Monday, July 31, 2017
เมืองกว่างโจวจัดการประชุมภายในประเทศ มุ่งหารือกลยุทธ์การเปิดกว้างและนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลเมืองกว่างโจวได้จัดการประชุมเสวนาว่าด้วยกลยุทธ์การเปิดกว้างและผลักดันนวัตกรรมเพื่อส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน ที่นครเซี่ยงไฮ้เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยกว่างโจวและเซี่ยงไฮ้ถือเป็นเมืองศูนย์กลางระดับชาติและฮับสำคัญระดับนานาชาติที่สะท้อนถึงการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีน ตลอดจนโอกาสในการพัฒนาสำหรับองค์กรธุรกิจในประเทศและต่างประเทศ เมืองทั้งสองเป็นที่ตั้งของบริษัทจีน 115 แห่งที่ติดทำเนียบ Fortune Global 500 และเป็นเมืองที่ดึงดูดบริษัทชั้นนำจากต่างประเทศให้มาลงทุนเป็นจำนวนมาก การประชุมเสวนาครั้งนี้มีเจ้าหน้าที่รัฐบาล ตลอดจนผู้บริหารจากองค์กรธุรกิจชั้นนำระดับโลกมาร่วมงานอย่างคับคั่ง รวมถึง Clay Chandler บรรณาธิการบริหาร Time Inc. และผู้บริหารร่วมของ Fortune Global Forum
กว่างโจวเป็นทั้งศูนย์กลางการค้าระดับนานาชาติและศูนย์กลางการคมนาคมขนส่งที่ทันสมัย อีกทั้งเป็นเมืองผลิตผลจากนโยบายปฏิรูปและเปิดกว้างแห่งแรกๆของจีน นอกจากนี้ กว่างโจวยังเคยขึ้นแท่นเมืองแห่งโอกาส หรือ "City of Opportunity" โดย PricewaterhouseCoopers และ China Development Research Foundation ถึงสองครั้ง และในปี 2559 กว่างโจวมียอดขายสินค้าคิดเป็นมูลค่ากว่า 8.313 แสนล้านดอลลาร์ โดยที่ยอดนำเข้าและส่งออกแตะระดับ 1.297 แสนล้านดอลลาร์ และมีแนวโน้มจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาส 1/2560 มีองค์กรธุรกิจต่างชาติมาลงทุนสร้างบริษัทในกว่างโจวรวม 508 แห่ง คิดเป็นมูลค่า 1.886 พันล้านดอลลาร์
ในปี 2559 ผู้โดยสารในประเทศและต่างประเทศได้หลั่งไหลสู่เมืองกว่างโจวมากถึง 59.78 ล้านคน และมีปริมาณการขนส่งสินค้า 1.638 ล้านตัน โดยในปี 2560 กว่างโจวมีแผนเปิดเส้นทางการบินระหว่างประเทศเพิ่ม 15 เส้นทาง จากเดิม 149 เส้นทาง เป็น 164 เส้นทาง ขณะเดียวกัน กว่างโจวจะยังคงผลักดันแผนกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการคิดค้นนวัตกรรมเพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองให้เจริญรุดหน้า ในปัจจุบัน กว่างโจวเป็นที่ตั้งของกลุ่มธุรกิจด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงขนาดกว่า 8 ล้านตารางเมตร โดยมีจำนวนบริษัทด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมกว่า 120,000 แห่ง ซึ่งกำลังสร้างแกนเศรษฐกิจที่ทรงพลังสำหรับอุตสาหกรรมเกิดใหม่ เช่น อินเทอร์เน็ต ชีวเภสัชภัณฑ์ วัสดุใหม่ หุ่นยนต์สำหรับอุตสาหกรรม โดรนอัตโนมัติ เทคโนโลยีการพิมพ์ 3 มิติ และอื่นๆอีกมากมาย
โครงการริเริ่มระหว่างมณฑลกวางตุ้ง และเขตบริหารพิเศษฮ่องกงและมาเก๊านั้น มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างเขตเศรษฐกิจ และสนับสนุนจีนให้เป็นตลาดที่เปิดกว้างมากขึ้น โดยโครงการ 'Greater Bay Area' นี้ได้กลายเป็นหัวข้อสนทนาหลักระหว่างนักวิชาการและผู้ประกอบการจากทั้งสองเมือง โดย Cai Chaolin หนึ่งในกรรมการถาวรของพรรคคอมมิวนิสต์สาขาเมืองกว่างโจวและประธานคณะกรรมการจัดการประชุม Fortune Global Forum ประจำปี 2560 กล่าวว่า "จีนกำลังจัดทำแผนพัฒนาสำหรับพื้นที่รอบอ่าวมณฑลกวางตุ้ง ฮ่องกง และมาเก๊า เพื่อสร้างเขตเศรษฐกิจรอบอ่าวขนาดใหญ่ลำดับที่ 4 ของโลกต่อจากนิวยอร์ก ซานฟรานซิสโก และอ่าวโตเกียว ในขณะที่เมืองศูนย์กลางทั้งสามแห่งอย่างกว่างโจว เซินเจิ้น และฮ่องกง รวมถึงมาเก๊านั้น จะทำงานร่วมกันเพื่อผลักดันเขตเศรษฐกิจที่มีพลวัตสูงเหล่านี้ให้เป็นมหานครระดับโลก ในขณะที่รัฐบาลจีนจะเดินหน้าสานความร่วมมือทางเศรษฐกิจและยกระดับความสามารถในการแข่งขันบนเวทีโลก กลุ่มเมืองเหล่านี้จะทำงานบนเวทีระดับนานาชาติเพื่อเสริมสร้างนวัตกรรมและการพัฒนา ด้วยเหตุนี้จึงมีทิศทางการเจริญเติบโตที่สดใส อีกทั้งมอบโอกาสทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตลอดจนแนวโน้มธุรกิจที่เฟื้องฟูอีกด้วย"
เขตการพัฒนาเมืองกว่างโจว ตั้งอยู่บนสุดของพื้นที่ Greater Bay Area เป็นเขตเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการส่งออกและได้รับประโยชน์มากมายจาก Greater Bay Area เนื่องจากที่นี่มีการจัดตั้งกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมขนาดใหญ่แล้ว 3 ภาคส่วน ประกอบด้วยอุตสาหกรรมสารสนเทศอิเล็กทรอนิกส์ วิศวกรรมเคมี และยานยนต์ ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 1.485 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมอื่นๆอีก 4 ภาคส่วนอย่าง วัสดุใหม่ อาหารและเครื่องดื่ม การผลิตเครื่องโลหะ และเทคโยโลยีชีวภาพด้านสุขภาพนั้น มีมูลค่าประมาณ 7.43 พันล้านดอลลาร์ ทั้งนี้เขตพัฒนาดังกล่าวมีมูลค่าทางอุตสาหกรรมคิดเป็น 40% และมีสัดส่วน 1 ใน 3 ของการใช้ประโยชน์จากเม็ดเงินลงทุนของต่างประเทศในเมืองกว่างโจว นอกจากนี้ยังสะท้อนความเป็นเขตพื้นที่สำคัญที่จะผลักดันสู่การเป็นศูนย์กลางระดับนานาชาติของนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เขตการพัฒนาเมืองกว่างโจวจะเดินหน้ายกระดับสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการลงทุนและการค้า และส่งเสริมการปฏิรูปสำหรับธุรกิจเพื่อสร้างบรรยากาศการลงทุนที่สะดวกสบาย ดำเนินงานได้จริง และพัฒนาเต็มที่ นอกเหนือจากการส่งเสริมอุตสาหกรรมการผลิตที่ทันสมัยแล้ว เขตการพัฒนาแห่งนี้ยังมุ่งสร้างอุตสาหกรรมบริการที่ทันสมัย เป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และเป็นที่ตั้งสำนักงานใหญ่ระดับภูมิภาคของอุตสาหกรรมไฮเทค หรือ 4 "Golden 10" โดยเป็นศูนย์รวมบุคลากรระดับหัวกะทิและการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา
ขณะที่เขตการค้าเสรีหนานซากำลังดำเนินบทบาทสำคัญในการเปิดประตูสู่ความร่วมมือในระดับที่ลึกซึ้งขึ้นระหว่างมณฑลกวางตุ้ง ฮ่องกงและมาเก๊า โดยเฉพาะในด้านอุตสาหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การสรรหาบุคลากรระดับหัวกะทิและความร่วมมือ ตลอดจนการคิดค้นนวัตกรรมและอื่นๆ ทั้งนี้ เขตการค้าเสรีหนานซามีการเจริญเติบโตและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยมีองค์กรธุรกิจใหม่ๆที่มาจัดตั้งบริษัทในพื้นที่ดังกล่าวเพิ่มขึ้น 30,221 แห่ง ณ เดือนมิ.ย. 2560
ด้วยแรงขับเคลื่อนในทิศทางบวกเหล่านี้ ทำให้เมืองกว่างโจวได้รับเลือกให้เป็นเมืองเจ้าภาพจัดการประชุม Fortune Global Forum 2560 ระหว่างวันที่ 6-8 ธ.ค.นี้ โดยที่บรรดาผู้นำและผู้บริหารจากภาคธุรกิจทั่วโลกจะมาหารือกันเกี่ยวกับอนาคตของเศรษฐกิจและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment