กว่างโจวมุ่งยกระดับอุตสาหกรรมเพื่อปลดปล่อยขุมพลังแห่งนวัตกรรม

นครกว่างโจวเป็นศูนย์กลางการค้าที่สำคัญทางภาคใต้ของจีนมายาวนานกว่า 2,000 ปี ดังนั้นเมืองแห่งนี้จึงได้รับการขนานนามจากนานาชาติว่าเป็น "เมืองธุรกิจแห่งสหัสวรรษ" โดยนับตั้งแต่ที่รัฐบาลจีนเริ่มใช้นโยบายปฏิรูปและเปิดตลาดในปี 2521 เป็นต้นมานั้น กว่างโจวก็เป็นเมืองที่อยู่ในระดับแถวหน้ามาโดยตลอด
          กว่างโจวในฐานะหนึ่งในเขตเศรษฐกิจที่มีพลวัตสูงที่สุดในโลก ได้เปิดประตูให้ทั่วโลกเข้าถึงตลาดจีนในช่วงกว่า 30 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2559 ตัวเลข GDP ของเมืองกว่างโจวอยู่ที่ระดับประมาณ 2 ล้านล้านหยวน (2.944 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือมีขนาดเทียบเท่ากับเศรษฐกิจสิงคโปร์และฮ่องกง
          และจากนวัตกรรมที่แข็งแกร่ง จึงทำให้องค์กรธุรกิจต่างๆในกว่างโจวยังคงมีศักยภาพทางการแข่งขันสูงในยุคสมัยใหม่ ประกอบกับนโยบายของรัฐบาลท้องถิ่นที่เอื้อต่อการยกระดับอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง
          "Pearl River Piano Group ผู้ผลิตเปียโนชื่อดังของโลก เป็นหนึ่งในกลุ่มองค์กรธุรกิจดั้งเดิมที่ได้รับผลกระทบจากการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดกว่างโจว แต่บริษัทสามารถยืนหยัดได้อย่างแข็งแกร่งผ่านทางการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ที่บริษัทก่อตั้งในปี 2499" หยาง เว่ยหัว โฆษกบริษัทกล่าว
          ปัจจุบัน บริษัทมียอดขายเปียโนคิดเป็นสัดส่วนกว่า 25% ของตลาดทั่วโลก โดยมีลูกค้าใน 100 ประเทศและดินแดน ซึ่งทำให้บริษัทรั้งตำแหน่งผู้ผลิตเปียโนรายใหญ่ที่สุดของโลกมา 16 ปีซ้อน และในเดือนพ.ค.ปีที่แล้ว บริษัทก็ได้เข้าซื้อหุ้น 90% ของ Schimmel ซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตเปียโนรายใหญ่ที่สุดของเยอรมนี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อเจาะตลาดเปียโนระดับไฮเอนด์
          ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กว่างโจวได้ส่งเสริมให้องค์กรธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมดั้งเดิม ลงทุนในด้านการพัฒนาเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้นการผลิตด้วยระบบอัจฉริยะและวิทยาการหุ่นยนต์ สำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์นั้น ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อย่าง Dongfeng Nissan, Guangqi Toyota และ Guangqi Honda ได้มีการนำหุ่นยนต์มาใช้ในงานบัดกรีและพ่นสีกว่า 400 ตัวแล้ว  
          ข้อมูลจากคณะกรรมการอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศของรัฐบาลเมืองกว่างโจว ระบุว่า นอกจากการผลิตยานยนต์แล้ว หุ่นยนต์และอุปกรณ์อัจฉริยะยังถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในภาคอุตสาหกรรมกว่า 10 หมวด เช่น อุตสาหกรรมปิโตรเคมี สินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และเฟอร์นิเจอร์ เป็นต้น โดยปีที่ผ่านมา มีบริษัทราว 600 แห่งในกว่างโจวที่เลือกใช้ไลน์ผลิตสินค้าแบบอัตโนมัติ
          นอกจากการยกระดับเทคโนโลยีแล้ว เมืองกว่างโจวยังได้แรงขับเคลื่อนจากอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์เกิดใหม่อีกด้วย โดยรัฐบาลเมืองกว่างโจวคาดหวังว่าการผลักดันแผนยุทธศาสตร์ IAB ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมเชิงกลยุทธ์เกิดใหม่ เช่น อุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศ ปัญญาประดิษฐ์ และชีวเภสัชภัณฑ์นั้น จะช่วยยกระดับความน่าดึงดูด ความคิดสร้างสรรค์ และความสามารถทางการแข่งขันได้ ด้วยการสร้างกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆที่มีมูลค่าผลผลิตรวมกันหลายแสนล้านหยวน
          สำหรับอุตสาหกรรมสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์นั้น มีกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตหน้าจอแสดงภาพใหม่ที่สร้างผลผลิตรวมมูลค่าหลายแสนล้านหยวนถือกำเนิดขึ้น โดยผู้ผลิตหน้าจอใหม่ 10 ราย รวมถึงแบรนด์ LG Display และ Skyworth ซึ่งมีมูลค่ารวมกัน 1.393 แสนล้านหยวน (2.05 หมื่นล้านดอลลาร์) นั้น ต่างก็ติดอันดับองค์กรธุรกิจสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ยอดเยี่ยม 20 อันดับแรกของกว่างโจว ทั้งนี้อุตสาหกรรมการผลิตจอแสดงภาพใหม่มีทิศทางการเติบโตที่สดใส ดังจะเห็นได้จากการทุ่มเม็ดเงินลงทุนจำนวนมหาศาลของ Foxconn ในการสร้างสวนอุตสาหกรรมเชิงนิเวศในเขตเจิ้งเฉิงของเมืองกว่างโจว เพื่อเป็นฐานผลิตจอแสดงภาพยุค 10.5 โครงการดังกล่าวถือเป็นโครงการเอกเทศที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่จีนเริ่มใช้นโยบายปฏิรูปและเปิดตลาดเป็นต้นมา โดยเฟสแรกซึ่งมีมูลค่า 6.1 หมื่นล้านหยวน (8.97 พันล้านดอลลาร์) นั้น ได้เริ่มต้นขึ้นในเดือนมี.ค.ที่ผ่านมา โดยคาดว่าจะสามารถดึงดูดบริษัทข้ามชาติของไต้หวันราว 70 แห่งให้มาร่วมลงทุนในกว่างโจว นอกจากนี้เมื่อโครงการดังกล่าวแล้วเสร็จในปี 2562 ก็จะสามารถสร้างมูลค่าผลผลิตได้สูงถึง 9.2 หมื่นล้านหยวน (1.35 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ซึ่งจะช่วยผลักดันให้กว่างโจวเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีจอแสดงภาพของโลก