เนื่องในงานฉลองรามคามสถูป (Ramagrama Stupa) ครั้งยิ่งใหญ่ในประวัติศาสตร์ นายพุชปา คามัล ดาฮาล (Pushpa Kamal Dahal) นายกรัฐมนตรีเนปาล พร้อมด้วยคณะบุคคลสำคัญและแขกบ้านแขกเมือง ได้ประกาศโครงการความร่วมมือว่าด้วยการอนุรักษ์และปฏิสังขรณ์รามคามสถูป ซึ่งเป็นมรดกทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีความสำคัญมากที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
"วันนี้ถือเป็นก้าวสำคัญที่เราได้มาร่วมกันดำเนินการตามพันธกิจระดับชาติในการอนุรักษ์รามคามสถูปอันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งเป็นโบราณสถานที่มีอายุเก่าแก่ถึง 2,600 ปี" นายกรัฐมนตรีเนปาลกล่าว "โครงการนี้ได้รับการยกย่องว่าเป็นสัญลักษณ์ของความพยายามร่วมกันในการปกป้อง อนุรักษ์ พัฒนา และบริหารจัดการหนึ่งในแหล่งมรดกที่สำคัญที่สุดของประเทศ"
รามคามสถูปอยู่ในบัญชีรายชื่อเบื้องต้นเพื่อพิจารณาเป็นแหล่งมรดกโลกโดยยูเนสโกมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2540 ในฐานะที่เป็นสถูปเพียงแห่งเดียวที่ยังคงสภาพสมบูรณ์และเป็นที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ โดยมีอายุเก่าแก่ย้อนกลับไปถึง 600 ปีก่อนคริสตศักราช
ผู้ออกแบบแผนแม่บทที่เปี่ยมด้วยวิสัยทัศน์คือสถาปนิกคนดัง สเตฟาโน โบเอรี (Stefano Boeri) ผู้รังสรรค์ผลงานที่มีชื่อเสียงอย่างป่าแนวตั้ง (Vertical Forest) ในมิลาน ที่ได้รับรางวัลมาแล้ว อีกทั้งยังมีผลงานโดดเด่นในการผสานรวมสภาพแวดล้อมทางวัฒนธรรมและธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างกลมกลืน
แผนแม่บทของคุณโบเอรีซึ่งเปิดเผยในงานนี้ ประกอบด้วยพื้นที่บริเวณรอบต้นโพธิ์ ซึ่งเป็นสนามหญ้าในลักษณะวงกลมศักดิ์สิทธิ์มันดาลา (Mandala) ขนาดใหญ่ เส้นผ่านศูนย์กลาง 600 เมตร ล้อมรอบด้วยสวนซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องสวดมนต์ ศูนย์ศิลปะและวัฒนธรรม พื้นที่นั่งสมาธิ และพิพิธภัณฑ์ รวมพื้นที่ 175,000 ตารางเมตร ให้ผู้มาเยือนได้เรียนรู้ความสำคัญของรามคามสถูป รวมถึงโบราณวัตถุที่ขุดค้นพบในพื้นที่
"โครงการนี้ถือเป็นความท้าทายอย่างยิ่งสำหรับเรา เพราะเป็นการสร้างศูนย์กลางการสวดมนต์ ทำสมาธิ และทำความสงบ ณ สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดแห่งหนึ่งในพระพุทธศาสนา" คุณโบเอรีกล่าว
โครงการปฏิสังขรณ์รามคามสถูปยึดหลักการออกแบบที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม วิสัยทัศน์ของคุณโบเอรีผสมผสานโครงการเข้ากับธรรมชาติโดยรอบอย่างกลมกลืน โดยเน้นพื้นที่สีเขียวและแนวปฏิบัติด้านการก่อสร้างที่ยั่งยืน ความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมสร้างความมั่นใจว่าโครงการนี้จะเป็นต้นแบบการพัฒนาวัฒนธรรมอย่างมีความรับผิดชอบ
"เรามารวมตัวกันที่รามคามสถูปไม่ใช่เพื่อการเฉลิมฉลองเท่านั้น แต่ยังเป็นการเริ่มต้นการเดินทางไปสู่ความสมานฉันท์ทั่วโลกอีกด้วย" Nikesh Adhikari ประธาน The Promised Land กล่าว
โครงการปฏิสังขรณ์รามคามสถูปเป็นความร่วมมือระหว่างรัฐบาลเนปาล กองทุนพัฒนาลุมพินี และ The Promised Land โดยได้รับการสนับสนุนจาก Moksha Foundation เพื่อปกป้องโบราณสถานและขับเคลื่อนเนปาลไปสู่อนาคตที่การอนุรักษ์วัฒนธรรมอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืนกับการพัฒนาที่ยั่งยืน
แผนแม่บทรามคาม: https://www.moksha.foundation/ramagrama-masterplan
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2302936/Stefano_Boeri_Architetti_Ramagrama_Stupa_view.jpg
No comments:
Post a Comment