Thursday, June 29, 2017

นครฮัมบูร์กพร้อมต้อนรับผู้มาเยือน ก่อนการประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 เปิดฉากสัปดาห์หน้า

          ฮัมบูร์ก, เยอรมนี--29 มิ.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

          นครฮัมบูร์ก เมืองอันเปี่ยมไปด้วยความหลากหลายทางวัฒนธรรม ความเป็นสากล ความทันสมัย และการเชื่อมโยงถึงกัน อีกทั้งยังรุ่มรวยด้วยประเพณีและประวัติศาสตร์อันเก่าแก่ ทำให้นางอังเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีประจำประเทศเยอรมนี และนายโอลาฟ ชอลซ์ นายกเทศมนตรีเห่งนครฮัมบูร์ก เชื่อมั่นว่าเมืองท่าทางตอนเหนือแห่งนี้ถูกกำหนดมาแล้วให้เป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสุดยอดกลุ่ม G20 ในสัปดาห์หน้า โดยบรรดาประมุขแห่งแคว้นและผู้นำรัฐบาลจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ อีกทั้งประเทศระบบเศรษฐกิจเกิดใหม่ 20 แห่งทั่วโลก ร่วมด้วยคณะผู้แทน จะรวมตัวกัน ณ นครฮัมบูร์ก เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 ในวันที่ 7-8 กรกฎาคมนี้

     


          ในฐานะนครแห่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมและเปิดกว้าง อันคงไว้ซึ่งความสัมพันธ์ทางการค้ากับหลายประเทศทั่วโลกเป็นเวลาหลายศตวรรษ ฮัมบูร์กจึงเป็นสถานที่ที่เหมาะสำหรับการเป็นเจ้าภาพการประชุมดังกล่าว โดยนางแมร์เคิลซึ่งเป็นผู้ตัดสินใจเลือกนครฮัมบูร์กให้เป็นสถานที่จัดการประชุมระดับสูงนี้เปิดเผยว่า "ด้วยความที่ฮัมบูร์กเป็นเมืองท่า จึงได้รับการยกย่องในฐานะประตูสู่การค้าเสรีมานานหลายร้อยปี และดูเหมือนว่าโชคชะตาลิขิตให้นครแห่งนี้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม G20 ประจำปีนี้"

          ในเวลาเพียงไม่กี่วันของช่วงต้นเดือนก.ค. ที่กำลังจะมาถึงนี้ นครฮัมบูร์กจะกลายเป็นดาวดวงใหม่ของแวดวงการเมืองโลก โดยนายชอลซ์กล่าวว่า "นอกเหนือจากเหล่าประมุขแห่งแคว้นและผู้นำรัฐบาล รวมถึงคณะผู้แทนแล้ว ผู้สื่อข่าวหลายพันรายจากทั่วทุกมุมโลกจะมารวมตัวกัน ณ ที่แห่งนี้ ซึ่งพวกเขาจะได้ทำความรู้จักรวมถึงประชาสัมพันธ์นครฮัมบูร์กไปทั่วโลก ในฐานะเมืองที่เปี่ยมไปด้วยความหวัง วัฒนธรรมอันหลากหลาย และพร้อมต้อนรับผู้มาเยือนด้วยไมตรีจิต เรามุ่งมั่นในการเป็นเจ้าภาพที่ดีสำหรับการประชุมสุดยอด G20 ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีของนครฮัมบูร์กด้วย" ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะมีผู้เข้าร่วมงานดังกล่าวประมาณ 10,000 ราย โดยในจำนวนนี้เป็นสื่อมวลชนที่ได้รับการรับรองแล้วกว่า 4,800 รายจาก 65 ประเทศ

          การประชุมสุดยอด G20 มีการเตรียมการอย่างแข็งขันเป็นเวลาหลายเดือน และตอนนี้ก็ถึงเวลานับถอยหลังแล้ว อีกไม่กี่วันบรรดาผู้นำทางการเมืองจากกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ และประเทศระบบเศรษฐกิจเกิดใหม่ 20 แห่งทั่วโลก รวมถึงคณะผู้แทน จะเดินทางมายังนครฮัมบูร์ก โดยพื้นที่จัดแสดงของศูนย์การประชุม Hamburg Messe ใจกลางเมืองแห่งนี้ จะกลายเป็นสถานที่หลักของการประชุมพร้อมมาตรการรักษาความปลอดภัยอันเข้มงวด และนครฮัมบูร์กซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็น "ประตูสู่เศรษฐกิจโลก" จากท่าเรือที่เชื่อมกับท่าเรืออื่น ๆ อีก 950 แห่ง ในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก จะกลายเป็นเมืองแรกของเยอรมนีที่ได้เป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอด G20

          ในฐานะที่เป็นส่วนหนึ่งของประธานการจัดประชุม G20 ประเทศเยอรมนีจะเปิดประเด็นว่าด้วยเศรษฐกิจ การค้า ข้อบังคับของตลาดเงิน รวมถึงนโยบายการคลังโลกซึ่งได้บรรจุอยู่ในวาระการประชุมนับตั้งแต่เกิดวิกฤติการเงินในปี 2551/2552 นอกจากนี้ ประเทศเยอรมนียังมุ่งให้นานาประเทศใส่ใจกับปัญหาระดับโลกต่าง ๆ ในปัจจุบัน อาทิ การรับมือกับโรคระบาด, ความปลอดภัยในการทำงาน, การส่งเสริมสิทธิสตรี, วิธีจัดการกับปัญหาอพยพย้ายถิ่น, โอกาสทางเศรษฐกิจในแอฟริกา รวมถึงมาตรการทางนโยบายด้านการป้องกันสภาพภูมิอากาศ, พลังงาน และการพัฒนาอันยั่งยืน โดยจากประวัติศาสตร์ของนครฮัมบูร์ก ประเด็นเหล่านี้ล้วนมีความเชื่อมโยงกัน

          ทั้งนี้ ผลผลิตทางเศรษฐกิจของกลุ่มประเทศ G20 คิดเป็น 80% ของผลผลิตโลก และ 2 ใน 3 ของประชากรโลกโดยประมาณ จึงอาจยึดเป็นแบบอย่างของโลกาภิวัตน์ที่มีประสิทธิภาพได้ ในฐานะที่เป็นเมืองท่า ฮัมบูร์กจึงมีความเป็นสากล อีกทั้งประเทศชั้นนำระดับโลกล้วนเลือกนครแห่งนี้เป็นสถานที่ทดลองตลาดก่อนขยายธุรกิจเข้าสู่ทวีปยุโรป

          ในค่ำคืนของวันที่ 7 ก.ค. ผู้เข้าร่วมการประชุมสุดยอด G20 และบรรดาพันธมิตรจะได้รับเชิญเข้าร่วมในงานคอนเสิร์ต ณ Elbphilharmonie Hamburg แลนด์มาร์คแห่งใหม่ของนครฮัมบูร์กที่ดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกด้วยการเปิดตัวอันตระการตาไปเมื่อเดือนม.ค. ที่ผ่านมา และจากพิธีเปิดลานคอนเสิร์ตแห่งใหม่อันแสนอัศจรรย์นี้เอง นครฮัมบูร์กจึงสถาปนาตัวเองขึ้นเป็นสถานที่หนึ่งในโลกที่ต้องมาเยือนประจำปี 2560

          ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนครฮัมบูร์ก: http://www.hamburg.com และ http://www.hamburg-travel.com

          ติดต่อ:
          Hamburg Marketing GmbH
          Guido Neumann
          โทร: +49(40)300-51-580
          อีเมล: guido.neumann@marketing.hamburg.de

No comments:

Post a Comment