Friday, June 2, 2017

เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ซื้อกิจการ วัลสปาร์ ขึ้นแท่นผู้นำโลกด้านสีและสารเคลือบผิว

          บริษัท เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ (Sherwin-Williams Company) (NYSE: SHW) ประกาศในวันนี้ว่า บริษัทได้เสร็จสิ้นการเข้าซื้อกิจการของบริษัท เดอร์ วัลสปาร์ (The Valspar Corporation) (NYSE: VAL) ซึ่งภายใต้เงื่อนไขของข้อตกลงควบรวมกิจการนั้น ผู้ถือหุ้นของ วัลสปาร์ จะได้รับเงินสด 113 ดอลลาร์/หุ้น และเมื่อการซื้อกิจการครั้งนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ หุ้นสามัญของ วัลสปาร์ จะยุติการซื้อขายก่อนเปิดตลาดวันนี้ และจะถูกเพิกถอนออกจากตลาดหุ้นนิวยอร์ก



          จอห์น จี มอริคิส ประธานกรรมการ ประธาน และประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ กล่าวว่า "เรามีความยินดีที่ข้อตกลงซื้อกิจการนี้เสร็จสิ้นสมบูรณ์ และผมขอต้อนรับเพื่อนใหม่จาก วัลสปาร์ อย่างเป็นทางการ ผู้มาพร้อมกับความสามารถมากมายที่จะมาช่วยขับเคลื่อน เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ การซื้อกิจการของ วัลสปาร์ ถือเป็นการเร่งผลักดันกลยุทธ์การเติบโตในระดับโลกของ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ทั้งยังเป็นการสร้างผู้นำระดับโลกในอุตสาหกรรมสีและสารเคลือบผิวอีกด้วย การควบรวมบริษัททั้งสองนี้ก่อให้เกิดแบรนด์ระดับเวิลด์คลาส ต่อยอดรายการผลิตภัณฑ์ ยกระดับเทคโนโลยีและนวัตกรรมเหนือชั้น พร้อมส่งเสริมการทำธุรกิจอย่างกว้างขวางบนเวทีโลก โดยศักยภาพที่เพิ่มขึ้นมาเหล่านี้จะมอบผลประโยชน์ให้กับลูกค้า และช่วยสร้างคุณประโยชน์ระยะยาวอย่างยั่งยืนให้กับผู้ถือหุ้นของเรา"

          บริษัทที่ควบรวมกันนี้มีสำนักงานใหญ่อยู่ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ โดยเมื่อปี 2559 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมกัน 1.58 หมื่นล้านดอลลาร์ และมีการจ้างงานประมาณ 60,000 ตำแหน่งทั่วโลก ธุรกิจหลักของบริษัทอยู่ในอุตสาหกรรมสีเพื่องานสถาปัตยกรรมในอเมริกาเหนือ อเมริกาใต้ จีน ออสเตรเลีย และสหราชอาณาจักร สำหรับอุตสาหกรรมสารเคลือบเกรดอุตสาหกรรมนั้น บริษัทที่ควบรวมใหม่นี้เป็นผู้นำระดับโลกด้านสารเคลือบสำหรับบรรจุภัณฑ์ สารเคลือบคอยล์ สารเคลือบงานอุตสาหกรรมทั่วไป และสารเคลือบไม้เกรดอุตสาหกรรม

          เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ได้ยื่นรายงาน Current Report บน Form 8-K ซึ่งประกอบด้วยงบการเงินล่วงหน้า (pro forma) ประจำปี 2559 ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบบัญชี ซึ่งสะท้อนข้อมูลการซื้อกิจการของ วัลสปาร์

          ตามที่ได้มีการแจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ คาดการณ์ว่าการควบรวมกิจการจะสร้างผลประโยชน์คิดเป็นมูลค่า 320 ล้านดอลลาร์ต่อปี ภายใน 3 ปี เมื่อคำนวณตาม run-rate โดยครอบคลุมขอบข่ายของการจัดซื้อ ค่าใช้จ่ายจากการขายและการบริหาร (SG&A) และกระบวนการ รวมถึงการลดต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ ทางบริษัทยังคาดการณ์ว่าการซื้อกิจการครั้งนี้จะส่งเสริมให้รายได้เพิ่มสูงขึ้นทันที (ไม่นับรวมต้นทุนแบบครั้งเดียว) ทั้งยังคาดว่าจะช่วยเพิ่มกระแสเงินสดในการดำเนินงานของทางบริษ้ทอย่างมีนัยสำคัญ

          เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ จะประกาศผลประกอบการทางการเงินประจำไตรมาสสอง สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 ในวันพฤหัสบดีที่ 20 กรกฎาคม 2560 ในขณะเดียวกัน เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ จะเปิดเผยรายงานแนวโน้มของบริษัทที่ควบรวมกันประจำไตรมาสสามและงวดปี 2560 พร้อมจัดประชุมทางโทรศัพท์เพื่อตอบข้อซักถาม สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการประชุมดังกล่าว จะมีการแจ้งให้ทราบต่อไปในไม่กี่สัปดาห์นี้

          เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2560 เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ได้เสนอขายหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิเพื่อระดมทุนซื้อกิจการของ วัลสปาร์ โดยเสนอขายในวงเงิน 6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งจะครบกำหนดชำระภายใน 3, 5, 7, 10 และ 30 ปี ที่อัตราดอกเบี้ยถัวเฉลี่ย (blended) ประมาณ 3.2%

          ตามที่ได้แจ้งให้ทราบก่อนหน้านี้ในประกาศเรื่องการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาสของ Valspar ลงวันที่ 19 พฤษภาคม 2560 เนื่องด้วยการซื้อกิจการครั้งนี้เสร็จสิ้นก่อนการยุติกิจการในวันที่ 1 มิถุนายน 2560 วัลสปาร์ จะไม่มีการจ่ายเงินปันผลประจำไตรมาส ซึ่งมีกำหนดชำระวันที่ 8 มิถุนายน 2560

          เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ได้ประกาศข้อเสนอเพื่อแลกเปลี่ยนหุ้นกู้คงค้างทั้งหมดของ วัลสปาร์ ซึ่งหมดอายุลงเมื่อเวลา 09.00 น. ตามเวลานครนิวยอร์กของวันที่ 1 มิถุนายน 2560 โดยไม่มีการยื่นข้อเสนอเพิ่มเติมนับตั้งแต่เวลา 17.00 น. ตามเวลานครนิวยอร์กของวันที่ 31 พฤษภาคม 2560

          เกี่ยวกับ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์
          บริษัท เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ก่อตั้งขึ้นในปี 2409 ปัจจุบันเป็นผู้นำของโลกในด้านการผลิต พัฒนา ขายและจัดจำหน่ายสี สารเคลือบผิว และผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวข้อง แก่ลูกค้าทั้งในแวดวงวิชาชีพ อุตสาหกรรม การพาณิชย์ และรายย่อย บริษัทผลิตผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ดัง ได้แก่ Sherwin-Williams(R), Valspar(R), HGTV HOME(R) by Sherwin-Williams, Dutch Boy(R), Krylon(R), Minwax(R), Thompson's(R) Water Seal(R), Cabot(R) และอีกมากมาย เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ มีสำนักงานใหญ่ระดับโลกอยู่ในเมืองคลีฟแลนด์ รัฐโอไฮโอ ผลิตภัณฑ์แบรนด์ Sherwin-Williams(R) มีจำหน่ายผ่านทางร้านค้าที่บริษัทบริหารงานเองกว่า 4,100 แห่ง ขณะที่แบรนด์อื่นๆ ของบริษัทมีจำหน่ายผ่านทางร้านค้าทั่วไป ร้ายขายสินค้าเกี่ยวกับบ้าน ตัวแทนจำหน่ายสีอิสระ ร้านขายเครื่องมือ ตัวแทนจำหน่ายรถยนต์ และตัวแทนจำหน่ายระดับอุตสาหกรรม กลุ่มบริษัท Sherwin-Williams Performance Coatings Group จัดหาโซลูชั่นที่หลากหลายและมีคุณภาพสูงสำหรับตลาดการก่อสร้าง อุตสาหกรรม บรรจุภัณฑ์ และการขนส่งในกว่า 120 ประเทศทั่วโลก เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ จดทะเบียนซื้อขายหุ้นในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (ชื่อหุ้น: SHW) ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.sherwin.com

          ประกาศเรื่องข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์ในอนาคต:
          ข่าวประชาสัมพันธ์ฉบับนี้ประกอบด้วยข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคตเกี่ยวกับ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ และการซื้อขายกิจการ ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคตคือข้อความที่ไม่ใช่ข้อเท็จจริงในอดีต ข้อความเหล่านี้สามารถจำแนกได้ด้วยการใช้คำศัพท์ที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคต อาทิ "เชื่อ" "คาด" "อาจจะ" "จะ" "ควรจะ" "คาดการณ์" "อาจสามารถ" "แผน" "เป้าหมาย" "ความเป็นไปได้" "ล่วงหน้า" "มุ่งค้นหา" "ตั้งใจ" หรือ "มุ่งหมาย" หรือคำทีเทียบเคียงกันได้ และประกอบด้วยการอภิปรายเกี่ยวกับกลยุทธ์ การคาดการณ์ทางการเงิน ประมาณการและแนวทางการจัดทำงบการเงิน (ข้อสมมุติในการจัดทำงบการเงิน) ข้อความเกี่ยวกับแผนการ วัตถุประสงค์ การคาดการณ์ หรือผลที่เกิดขึ้นตามมาของการซื้อขายกิจการที่ได้มีการประกาศไว้ และข้อความเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน การดำเนินงาน ผลิตภัณฑ์ และบริการในอนาคตของ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ และบริษัทย่อย เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ขอให้ผู้อ่านพึงระวังอย่ายึดถือข้อความเหล่านี้จนเกินไป ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคตเหล่านี้มีความเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงและความไม่แน่นอนต่างๆ ดังนั้น ผลที่เกิดขึ้นจริงอาจแตกต่างอย่างมากจากที่ระบุไว้ในข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคต ความเสี่ยงและความไม่แน่นอนดังกล่าวมีดังต่อไปนี้ ความสามารถของ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ในการควบรวม วัลสปาร์ ได้อย่างประสบความสำเร็จ; ความเสี่ยงที่จะบรรลุผลประโยชน์ด้านต้นทุนการควบรวม และช่วงเวลาที่จะบรรลุเป้าหมาย ซึ่งรวมถึงประเด็นที่ว่าการซื้อขายกิจการจะก่อให้เกิดการควบรวมภายในกรอบเวลาที่กำหนดหรือไม่; ความผันผวนของวัตถุดิบและราคา; เศรษฐกิจโลกและสภาวะตลาดทุนที่ท้าทาย; ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับรายได้จากตลาดต่างประเทศ; การหยุดชะงัก ความล้มเหลว หรือการยินยอมให้เข้าถึงระบบข้อมูลของ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ และการเปลี่ยนแปลงทางกฎหมายและการกำกับดูแล ทั้งนี้ เชอร์วิน-วิลเลี่ยมส์ ไม่มีข้อผูกพันในการแก้ไขหรือเปลี่ยนแปลงข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคตเพื่อให้สะท้อนเหตุการณ์หรือสถานการณ์ที่เกิดขึ้นหรือมีอยู่หลังจากวันที่ข้อความที่มีลักษณะเป็นการคาดการณ์อนาคตได้ถูกจัดทำขึ้น



No comments:

Post a Comment