Friday, June 26, 2020

Shanghai Electric ประสบความสำเร็จในการติดตั้ง MSR บนยอดหอคอยสูงที่สุดในโลกด้วยระยะเวลาที่เป็นสถิติใหม่

Shanghai Electric (SHA:601727) ประกาศว่า บริษัทได้เสร็จสิ้นการติดตั้งตัวกักเก็บพลังงานความร้อนด้วยเกลือหลอมเหลว (MSR) บนยอดหอคอยในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบรวมแสงขนาด 700MW และโครงการผลิตไฟฟ้าแบบผสมผสานขนาด 250MW เฟสที่ 4 ของการไฟฟ้าและการประปาแห่งดูไบ (DEWA) โดยบริษัทสามารถบรรลุภารกิจการก่อสร้างหอคอยที่สูงที่สุดในโลกเสร็จสมบูรณ์อย่างปลอดภัยภายในระยะเวลาที่เป็นสถิติใหม่เพียง 240 วัน แม้จะต้องใช้ความระมัดระวังเป็นอย่างมากเนื่องจากเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ปัจจุบันโครงการดังกล่าวนับเป็นโครงการโรงไฟฟ้าโฟโต้เทอร์มัล (photothermal) และเซลล์แสงอาทิตย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งกินพื้นที่ 44 ตารางกิโลเมตร

“นี่เป็นโครงการที่ท้าทายมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภารกิจที่สำคัญเป็นพิเศษซึ่งเกี่ยวข้องกับการรักษาสุขภาพและความปลอดภัยของผู้คน” Abdulhameed Al Muhaidib กรรมการผู้จัดการโครงการ NE1 กล่าว “โครงการใหญ่ขนาดนี้ ต้องอาศัยแรงงานจากทั่วโลกมารวมตัวกันมากกว่า 4,000 คน แม้ว่าเราจะเป็นทีมที่มีความหลากหลายเป็นอย่างมาก แต่เราก็ทำงานกันอย่างหนักเพื่อเป้าหมายเดียวกัน”



Shanghai Electric ซึ่งเป็นผู้รับเหมาด้านวิศวกรรม การจัดซื้อ และการก่อสร้าง (EPC) ของ Noor Energy 1 (เจ้าของโครงการ) ได้ทำหน้าที่ในการจัดหาอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (PPE) ให้กับแรงงานทุกคน และมีการดำเนินการเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัส ผ่านมาตรการความปลอดภัยต่าง ๆ เพื่อให้แรงงาน กำหนดเวลา และงบประมาณ ได้รับผลกระทบน้อยที่สุด

MSR ซึ่งมีความสูงประมาณ 40 เมตร ได้ถูกนำไปติดตั้งอยู่บนยอดหอคอยกักเก็บความร้อนซึ่งสูงประมาณ 222 เมตร ส่งผลให้หอคอยแห่งนี้มีความสูงทั้งหมดราว 262 เมตร จึงนับเป็นสถานีพลังงานแสงอาทิตย์ที่สูงที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ โดยโครงการดังกล่าวได้ใช้ “ที่ดินหนึ่งส่วนสำหรับเป็นที่ตั้งของหอคอยกักเก็บแสงอาทิตย์ และอีกสามส่วนถูกใช้สำหรับเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าแบบรางพาราโบลิก (Parabolic Troughs) ของระบบรวมแสงอาทิตย์ ขณะที่ส่วนที่เหลือนั้นเป็นที่สำหรับติดตั้งเซลล์แสงอาทิตย์” ซึ่งเมื่อรวมกันทั้งระบบแล้วทำให้สามารถผลิตพลังงานได้มากถึง 950MW โดยเมื่อโครงการแล้วเสร็จ จะให้พลังงานสะอาดแก่ 320,000 หลังคาเรือน และลดการปล่อยคาร์บอนได้ 1.6 ล้านตันต่อปี นอกจากนี้ โครงการนี้ยังถือเป็นส่วนสำคัญของกลยุทธ์พลังงาน 2050 ของดูไบ ซึ่งมีเป้าที่จะรองรับการใช้พลังงานให้ได้ 7% ภายในปี 2020 ปัจจุบันโครงการนี้นับได้ว่ามีความคืบหน้าเร็วกว่ากำหนดการ โดยสามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานทดแทนอื่น ๆ มารองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าปริมาณ 11,700MW ในภูมิภาคได้แล้ว 9%

โรงไฟฟ้าแห่งนี้ใช้หลักการ “แสง--ความร้อน--ไฟฟ้า” ในการผลิตพลังงาน โดยใช้เกลือหลอมเหลวเป็นตัวดูดซับความร้อนจากพลังงานแสงอาทิตย์ที่สะท้อนจากเฮลิโอสแตต (heliostat) ผ่านท่อตัวรับกว่า 1,000 ท่อ เพื่อมาหมุนเวียนอยู่ใน MSR ผลที่ได้ก็คือความร้อนสะสมจากเกลือหลอมเหลวจะถูกส่งผ่านเข้าสู่ระบบผลิตไอน้ำเพื่อให้เกิดเป็นไอน้ำที่มีแรงดันและอุณหภูมิสูงซึ่งจะมาขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าแบบกังหัน

การติดตั้ง MSR นี้ใช้เกลียวเหล็กไฮดรอลิกที่ถูกยกขึ้นในแนวดิ่งและกระจายเป็นชุดควบคุมเพื่อให้สามารถควบคุมการยกได้อย่างแม่นยำในจุดยกแต่ละจุด โดยมีการตรวจสอบและทดสอบอุปกรณ์ที่ใช้ในการปฏิบัติงานอย่างละเอียดก่อนทำการยก ซึ่งเป็นกระบวนการที่ต้องใช้เทคโนโลยีความปลอดภัยที่ครอบคลุมทั้งหน้าจอวัดระดับภายใน อุปกรณ์ป้องกันการชนด้านล่าง และอุปกรณ์ตรวจสอบรอบตัว เพื่อให้แน่ใจถึงความปลอดภัยในทุกขั้นตอน Liu Minghua รองผู้จัดการทั่วไปของ Shanghai Electric Power Generation Engineering Co.,Ltd กล่าว “ความสำเร็จของการติดตั้ง MSR ในครั้งนี้ทำให้ Shanghai Electric ได้รับประสบการณ์ที่มีค่าและมีรากฐานที่แข็งแกร่งในด้านการผลิตไฟฟ้าด้วยระบบรวมแสงอาทิตย์”

www.shanghai-electric.com

No comments:

Post a Comment