน่วยที่มีความซับซ้อนทางเทคนิคมากที่สุดใน LCCP และใช้เทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Sasol และเนื่องจากได้รับประโยชน์จากเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดและประสบการณ์ที่สั่งสมมาหลายปีกับกระบวนการที่มีเอกลักษณ์นี้ หน่วย Ziegler จึงเริ่มต้นด้วยความราบรื่นโดยใช้แนวทางของตลาดผ่านความพยายามที่มีมาตรฐานสูงมากของโครงการรวมถึงทีมปฏิบัติการของเรา
กำลังการผลิตอะลูมินาที่เพิ่มขึ้นจากหน่วย Ziegler จะทำให้ Sasol สามารถตอบสนองความต้องการในตลาดมากขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์อะลูมินาที่มีความบริสุทธิ์สูงและผลิตตามสั่ง ซึ่งนำไปใช้งานได้หลากหลาย เช่น ตัวเร่งปฏิกริยา ฟิล์ม เซรามิกส์ และสารกัดกร่อน โดยการขยายครั้งนี้จะสนับสนุนความต้องการในการขยายธุรกิจของลูกค้าที่ต้องการผลิตภัณฑ์อะลูมินาที่ใช้สาร alkoxide ที่เป็นเอกลักษณ์ของ Sasol
หน่วย Guerbet แห่งใหม่ของ Sasol ในพื้นที่กัลฟ์โคสต์ของสหรัฐนั้น เป็นโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ Guerbet แห่งที่สองของบริษัท ส่วนอีกแห่งตั้งอยู่ที่ Brunsbuettel โดยหน่วยผลิตที่ Lake Charles นับเป็นโรงงานผลิตแอลกอฮอล์ Guerbet ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และมีกำลังการผลิตที่ 30,000 ตันต่อปี (30 ktpa)
หน่วย Guerbet มีการขยายเทคโนโลยีที่เป็นกรรมสิทธิ์ของ Sasol ที่ใช้ใน Brunsbuettel ขึ้น 2 เท่า ดังนั้น โครงการดังกล่าวและทีมปฏิบัติการจากทั้ง Lake Charles และ Brunsbuettel ต่างก็ทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม เพื่อทำให้หน่วยผลิต Guerbet เดินเครื่องผลิตได้โดยไร้ปัญหา โรงงานผลิตแอลกอฮอล์ Guerbet ของ Sasol ในยุโรปและอเมริกาเหนือจึงมีตำแหน่งทางการตลาดที่เหนือชั้น และทำให้ลูกค้าของเรามีช่องทางเพิ่มขึ้นในการเข้าถึงระบบซัพพลายเชนระดับโลกที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืนมากขึ้น
สำหรับหน่วยผลิตสุดท้ายที่เตรียมจะเปิดเครื่องผลิตในโครงการ LCCP ก็คือโรงงานผลิตโพลีเอทิลีนที่มีความหนาแน่นต่ำ (LDPE) โดยจะเริ่มเดินเครื่องผลิตภายในสิ้นเดือนกันยายน 2020 ตามที่แจ้งไปก่อนหน้านี้ และ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา งบการใช้จ่ายด้านทุนของโครงการ LCCP มีมูลค่า 1.28 หมื่นล้านดอลลาร์ตามประกาศที่แจ้งไปก่อนหน้านี้
จนถึงปัจจุบัน โครงการ LCCP สร้างงานในฝ่ายผลิตที่มีคุณภาพแบบทำงานเต็มเวลากว่า 800 ตำแหน่งแล้ว โดยที่มีคนงานอยู่ที่โรงงานระหว่างการก่อสร้างมากถึง 6,500 คน และมีการใช้งบเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์ในการก่อสร้างให้กับธุรกิจต่าง ๆ ในหลุยเซียนา และจ่ายภาษีท้องถิ่นและภาษีรัฐไปเกือบ 200 ล้านดอลลาร์แล้ว
เกี่ยวกับ Sasol:
Sasol เป็นบริษัทพลังงานและเคมีภัณฑ์แบบบูรณาการระดับโลก เราสร้างคุณค่าที่เหนือกว่าให้แก่ลูกค้า ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียอย่างปลอดภัยและยั่งยืน ผ่านทางพนักงานที่มีความเชี่ยวชาญของเรา เราได้นำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในโรงงานระดับโลก เพื่อผลิตและจำหน่ายสินค้าโภคภัณฑ์และเคมีภัณฑ์พิเศษ เชื้อเพลิงเหลวและก๊าซ ตลอดจนไฟฟ้าคาร์บอนต่ำ
เผยแพร่โดย:
ในแอฟริกาใต้:
Alex Anderson, Senior Manager: Group External Communication
โทร: +27 (0) 10-344-6509; มือถือ: +27 (0) 71-600-9605;
อีเมล: alex.anderson@sasol.com
ในสหรัฐ:
Kim Cusimano, North American Operations Corporate Affairs
โทร: +1 (225) 776-0758
อีเมล: kim.cusimano@us.sasol.com
No comments:
Post a Comment