การแข่งขัน "Football for Friendship eWorld Championship" เตรียมจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 เดือนพฤษภาคมนี้

 การแข่งขัน "Football for Friendship eWorld Championship" (eF4F) จะจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงสิ้นเดือนพฤษภาคมนี้ โดยครั้งนี้จะมีตัวแทนจากกว่า 200 ประเทศเข้าร่วมการแข่งขัน

ในปีนี้ กิจกรรมสำคัญภายใต้โครงการฟุตบอลเยาวชนนานาชาติ Football for Friendship (F4F) ของบริษัท Gazprom จะยังคงจัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์เนื่องด้วยสถานการณ์โรคระบาด โดยการแข่งขัน "Football for Friendship eWorld Championship" (eF4F) จะจัดขึ้นผ่านเกม "Football for Friendship World" (F4F World) ซึ่งพัฒนาขึ้นเพื่อโครงการ F4F โดยเฉพาะ โดยแต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่น 6 คน และแต่ละเกมแบ่งเป็นครึ่งแรกและครึ่งหลังช่วงละ 3.5 นาที

นับตั้งแต่วันที่ 19 เมษายนที่ผ่านมา ทางโครงการได้เชิญชวนให้สถาบันฟุตบอลจากทั่วโลกส่งรายชื่อเด็กชายและเด็กหญิงอายุ 12-14 ปี เพื่อเข้าร่วมการแข่งขัน "Football for Friendship eWorld Championship" (eF4F) ระหว่างวันที่ 27-29 พฤษภาคมนี้

ในปี 2020 ผู้ชนะการแข่งขัน "Football for Friendship eWorld Championship" คือทีม "Granular Salamander" ซึ่งประกอบด้วยนักเตะเยาวชนจากบอสเนียและเฮอร์เซโกวีนา คาซัคสถาน ลัตเวีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ รัสเซีย และตุรกี นอกจากนี้ ในกิจกรรมปิดท้ายโครงการ "Football for Friendship" ฤดูกาลที่ 8 ยังมีการสร้างสถิติกินเนส เวิลด์ เรคคอร์ด ผู้เข้าร่วมกิจกรรมเกี่ยวกับฟุตบอลผ่านวิดีโอมากที่สุดในโลก

นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 เกม "F4F World" ได้เปิดให้ทุกคนดาวน์โหลดฟรีใน 27 ภาษา แม้ไม่ได้เข้าร่วมการแข่งขัน eF4F ก็ตาม โดยตัวเกมเน้นส่งเสริมค่านิยม 9 ประการ ได้แก่ มิตรภาพ ความเสมอภาค ความยุติธรรม สุขภาพ สันติภาพ ความทุ่มเท ชัยชนะ ประเพณี และเกียรติยศ เกม "F4F World" พัฒนาโดยบริษัท DataArt และเล่นได้บน MS Windows, Apple MacOS และ iOS

Andrey Trusov จาก DataArt กล่าวว่า "ผมรู้สึกยินดีและได้รับแรงบันดาลใจจากการมีส่วนร่วมในการพัฒนาโครงการ F4F สำหรับผมแล้ว นี่คือประสบการณ์ใหม่ที่ได้เห็นการแข่งขันในลักษณะนี้สำหรับเด็ก ๆ อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมค่านิยมอย่างมิตรภาพ ความยุติธรรม และสันติภาพด้วย"

เกี่ยวกับ F4F

โครงการ F4F ริ่เริ่มขึ้นในปี 2013 โดยบริษัท Gazprom และได้รับการสนับสนุนจาก UEFA, FIFA และ UN ในการแข่งขัน 8 ฤดูกาลที่ผ่านมา มีเด็กและเยาวชนราว 15,000 คน จาก 211 ประเทศและดินแดนเข้าร่วมโครงการ ทั้งนี้ ในปี 2020 โครงการ F4F จัดขึ้นในรูปแบบออนไลน์บนแพลตฟอร์มที่พัฒนาขึ้นโดยเฉพาะ