LIU Xin ชวนทูตประจำประเทศจีน 3 ท่าน ร่วมพูดคุยในประเด็นซินเจียง
ในสายตาของนักการเมืองและสื่อมวลชนตะวันตกบางคนที่ไม่เคยไปซินเจียงมาก่อน อาจมองว่าดินแดนดังกล่าวมีลักษณะคล้ายกับสถานที่ "ชั่วร้าย" ที่ซึ่งชนกลุ่มน้อยกำลังทุกข์ทรมานจาก "การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์" "การบังคับใช้แรงงาน" และอาชญากรรมต่อมนุษยชาติที่ร้ายแรงอื่น ๆ
แต่เมื่อคณะผู้แทนจากต่างประเทศเดินทางไปซินเจียงมากขึ้นเพื่อดูด้วยตาตัวเอง ก็จะมีเรื่องเล่าที่แตกต่างออกไป โดยข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศของจีนระบุว่า ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีทูต นักข่าว และบุคลากรทางศาสนารวมกว่า 1,200 คน จากกว่า 100 ประเทศที่เดินทางมาเยือนซินเจียง พวกเขาเห็นดินแดนนี้ด้วยตาตนเอง และตระหนักว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นแตกต่างจากที่สื่อตะวันตกรายงานอย่างสิ้นเชิง
เพื่อให้ความกระจ่างถึงข้อถกเถียงที่มีอยู่เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในซินเจียง Liu Xin ผู้ประกาศข่าวช่อง CGTN ได้เชิญ Moin ul Haque เอกอัครราชทูตปากีสถานประจำประเทศจีน, Fariz Mehdawi เอกอัครราชทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศจีน และ Imad Moustapha เอกอัครราชทูตซีเรียประจำประเทศจีน มาอภิปรายโต๊ะกลมเป็นเวลา 30 นาที ซึ่งทูตทั้งสามได้แชร์ประสบการณ์ตรงในซินเจียง และพยายามจะเผยเจตนาของชาติตะวันตกบางประเทศในการฉายภาพซินเจียง
การอภิปรายจัดขึ้นในโรงละครงิ้วจีน ใจกลางกรุงปักกิ่ง โดย Liu Xin เพิ่งเสร็จสิ้นทริปเยือนซินเจียงเป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเธอได้สัมภาษณ์เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น นักวิชาการ เกษตรกร และชาวบ้านหลายคน
ซินเจียงในสายตาทูต
Moin ul Haque ทูตปากีสถานประจำประเทศจีนเดินทางไปซินเจียงเมื่อเดือนมีนาคม เขาพูดถึงทริปนี้ว่าเป็น "ประสบการณ์ของชีวิต" หลังเยี่ยมชมหลายสถานที่ ซึ่งรวมถึงเยี่ยมครอบครัวในพื้นที่ ชมโครงการพัฒนาหลายโครงการ และเที่ยวชมมัสยิด เขาสนใจความหลากหลายทางวัฒนธรรมและศาสนา และความปรองดองในดินแดนแห่งนี้ ซึ่งในกรณีการ "บังคับทำหมัน" กับชนกลุ่มน้อย ตามที่ "นักวิจัย" ชาวตะวันตกบางคนกล่าวอ้างนั้น ท่านทูตบอกว่า "ซินเจียงเป็นภาพโมเสคของชนกลุ่มน้อยกว่า 50 ชาติพันธุ์ และชนกลุ่มน้อยเหล่านี้อยู่ในซินเจียงอย่างสงบสุขและกลมเกลียว"
Fariz Mehdawi ทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศจีน มีความประทับใจในศาสนสถานหลายแห่ง เขาเยือนซินเจียงในปี 2020 และสังเกตเห็นว่ามีมัสยิดตั้งอยู่ตรงทางแยกทุกแห่งที่เขามอง และมีมัสยิด 5 แห่งในละแวกเดียวกัน นอกจากนี้ยังมีสถาบันสอนศาสนาโดยเฉพาะอีกด้วย
บางคนโต้แย้งว่าทัวร์ของคณะทูตเหล่านี้ล้วนถูกจัดฉากและไม่ได้สะท้อนสถานการณ์จริง แต่ทูต Fariz คิดว่าความเห็นเหล่านี้ไม่ให้ความเคารพนับถือกันเลย "คุณไม่ควรเชื่อว่านักการทูตนั้นไร้เดียงสามากเสียจนพวกเขาถูกชักจูงให้ซื้ออะไรก็ได้" เขาโต้แย้ง พร้อมกล่าวเสริมว่า "นักการทูตไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของการสมรู้ร่วมคิด เพื่อที่ว่าพวกเขาจะให้ความชอบธรรมกับอะไรบางอย่างที่ขัดกับสิ่งที่พวกเขาเห็น"
ความสำเร็จในการต่อต้านการก่อการร้ายในซินเจียง
ในอดีตซินเจียงทนทุกข์จาก "สามกองกำลังชั่วร้าย" ซึ่งก็คือการแบ่งแยกดินแดน ลัทธิหัวรุนแรง และการก่อการร้าย แต่จากความพยายามของจีน จึงไม่เกิดกรณีก่อการร้ายในซินเจียงมาเป็นเวลา 4 ปีติดต่อกัน
ท่านทูตเผยว่า เหตุผลเบื้องหลังก็คือ ทางการจีนได้ทำในสิ่งที่ถูกต้อง 2 สิ่ง ข้อแรกคือกำจัดกลุ่มก่อการร้ายหัวรุนแรงด้วยกำลัง และข้อต่อมาคือให้ความสำคัญกับคนและพัฒนาสังคม
Imad Moustapha ทูตซีเรียประจำประเทศจีนบอกกับ Liu Xin ว่า จีนกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง จีนมุ่งไปที่ปัญหาแกนกลาง ซึ่งก็คือวิธีพัฒนาสังคมและปกป้องประชาชนในซินเจียงจากการตกเป็นเหยื่อของการโฆษณาชวนเชื่อของลัทธิสุดโต่ง
ทำไมซินเจียงจึงกลายเป็นประเด็นถกเถียงเช่นนี้
มีความแตกต่างชัดเจนระหว่างประสบการณ์ที่นักการทูตเหล่านี้สัมผัสด้วยตนเองกับเรื่องเล่าของโลกตะวันตก เพราะอะไร
Fariz Mehdawi ทูตปาเลสไตน์ประจำประเทศจีน อธิบายว่า ประเด็นไม่ได้อยู่ที่เรื่องสิทธิมนุษยชน แต่เป็นเรื่องความท้าทายทางภูมิรัฐศาสตร์
Imad Moustapha ทูตซีเรียประจำประเทศจีน กล่าวว่า "มาดูที่ประเด็นกัน ประเด็นเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับซินเจียงเลย แต่เป็นแคมเปญของสื่อในโลกตะวันตกที่ต่อต้านจีน สร้างภาพจีนให้เป็นปีศาจ จีนนั้นเลวร้าย และอะไรก็ตามที่จีนทำนั้นแย่ไปหมด"
ทูตทั้งสามแสดงความหวังว่าจีนจะอยู่บนเส้นทางนี้ต่อไป เดินบนเส้นทางการพัฒนา เดินหน้าเปิดกว้างและปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงใช้กลยุทธ์ที่เน้นคนเป็นศูนย์กลาง พวกเขาเห็นพ้องว่าซินเจียงคือดินแดนเก่าแก่ที่สวยงามของผู้คนที่หลากหลายซึ่งต่างก็มีความหวังและแรงบันดาลใจ
อย่างไรก็ตาม มุมมองของทูตไม่ได้สะท้อนมุมมองของทุกประเทศ โดยนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 รัฐบาลแคนาดา เนเธอร์แลนด์ และสหราชอาณาจักร ได้ผ่านญัตติที่ไม่ผูกมัดโดยประกาศว่าจีนฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในซินเจียง ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐ ระบุการกระทำของจีนในซินเจียงว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ในรายงาน Country Reports on Human Rights Practices ฉบับปี 2020 ที่เผยแพร่เมื่อเดือนมีนาคม ซึ่งจีนปฏิเสธข้อกล่าวหาที่ว่ามานี้
ลิงก์: https://news.cgtn.com/news/2021-04-27/What-do-three-ambassadors-talk-about-Xinjiang-with-Liu-Xin--ZMA1UeE2T6/index.html
No comments:
Post a Comment