Spreadtrum เปิดตัวแพลตฟอร์ม LTE SoC ทรงประสิทธิภาพ มุ่งรองรับตลาดคอนซูเมอร์ทั่วโลก

          ในวันที่ 15 สิงหาคม ตามเวลาปักกิ่ง Spreadtrum ได้จัดการประชุมพันธมิตรระดับโลกประจำปี 2560 ขึ้น ภายใต้หัวข้อ "Infinite Chip, Infinite Intelligence" ณ เมืองเซินเจิ้น โดยมีบริษัทพันธมิตรยักษ์ใหญ่ของ Spreadtrum กว่า 1,000 รายมาร่วมในงานครั้งนี้ ซึ่งรวมถึง Intel, China Mobile, China Unicom, China Telecom, Reliance, Vodafone, Orange, Telefonica, TRUE, Smartfren, Mircomax, Google, Huawei, ZTE, OPPO, VIVO, Gionee, Alcatel, Dialog และอื่นๆอีกมากมาย ในโอกาสนี้ Spreadtrum ได้ประกาศกลยุทธ์การตลาดประจำปี 2560 และได้เปิดเผยรายละเอียดของผลิตภัณฑ์ล่าสุดให้ผู้มาร่วมงานได้รับทราบ พร้อมอวดโฉมโซลูชั่นเพื่อการสื่อสารไร้สายอันล้ำสมัย และเทคโนโลยี IoT (เทอร์มินัลยานยนต์, การสื่อสารบรอดแบนด์ และความปลอดภัยทางการเงิน) ขณะเดียวกัน Spreadtrum ยังได้เปิดตัวแพลตฟอร์ม LTE SoC อันทรงประสิทธิภาพ 2 รุ่นด้วยกัน ซึ่งได้แก่ ชิปประมวลผล Spreadtrum SC9853I ที่พัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มฟาวน์ดรี 14 nm ของ Intel, สถาปัตยกรรม Octa-core 64-bit Intel Airmont และโซลูชันแบบบูรณาการ 5 โหมด และชิปประมวลผล Spreadtrum SC9850 รุ่นประหยัดพลังงาน โดยทางบริษัทได้เดินเครื่องผลิตชิปทั้งสองรุ่นในปริมาณมากแล้วในขณะนี้

Spreadtrum เปิดตัวแพลตฟอร์ม LTE SoC ทรงประสิทธิภาพ มุ่งรองรับตลาดคอนซูเมอร์ทั่วโลก
 

          Spreadtrum SC9853I พัฒนาขึ้นจากแพลตฟอร์มฟาวน์ดรี 14nm ของ Intel โดยมีจุดประสงค์เพื่อรองรับตลาดสมาร์ทโฟนระดับกลางถึงสูงทั่วโลก แพลตฟอร์มดังกล่าวมาพร้อมกับหน่วยประมวลผลที่ใช้สถาปัตยกรรม 1.8GHz Octa-core 64-bit Intel Airmont ส่งผลให้ SC9853I มากด้วยสมรรถนะในการประมวลผลแบบเคลื่อนที่ แต่กินไฟต่ำ โดยแพลตฟอร์ม SC9853I รองรับสายสัญญาณดาวน์ลิงค์ LTE Cat-7 และอัพลิงค์ Cat-13 สำหรับมาตรฐานการสื่อสารแบบ 5 โหมด (TD-LTE/FDD-LTE/TD-SCDMA/WCDMA/GSM) ซึ่งทำความเร็วในการส่งข้อมูลดาวน์ลิงค์ได้ 300Mbps และอัพลิงค์ได้สูงสุด 150Mpbs เพื่อมอบประสบการณ์ท่องโลกออนไลน์ระดับ 4G+ อย่างแท้จริง นอกจากนี้ยังรองรับการเล่นวิดีโอระดับ 1080P HD รวมถึงจอแสดงผล 18:9 FHD+ (1080*2160) และกล้องคู่ความละเอียด 16 ล้านพิกเซล

          "เราได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์ตัวแรกที่เกิดจากความร่วมมือกับพันธมิตรที่งาน Mobile World Congress เมื่อช่วงต้นปีนี้ และเรามีความยินดีที่ได้สานต่อความร่วมมือดังกล่าวต่อไป ด้วยการเปิดตัวแพลตฟอร์ม SC9853I SoC ของ Spreadtrum โดยแพลตฟอร์ม 14nm ของ Intel Custom Foundry นั้นนำเสนอ PPA ระดับแถวหน้าของอุตสาหกรรม รวมทั้งบริการและการสนับสนุนฟาวน์ดรีแบบเทิร์นคีย์ ซึ่งเหมาะกับอุปกรณ์เคลื่อนที่ทั่วไปในท้องตลาดที่ออกแบบให้เน้นสมรรถนะสูง แต่การรั่วไหลต่ำ" ดร.เซน บอลล์ รองประธานกลุ่มเทคโนโลยีและการผลิตของ Intel และผู้จัดการทั่วไปของ Intel Custom Foundry กล่าว "Spreadtrum ใช้ประโยชน์จากข้อได้เปรียบทั้งหมดบนแพลตฟอร์ม 14nm ของ Intel Custom Foundry จนทำให้ SC9853l เป็นเลิศในแง่ของศักยภาพและการใช้พลังงาน ซึ่งยกระดับประสบการณ์การใช้สมาร์ทโฟนให้กับผู้ใช้งานทั่วโลก"

          สำหรับ Spreadtrum SC9850 นั้นได้รับการออกแบบขึ้นเพื่อตลาดระดับกลางและระดับล่างทั่วโลก มาพร้อมหน่วยประมวลผลกลาง Quad-core ARM Cortex-A7 ที่ติดตั้งมาในชิป และการ์ดจอ 3 มิติ ARM Mali 820 ทั้งนี้ Spreadtrum SC9850 รองรับมาตรฐานการสื่อสาร 5 โหมด (TD-LTE/FDD-LTE/TD-SCDMA/ WCDMA/GSM) และจับสัญญาณได้หลายคลื่นพร้อมกัน โดยมีสัญญาณดาวน์ลิงค์ Cat-7 (สูงสุด 300 Mbps), สัญญาณอัพลิงค์ Cat-13 (สูงสุด 150 Mpbs) ทั้งยังรองรับการเล่นวิดีโอ 1080P HD, จอภาพ 18:9 HD+ (720*1440) และกล้องคู่ความละเอียดสูงสุด 13 ล้านพิกเซล

          ขณะเดียวกัน ทั้งรุ่น SC9853I และ SC9850 ต่างมุ่งเน้นไปที่การยกระดับความสามารถด้านการประมวลผลของกล้องคู่ ด้วย 3DNR ที่ติดตั้งมาในชิป ซึ่งช่วยให้การถ่ายภาพตอนกลางคืนเก็บรายละเอียดได้ดียิ่งขึ้น และฟีเจอร์ต่างๆ อาทิ การปรับจุดโฟกัส โหมดถ่ายภาพหน้าสวยแบบเรียลไทม์ การสร้างโมเดล 3 มิติ และ AR นอกจากนี้ ผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังใช้ EverMuLTE(TM) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีของ Spreadtrum แต่เพียงผู้เดียว จึงมีฟังก์ชั่นรองรับ dual-SIM, dual-4G, dual-VoLTE เพื่อยกระดับประสบการณ์การโทรศัพท์ ทั้งยังรองรับเทคโนโลยีการชำระเงิน NFC และใช้อุปกรณ์ควบคุมเซ็นเซอร์ ทั้งนี้ก็เพื่อมอบโซลูชั่นครบวงจรที่ยกระดับประสบการณ์ของผู้ใช้

          ดร. ลีโอ หลี่ ประธานกรรมการและซีอีโอของ Spreadtrum กล่าวว่า "แพลตฟอร์ม LTE SoC ของ Spreadtrum ประกอบด้วย SC9853l ซึ่งพัฒนาขึ้นจากชิป 14nm ของ Intel Custom Foundry ที่มีความสามารถด้านการประมวลผลประสิทธิภาพสูงและใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เรามั่นใจว่าแพลตฟอร์มเหล่านี้จะช่วยให้ลูกค้าออกแบบผลิตภัณฑ์เทอร์มินัลอัจฉริยะที่มีศักยภาพแข่งขันได้มากขึ้น พร้อมมอบประสิทธิภาพการทำงานที่ดีขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการที่สูงขึ้นในตลาด LTE ทั่วโลก ยิ่งไปกว่านั้น ประเภทของชิป LTE ที่แตกต่างกันเหล่านี้ยังช่วยตอบโจทย์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ของลูกค้าในหลายกลุ่มตลาดอีกด้วย"

          ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.spreadtrum.com