- ผู้ที่มีโอกาสเดินทางไปทำงานต่างประเทศมองว่าตนเสียเปรียบผู้ที่ได้ทำงานในบ้านเกิด
- การอยู่ห่างไกลจากครอบครัวและความรู้สึกโดดเดี่ยวคือความกังวลหลัก
- หลายคนมีความกังวลเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายที่อาจเกิดขึ้น หากต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ต่างประเทศในกรณีที่มีการเจ็บป่วยรุนแรง โดย
ร้อยละ 40 ของคนกลุ่มนี้ไม่ได้รับสวัสดิการการรักษาพยาบาลจากบริษัทแม้แต่น้อย
ซิกน่า คอร์ปอเรชั่น (NYSE:CI) ได้เผยผล โดยพบว่า ผู้ที่มีโอกาสเดินทางไปทำงานในต่างประเทศจะรู้สึกว่าตนเองเสียเปรียบผู้ที่ได้ทำงานใน
บ้านเกิด ทั้งในด้านสุขภาพร่างกาย ด้านสังคม ด้านครอบครัว รวมถึงด้านการเงิน
คะแนนสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานที่ประเทศมีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 61.5คะแนน ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของคะแนน
สุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของผู้ที่ทำงานในบ้านเกิดของตนเองถึง 1.8 คะแนน โดยความแตกต่างที่เห็นได้อย่างชัดเจนคือ คะแนนสุขภาพและควานเป็นอยู่
ด้านครอบครัว ซึ่งต่ำกว่าถึง 9.4 คะแนน
นายเจสัน แซดเลอร์ ประธานกลุ่มธุรกิจ ซิกน่า อินเตอร์เนชันแนล กล่าวว่า "ผลสำรวจที่ได้นี้แสดงให้เห็นว่า ผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศมีความกังวลเกี่ยวกับสุขภาพ รวมถึงความเป็นอยู่ของตนเองและคนในครอบครัว มากกว่าผู้ที่ทำงานในบ้านเกิดของตนเอง โดยคนในกลุ่มนี้ล้วนมีความกังวลเกี่ยวกับภาระค่าใช้จ่ายด้านการรักษาพยาบาลที่อาจเกิดขึ้นเมื่อตนเองหรือสมาชิกในครอบครัวเกิดเจ็บป่วยและต้องเข้ารับการรักษาพยาบาลที่ต่างประเทศ ซึ่งความกังวลดังกล่าวเกิดจากช่องว่างระหว่างสวัสดิการที่ได้รับจากนายจ้างกับค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่เกิดขึ้นจริง โดยในฐานะบริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านประกันสุขภาพระดับโลก ที่มีพันธกิจในการช่วยพัฒนาสุขภาพ ชีวิต และความเป็นอยู่ของลูกค้าให้ดีขึ้น ซิกน่าได้ให้การสนับสนุนด้านสุขภาพแก่ผู้ที่ทำงานในต่างประเทศมาเป็นระยะเวลานาน เราจึงได้จัดทำการวิจัยนี้ขึ้น เพื่อช่วยยกระดับการดูแลและความคุ้มครองด้านสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับคนกลุ่มนี้ทั่วโลก"
การสำรวจนี้เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจาก ซึ่งเผยแพร่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยได้พิจารณาถึงปัจจัยที่มีผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ รวมถึงความรู้สึกมั่นคงในชีวิตของผู้คนทั่วโลกใน 5 มิติหลัก ได้แก่ ด้านร่างกาย ด้านการเงิน ด้านสังคม ด้านครอบครัว และด้านการทำงาน โดยได้ทำการสำรวจความคิดและทัศนคติของผู้ที่ทำงานในประเทศต่างๆที่ไม่ใช่ภูมิลำเนาของตนเอง ในตลาดที่ซิกน่าดำเนินธุรกิจอยู่จำนวน 20 ตลาด
ข้อดีของการทำงานในต่างประเทศ
การได้มีประสบการณ์การทำงานในต่างประเทศเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ต้องการไปทำงานในต่างประเทศ นอกจากนั้นการได้ไปทำงานในต่างประเทศ ถือเป็นโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า มีโอกาสก้าวหน้าด้านอาชีพการงานมากกว่า มีชั่วโมงการทำงานที่ดีกว่า รวมถึงมีความสัมพันธ์กับเพื่อนร่วมงานที่ดีกว่าอีกด้วย
แต่ก็มีความท้าทายอยู่ไม่น้อย
แม้ว่าผู้ที่ทำงานในต่างประเทศจะมีโอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีกว่า แต่มีเพียงหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสำรวจเท่านั้นที่พึงพอใจกับสภาวะทางการเงินของตนเองในปัจจุบัน การไม่มีเวลาให้กับครอบครัวและไม่มีเวลาเพียงพอเพื่อดูแลการศึกษาของบุตรก็เป็นอีกหนึ่งข้อกังวลของพวกเขา โดยจะมีความกังวลมากยิ่งขึ้นเมื่อต้องอยู่ห่างไกลจากครอบครัว และไม่มีสมาชิกในครอบครัวคอยดูแลอยู่ใกล้ๆ
บ่อยครั้งที่ผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศจะเกิดความกังวลใจ และหนึ่งในนั้นคือความกังวลเกี่ยวกับการเจ็บป่วย โดยส่วนใหญ่จะมีความกังวลเกี่ยวกับโรคมะเร็งและการเกิดอุบัติเหตุ ตามมาด้วยการเจ็บป่วยทางจิต เช่น ภาวะซึมเศร้า โดย 25% ของคนที่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศ
มีความกังวลเกี่ยวกับโรคที่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งมีอัตราสูงเมื่อเทียบกับคนทำงานทั่วๆไป
มีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยและรู้สึกเหงาที่ต้องอยู่ไกลบ้าน
ผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานในต่างประเทศมีความรู้สึกว่าโลกนี้มีความปลอดภัยน้อยลง เนื่องจากความไม่มั่นคงทางการเมือง ประกอบกับปัจจัยทางเศรษฐกิจระดับมหภาค โดย 1 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสำรวจรู้สึกว่าตนเองมีความปลอดภัยลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลา 24 เดือนที่ผ่านมา ซึ่งความรู้สึกไม่
ปลอดภัยนี้มีอัตราสูงที่สุดในประเทศสหรัฐอเมริกา รองลงมาคือในแอฟริกา โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจที่กล่าวว่าตนเองรู้สึกปลอดภัยน้อยลงสูงถึง 42% และ 31% ตามลำดับ
ผู้ตอบแบบสำรวจจำนวนมากยังกล่าวว่าตนมีปัญหากับการเข้าสังคมนอกเวลาการทำงาน โดย 1 ใน 5 ของผู้ตอบแบบสำรวจรู้สึกว่าตนเองมีความโดดเดี่ยวและความรู้สึกโดดเดี่ยวเพิ่มสูงขึ้นถึงเกือบ 1 ใน 4 สำหรับผู้ที่มีสถานภาพโสดหรือต้องอาศัยอยู่ตามลำพัง
สวัสดิการด้านสุขภาพที่ไม่เพียงพอ
การได้รับสวัสดิการการรักษาพยาบาลจากนายจ้างที่ไม่ครอบคลุมอย่างเพียงพอเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ก่อให้เกิดความกังวลที่เพิ่มขึ้น
นายเจสัน กล่าวอีกว่า "จากแบบสำรวจแสดงให้เห็นว่าสวัสดิการค่ารักษาพยาบาลเป็นปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการตัดสินใจไปทำงานในต่างประเทศนอกจากนี้ ยังมีประเด็นซึ่งเป็นที่น่าประหลาดใจอีกประเด็นหนึ่ง คือเราพบว่าผู้ตอบแบบสำรวจถึง 40% ไม่ได้รับสวัสดิการการรักษาพยาบาลจากบริษัทของตนเอง และ 15 % ไม่มีประกันสุขภาพเลย"
"จากผลสำรวจนี้จะเห็นได้อย่างชัดเจนว่า นายจ้างจำเป็นต้องเข้ามาดูแลและเอาใส่ใจอย่างจริงจังเกี่ยวกับสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานที่ทำงานอยู่ในต่างประเทศ ซึ่งการดูแลดังกล่าวควรจะครอบคลุมไปถึงช่วงนอกเวลางาน เช่น เมื่อพนักงานใช้เวลาอยู่กับครอบครัวและชุมชนในพื้นที่
เหล่านั้นด้วย"
No comments:
Post a Comment