การทดสอบชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีผ่าน SWIFT gpi ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี

          - SWIFT ประสบความสำเร็จในการทดสอบบริการชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีผ่านแพลตฟอร์มการชำระเงินรูปแบบใหม่หรือ New Payments Platform กับธนาคารทั้งในออสเตรเลีย จีน ไทย และสิงคโปร์

          SWIFT ประกาศความสำเร็จในการทดสอบระบบสาธิตการชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันที โดยร่วมมือกับธนาคารทั้งในจีน สิงคโปร์ ไทย และออสเตรเลีย

          การทดสอบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการเปิดใช้ gpi กับระบบภายในประเทศแบบเรียลไทม์ ทำให้การชำระเงินมีผลได้ในแทบจะทันทีแม้จะเกี่ยวข้องกับการหักชำระบัญชีในประเทศและธนาคารที่ไม่ได้รองรับ gpi ก็ตาม

          นับตั้งแต่เปิดให้บริการในปี 2560 ปัจจุบัน SWIFT gpi ได้ปรับปรุงพัฒนาและจัดการอุปสรรคจำนวนมากในการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยกว่า 50% ของการชำระเงินผ่าน gpi สามารถส่งถึงบัญชีผู้รับผลประโยชน์ปลายทางในเวลาเพียง 30 นาที และมีหลายรายการที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น เส้นทางการชำระเงินที่ทำเวลาได้ดีที่สุดเป็นเส้นทางจากธนาคารที่รองรับ gpi ในสิงคโปร์ ที่ส่งเงินไปยังบัญชีธนาคารที่รองรับ gpi ในออสเตรเลียโดยใช้เวลาเพียงเก้าวินาที ซึ่งถือได้ว่าเป็นการชำระเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์แล้วนั่นเอง

          อย่างไรก็ดีหากธุรกรรมการชำระเงินดังกล่าวเกี่ยวข้องกับหลายธนาคาร และยังต้องผ่านกระบวนการในประเทศผู้รับ ทำให้บางครั้งการชำระเงินภายในประเทศก็ล่าช้าด้วยเวลาทำการที่จำกัดของระบบหักชำระบัญชีในประเทศ

          แต่ด้วยระบบชำระเงินแบบเรียลไทม์ซึ่งปกติแล้วทำงานตลอด 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถขจัดอุปสรรคเหล่านี้ได้และทำให้การชำระเงินจำนวนมากส่งถึงบัญชีปลายทางภายในเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจากเดิมที่ต้องรอหลายชั่วโมง

          การเปิดตัวแพลตฟอร์มการชำระเงินรูปแบบใหม่หรือ New Payments Platform (NPP) ของออสเตรเลียซึ่งเป็นระบบชำระเงินแบบทันทีภายในประเทศ ทำให้ SWIFT และกลุ่มธนาคารในออสเตรเลีย จีน สิงคโปร์ และไทย* สามารถเริ่มศึกษาความเป็นไปได้ในการเปิดใช้บริการ gpi ใน NPP และพิจารณาว่าการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยเร่งกระบวนการชำระเงินระหว่างประเทศได้อย่างไร

          การทดสอบนี้มุ่งเน้นไปที่การหาคำตอบว่า หากประสานและเปิดใช้บริการในระบบชำระเงินแบบทันทีภายในประเทศ จะช่วยขยายประสิทธิภาพของ gpi ไปยังตลาดภายในประเทศและบัญชีผู้รับผลประโยชน์ปลายทางได้มากขึ้นหรือไม่ แม้เป็นธุรกรรมที่เกิดขึ้นนอกเวลาทำการปกติก็ตาม

          ผลทดสอบที่ได้รับยืนยันชัดเจนว่า ประสิทธิภาพของ SWIFT gpi ที่ "ชำระเงินได้สำเร็จในไม่กี่วินาที" สามารถทำงานต่อยอดผ่านระบบชำระเงินแบบเรียลไทม์ภายในประเทศได้อย่างราบรื่น โดยครอบคลุมถึงบัญชีธนาคารที่รองรับ NPP ทั้งหมด

          ข้อมูลที่น่าสนใจจากการทดสอบระบบ:

          - มีธนาคารเข้าร่วมทดสอบสิบสองแห่ง โดยธนาคารเก้าแห่งชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน SWIFT gpi ไปยังออสเตรเลีย และธนาคารสามแห่งในออสเตรเลียประมวลผลการชำระเงินภายในประเทศผ่าน NPP
          - การทดสอบครอบคลุมเส้นทางการชำระเงินระหว่างประเทศจำนวนสามเส้นทาง ได้แก่ จีน-ออสเตรเลีย สิงคโปร์-ออสเตรเลีย และไทย-ออสเตรเลีย
          - การทดสอบครั้งนี้ได้จำลองข้อกำหนดที่พบในสถานการณ์จริงอย่างครอบคลุม ซึ่งรวมถึงการตรวจสอบขั้นต้น การยืนยันการชำระเงิน การบริหารสภาพคล่อง การแปลงคำสั่งทางการเงิน และการปรับปรุงสถานะแบบเรียลไทม์ไปยัง SWIFT gpi Tracker
          - มีการยืนยันการขยายเวลาทำการด้วยการชำระเงินที่ได้รับซึ่งประมวลผลทั้งขณะอยู่ในและอยู่นอกเวลาทำการของออสเตรเลีย
          - การชำระเงินผ่าน SWIFT gpi ที่ให้ผลทดสอบที่เร็วที่สุดเป็นการส่งจากจีน ซึ่งมาถึงบัญชีผู้รับผลประโยชน์ปลายทางในออสเตรเลียผ่าน NPP ด้วยเวลาเพียง 18 วินาที
          - การทดสอบชำระเงินที่เร็วที่สุดทั้งจากสิงคโปร์และไทยทำเวลาได้เท่ากัน โดยไปถึงผู้รับผลประโยชน์ปลายทางในออสเตรเลียผ่าน NPP ด้วยเวลา 30 วินาที
          - การชำระเงินทั้งหมดที่ทดสอบใช้เวลาประมวลผลตั้งแต่ต้นจนจบภายในเวลา 60 วินาที

          คุณ Eddie Haddad กรรมการผู้จัดการของ SWIFT ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า: "ผลทดสอบเหล่านี้แสดงถึงปัจจัยเบื้องต้นที่สำคัญสองประการในการสร้างบริการชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีในภูมิภาค ประการแรกคือเราสามารถขยายช่วงเวลาการประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศนอกเวลาทำการปกติ ประการถัดมาคือการเชื่อมบริการชำระเงินระหว่างประเทศผ่าน SWIFT gpi กับระบบชำระเงินแบบเรียลไทม์ภายในประเทศ ทำให้เราสามารถบรรลุการชำระเงินระหว่างประเทศได้เร็วขึ้นผ่านสถาบันการเงินจำนวนมากขึ้น การเชื่อมโยงดังกล่าวบรรลุผลได้เพราะธนาคารที่ร่วมการทดสอบอย่างธนาคารเนชั่นแนลออสเตรเลียได้ประมวลผลการชำระเงินผ่าน SWIFT gpi ที่ได้รับในลักษณะการชำระเงินแบบทันทีผ่าน NPP"

          คุณ Paul Franklin ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายการชำระเงิน ธนาคารเนชั่นแนลออสเตรเลีย กล่าวว่า: "ธนาคารเนชั่นแนลออสเตรเลียภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้รับหน้าที่ผู้นำในการทดสอบระบบสาธิตการประมวลผลแบบทันทีครั้งล่าสุดของ SWIFT สำหรับธุรกรรมชำระเงินระหว่างประเทศผ่านแพลตฟอร์ม NPP เราได้แสดงให้เห็นว่าลูกค้าสามารถได้รับเงินภายในเวลาไม่กี่วินาทีและลดระยะเวลาการประมวลผลทั้งกระบวนการลงได้อย่างมาก นับเป็นโอกาสในการแสดงประสิทธิภาพของระบบหักชำระบัญชีตลอด 24 ชั่วโมงผ่าน NPP ที่เอื้อต่อการประมวลผลการชำระเงินระหว่างประเทศกับธนาคารอื่นที่อยู่นอกเวลาทำการของระบบ RTGS ดั้งเดิม ทำให้มีโอกาสขยายช่วงเวลาให้บริการได้นานขึ้นซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการชำระเงินที่มีต้นทางในเขตเวลาของเอเชีย ความสำเร็จของการทดสอบครั้งนี้มาจากความร่วมมือระหว่างธนาคารหลายแห่งที่มีวัตถุประสงค์ร่วมกันในการส่งมอบบริการชำระเงินที่ดีขึ้นแก่ลูกค้า"

          แม้การทดสอบเบื้องต้นจะเน้นไปที่การชำระเงินขาเข้าประเทศออสเตรเลียผ่านแพลตฟอร์ม NPP แต่ผลลัพธ์ที่ได้จะถูกนำไปใช้เพื่อกำหนดมาตรฐานการชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีรูปแบบใหม่ผ่าน SWIFT gpi ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการขยายตัวของธุรกรรมและสามารถผสานกับระบบชำระเงินแบบเรียลไทม์อื่นๆ ทั่วโลก ซึ่งขณะนี้ SWIFT กำลังหารือกับผู้ให้บริการและหน่วยงานควบคุมระบบชำระเงินแบบเรียลไทม์ภายในประเทศหลายระบบว่าจะสามารถเชื่อมเส้นทางการชำระเงินเหล่านั้นกับ gpi ได้อย่างไร บริการดังกล่าวจะใช้โครงสร้างระบบของ SWIFT gpi ที่มีอยู่เดิม และเพิ่มกฎเกณฑ์ทางธุรกิจเพื่อขจัดอุปสรรคในกระบวนการชำระเงินที่เกิดขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องลงทุนเพิ่มเติมกับโครงสร้างระบบชำระเงินระหว่างประเทศรูปแบบใหม่

          นับตั้งแต่เปิดตัวเมื่อเดือนมกราคม 2560 ได้มีการติดตั้ง SWIFT gpi อย่างรวดเร็วในสถาบันการเงินมากกว่า 270 แห่ง และในแต่ละวันมีการส่งข้อความทางการเงินผ่าน SWIFT gpi คิดเป็นมูลค่ามากกว่า 100 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยการชำระเงินผ่าน SWIFT gpi กว่าครึ่งหนึ่งส่งเงินถึงบัญชีผู้รับผลประโยชน์ปลายทางในเวลาไม่ถึง 30 นาที และมีหลายรายการที่ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น ขณะที่การชำเงินผ่าน gpi เกือบ 100% เสร็จสมบูรณ์ภายในเวลา 24 ชั่วโมง ปัจจุบันการชำระเงินของลูกค้าของ SWIFT มากกว่า 30% ดำเนินการผ่าน gpi และภายในสิ้นปี พ.ศ. 2563 ทาง SWIFT จะขยายคุณประโยชน์ของบริการ gpi แก่ธนาคารในเครือข่ายทั่วโลกทั้งหมดกว่า 10,000 แห่ง

          *ธนาคารที่เข้าร่วมทดสอบการชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีได้แก่ธนาคารเนชั่นแนลออสเตรเลีย ธนาคารเอเอ็นแซด ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารแห่งประเทศจีน ธนาคารเพื่อการก่อสร้างจีน ธนาคารคอมมอนเวลธ์ ธนาคารดีบีเอส ธนาคารไอซีบีซี ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และธนาคารยูโอบี

          สำหรับสื่อมวลชน - คำกล่าวจากธนาคารที่เข้าร่วมทดสอบระบบ:

          คุณ Luke Perkins หัวหน้าผู้บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ด้านบริการหักชำระบัญชี ธนาคารเอเอ็นแซด:
          "ผลทดสอบครั้งนี้เป็นที่ประจักษ์ว่า เราสามารถบรรลุผลการชำระเงินระหว่างประเทศได้ใกล้กับระดับเรียลไทม์อย่างสม่ำเสมอ นั่นหมายถึงลูกค้าของเราไม่เพียงได้รับบริการธุรกรรมชำระเงินที่เร็วขึ้น แต่ที่สำคัญกว่าก็คือความสามารถในการขจัดอุปสรรคด้านเขตเวลาได้อย่างเป็นรูปธรรม ทำให้เกิดอิสระในมิติแห่งการชำระเงินอย่างแท้จริง"

          คุณ Sun Shangbin รองผู้จัดการทั่วไป แผนกหักชำระบัญชี ธนาคารแห่งประเทศจีน:
          "ปัจจุบัน SWIFT ทำงานอย่างใกล้ชิดกับธนาคารทั่วโลกเพื่อสร้างบริการชำระเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ผ่านบริการ gpi และระบบการชำระเงินภายในประเทศแบบทันที บริการนี้จะช่วยเสริมประสิทธิภาพการชำระเงินระหว่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น มอบประสบการณ์ด้านบริการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพให้แก่ลูกค้า โดยธนาคารแห่งประเทศจีนถือเป็นหนึ่งในธนาคารแรกเริ่มที่มีส่วนร่วมในนวัตกรรม gpi และเราพร้อมเดินหน้าร่วมมือกับธนาคารอื่นๆ เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพและคุณภาพของบริการชำระเงินระหว่างประเทศให้ดียิ่งขึ้น"

          คุณ Albert Naffah ผู้จัดการทั่วไปฝ่ายแผนงานกลยุทธ์และการพัฒนาระบบชำระเงิน ธนาคารคอมมอนเวลธ์แห่งออสเตรเลีย:
          "การทดสอบระบบครั้งนี้แสดงให้เห็นว่าการเชื่อมระบบของ SWIFT, NPP และแพลตฟอร์มหลักแบบเรียลไทม์ของธนาคารของเราเข้าด้วยกัน ทำให้ลูกค้าได้รับเงินที่ชำระเข้ามายังบัญชีได้ภายในเวลาไม่ถึง 60 วินาที แพลตฟอร์มหลักแบบเรียลไทม์ระบบแรกของออสเตรเลียของธนาคารของเราช่วยให้ลูกค้าได้เตรียมตัวและได้ประโยชน์จากการพาณิชย์ทั่วโลกตลอด 24 ชั่วโมงโดยไม่มีวันหยุด"

          คุณ Atul Bhuchar หัวหน้ากลุ่มการชำระเงิน แผนกบริการธุรกรรมทั่วโลก ธนาคารดีบีเอส:
          "ธนาคารดีบีเอสยืนอยู่แถวหน้าของการปฏิวัติระบบชำระเงินมาโดยตลอด และความสำเร็จในการทดสอบครั้งนี้ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญในการมุ่งสู่การชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันที การทำงานร่วมกับ SWIFT ในแผนงานครั้งนี้ถือเป็นย่างก้าวเชิงรุกของเราที่ช่วยกำหนดกรอบการทำงานสำหรับการชำระเงินในระดับโลกและสร้างความแตกต่างครั้งใหม่ในการปฏิรูปเส้นทางการชำระเงินของลูกค้า"

          คุณ Peng Hua รองผู้จัดการทั่วไป แผนกการบริหารการปฏิบัติงาน ธนาคารไอซีบีซี:
          "ธนาคารไอซีบีซีมีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการทดสอบการชำระเงินระหว่างประเทศแบบทันทีของ SWIFT โดยเราตื่นเต้นกับผลลัพธ์ที่ได้และจะสานต่อการติดตั้งและส่งเสริมแผนงานครั้งนี้ให้เป็นจริง บริการดังกล่าวจะช่วยให้ลูกค้าของธนาคารไอซีบีซีได้รับบริการชำระเงินระหว่างประเทศที่ดีขึ้น ซึ่งรวมถึงการชำระเงินระหว่างประเทศที่รวดเร็วขึ้นและขยายช่วงเวลาเปิดให้บริการธุรกรรมได้ยาวนานยิ่งขึ้น"

          คุณศีลวัต สันติวิสัฎฐ์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย:
          "การชำระเงินผ่าน gpi ที่รวดเร็วขึ้นนำมาซึ่งการแข่งขันในธุรกิจบริการชำระเงินระหว่างประเทศ ทำให้เราเห็นทั้งธนาคารและตัวแทนในธุรกิจนี้ต่างแข่งขันกันเพื่อมอบความสะดวกและความรวดเร็วในช่องทางชำระเงิน การชำระเงินแบบเรียลไทม์กลายเป็นเรื่องปกติสำหรับการหักชำระบัญชีภายในประเทศ และผลการทดสอบครั้งนี้ก็ช่วยยืนยันว่าเราสามารถบรรลุผลลัพธ์ลักษณะเดียวกันกับธุรกรรมระหว่างประเทศได้ด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างมาก"

          คุณอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ รองผู้จัดการใหญ่อาวุโส และหัวหน้าผู้บริหารด้านผลิตภัณฑ์สินเชื่อรายย่อย การชำระเงินรายย่อย และการบริหารทรัพยากรอาคาร ธนาคารไทยพาณิชย์:
          "ธนาคารไทยพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญในด้านเทคโนโลยีนวัตกรรมและการพัฒนาบริการเพื่อทำให้ธนาคารกลายเป็นแพลตฟอร์มดิจิทัลที่หลากหลายและปฏิรูปประสบการณ์ทางการเงินให้ดีขึ้น ที่ผ่านมาเราได้มีส่วนร่วมในการทดสอบระบบร่วมกับ SWIFT เพื่อโอนเงินระหว่างประเทศแบบเรียลไทม์ นวัตกรรมนี้สอดคล้องอย่างลงตัวกับนโยบายด้านการชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลของเราโดยมีแพลตฟอร์มการชำระเงินรูปแบบใหม่ (NPP) ที่ช่วยเร่งความเร็วของธุรกรรมชำระเงินของธนาคาร บริการใหม่นี้จะช่วยมอบประสิทธิภาพในการโอนเงินระหว่างประเทศ และทำให้สามารถรับและส่งเงินได้เกือบระดับเรียลไทม์ อีกทั้งยังช่วยมอบบริการที่ดีขึ้นแก่ลูกค้า ทั้งผู้ที่ทำงานในต่างประเทศ เช่น สิงคโปร์หรือมาเลเซีย และผู้ที่ต้องการส่งเงินกลับบ้าน หรือส่งเงินเพื่อชำระค่าเล่าเรียน ธุรกิจอีคอมเมิร์ช หรือธุรกิจนำเข้าและส่งออกของเอสเอ็มอี"

          คุณ Shirish Wadivkar กรรมการผู้จัดการและผู้บริหารระดับโลกกลุ่มผลิตภัณฑ์ธนาคารตัวแทน ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด:
          "การเชื่อมเครือข่ายการชำระเงินภายในแบบเรียลไทม์รูปแบบใหม่โดยใช้ SWIFT gpi ทำให้เราสามารถมอบการชำระเงินระหว่างประเทศได้อย่างรวดเร็วขึ้นแก่ลูกค้าของเราภายใต้มาตรฐาน gpi อันน่าเชื่อถือทั้งในด้านความโปร่งใส การให้ข้อมูลการชำระเงินที่ครบถ้วน และการติดตามธุรกรรมได้ในทุกขั้นตอน เงินทุนระหว่างประเทศที่ทันเวลามอบประโยชน์แก่ลูกค้าของเราทุกประเภท ทั้งลูกค้ารายย่อย ธุรกิจพาณิชย์ ตลอดจนองค์กรและสถาบันต่างๆ และพวกเราที่ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดซึ่งเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้ง SWIFT gpi เชื่อว่า นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น"

          คุณ Frederick Chin กรรมการผู้จัดการและหัวหน้าผู้บริหารกลุ่มการธนาคารสำหรับลูกค้ารายใหญ่ ธนาคารยูโอบี:
          "ธนาคารยูโอบีมีส่วนร่วมในการทดสอบแผนงานระบบ gpi แบบเรียลไทม์ของ SWIFT ซึ่งแสดงถึงความมุ่งมั่นของเราในการมอบโซลูชันทางการเงินที่ไร้พรมแดน น่าไว้วางใจ มีประสิทธิภาพ และบรรลุผลอย่างดีเยี่ยมแก่ลูกค้าของเรา การใช้เวลาประมวลผลธูรกรรมลดลงจากระดับวันเหลือเพียงระดับวินาทีทำให้ลูกค้าสามารถบริหารกระแสเงินสดและเงินทุนหมุนเวียนได้ดีขึ้นภายใต้ความแน่นอนที่มากขึ้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจและทางการเงินระหว่างประเทศของลูกค้าของเรา"

          ข้อมูลเกี่ยวกับ SWIFT gpi

          นวัตกรรมการชำระเงินระดับโลกจาก SWIFT (SWIFT gpi) ถือเป็นมาตรฐานใหม่และเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านการชำระเงินระหว่างประเทศครั้งใหญ่ที่สุดในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา โดย SWIFT gpi ช่วยยกระดับประสบการณ์ด้านการชำระเงินระหว่างประเทศแก่ลูกค้าได้อย่างมาก ทั้งในด้านความเร็ว ความโปร่งใส และการติดตามสถานะตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ปัจจุบันมีธุรกรรมด้านการชำระเงินระหว่างประเทศหลายแสนรายการที่ใช้มาตรฐาน gpi แบบใหม่ ทำให้ธุรกรรมเสร็จสิ้นในเวลาที่เร็วขึ้น จากหลายนาทีเหลือเพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น

          SWIFT gpi มอบบริการที่เหนือกว่าให้แก่ธุรกิจและองค์กรต่างๆ ด้วยคุณสมบัติหลักอันโดดเด่นดังนี้:

          - ผู้รับเงินที่เป็นสมาชิก gpi สามารถใช้เงินได้เร็วขึ้นภายในวันเดียวกันตามเขตเวลาของผู้รับเงิน
          - ค่าธรรมเนียมที่โปร่งใส
          - ติดตามสถานะได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง
          - มั่นใจได้ว่าข้อมูลการจ่ายชำระเงินจะปลอดภัยและไร้ซึ่งการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ

          SWIFT gpi ถือเป็นการริเริ่มครั้งใหม่ที่ผสานความร่วมมือกับธนาคารและชุมชนฟินเทคทั่วโลก เพื่อสร้างสรรค์นวัตกรรมในด้านการชำระเงินระหว่างประเทศและการลดค่าใช้จ่ายหลังบ้านขององค์กรต่างๆ โดยนับตั้งแต่เปิดให้บริการเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2560 วันนี้ gpi ได้มอบประสบการณ์ด้านการชำระเงินระหว่างประเทศที่ดีขึ้นให้แก่องค์กรต่างๆ ผ่านเส้นทางการชำระเงินมากกว่า 700 ประเทศทั่วโลก คุณสมบัติอันโดดเด่นของบริการ gpi สามารถรองรับกฎเกณฑ์ทางธุรกิจได้มากขึ้น และมีฐานข้อมูลการติดตามธุรกรรมอันปลอดภัยบนระบบคลาวด์ที่สามารถเชื่อมต่อได้ผ่าน API

          ดังนั้น SWIFT gpi จึงช่วยให้องค์กรต่างๆ เติบโตและต่อยอดธุรกิจระหว่างประเทศได้ดีขึ้น ยกระดับความสัมพันธ์กับผู้ค้า และมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการบริหารการเงิน ทั้งนี้กว่า 50% ของการชำระเงินผ่าน SWIFT gpi จะส่งถึงบัญชีผู้รับผลประโยชน์ภายใน 30 นาที และเกือบ 100% จะเสร็จสิ้นภายใน 24 ชั่วโมง โดยธุรกรรมที่ใช้ระยะเวลานานกว่าปกติมักเกี่ยวข้องกับการแปลงสกุลเงินต่างประเทศอันซับซ้อน มีการตรวจสอบธุรกรรมตามข้อกำหนด หรือต้องรออนุมัติจากหน่วยงานกำกับ

          ปัจจุบันมีสถาบันการเงินมากกว่า 270 แห่งที่ได้ติดตั้ง gpi แล้ว และมีโครงสร้างพื้นฐานของตลาดการชำระเงินมากกว่า 55 ระบบที่แลกเปลี่ยนการชำระเงินผ่าน gpi ทำให้สามารถแลกเปลี่ยนและติดตามธุรกรรมในประเทศได้ทุกจุด โดยโครงสร้างพื้นฐานของตลาดการชำระเงินมีบทบาทสำคัญในการติดตามธุรกรรมการชำระเงินระหว่างประเทศตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง เพราะทันทีที่การชำระเงินส่งไปถึงประเทศปลายทาง โดยปกติมักจะดำเนินการผ่านโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงินในประเทศนั้นๆ

          ข้อมูลเกี่ยวกับ SWIFT

          SWIFT เป็นผู้ให้บริการรับและส่งข้อความทางการเงินที่ปลอดภัยระดับแนวหน้าของโลก ภายใต้รูปแบบองค์กรที่มีสมาชิกทั่วโลกเป็นเจ้าของร่วมกัน เรามอบแพลตฟอร์มการรับและส่งข้อความทางการเงิน การกำหนดมาตรฐานการสื่อสาร ตลอดจนผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ให้แก่สมาชิก เพื่ออำนวยความสะดวกในการเข้าถึงและบูรณาการ การระบุตัวตน การวิเคราะห์ และการยึดปฏิบัติตามระเบียบด้านอาชญากรรมทางการเงิน

          แพลตฟอร์มการรับและส่งข้อความทางการเงิน ผลิตภัณฑ์ และบริการของเรา ได้เชื่อมต่อกับธนาคาร สถาบันด้านหลักทรัพย์ หน่วยงานโครงสร้างพื้นฐานภาคการเงิน และลูกค้าองค์กรกว่า 11,000 แห่ง ในมากกว่า 200 ประเทศและเขตปกครอง และแม้ SWIFT จะไม่ได้เป็นผู้จัดเก็บเงินหรือจัดการบัญชีในนามของลูกค้า แต่เราช่วยให้ชุมชนผู้ใช้บริการทั่วโลกสามารถสื่อสารข้อมูลระหว่างกันได้อย่างปลอดภัย เกิดการแลกเปลี่ยนข้อความทางการเงินที่ได้มาตรฐานและไว้วางใจได้ อันเป็นการส่งเสริมธุรกรรมทางการเงินทั้งในระดับโลกและในระดับประเทศ อีกทั้งยังช่วยส่งเสริมให้เกิดการค้าขายและการพาณิชย์ทั่วโลกด้วย

          เราแสวงหาความเป็นเลิศในการดำเนินงานอย่างไม่หยุดนิ่งในฐานะผู้ให้บริการที่ได้รับความไว้วางใจจากสถาบันและองค์กรต่างๆ นอกจากนี้เรายังให้ความช่วยเหลือสมาชิกในการแจ้งเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามทางไซเบอร์ และมองหาแนวทางในการลดต้นทุน ลดภาวะความเสี่ยง และขจัดกระบวนการอันไร้ประสิทธิภาพออกไป ผลิตภัณฑ์และบริการของเราช่วยส่งเสริมสมาชิกในกลุ่มในด้านต่างๆ ทั้งการเข้าถึงและผสานข้อมูล บรรลุเป้าหมายด้านระบบธุรกิจอัจฉริยะ มอบข้อมูลอ้างอิง และมอบเกณฑ์ปฏิบัติด้านอาชญากรรมทางการเงิน ขณะเดียวกัน SWIFT ยังช่วยให้เกิดการรวมกลุ่มในภาคอุตสาหกรรมทางการเงิน ทั้งในระดับโลก ระดับภูมิภาค และระดับประเทศ เพื่อกำหนดวิธีปฏิบัติในตลาด สร้างมาตรฐาน และหารือประเด็นปัญหาหรือผลประโยชน์ร่วมของทุกฝ่าย SWIFT ยังมีแผนยุทธศาสตร์ 5 ปี อย่าง SWIFT2020 ที่มุ่งท้าทายการลงทุนด้านระบบรักษาความปลอดภัย ความน่าเชื่อถือ และการเติบโตของแพลตฟอร์มหลักในการรับและส่งข้อความทางการเงิน ขณะเดียวกันก็ยังลงทุนเพิ่มเติมในบริการที่มีอยู่ปัจจุบันและการส่งมอบบริการใหม่ที่สร้างสรรค์ให้ดียิ่งขึ้นด้วย

          สำนักงานใหญ่ของ SWIFT ตั้งอยู่ที่ประเทศเบลเยียม โดยธรรมาภิบาลและการสอดส่องดูแลในระดับสากลของ SWIFT ได้ช่วยตอกย้ำถึงความเป็นกลางและเป็นสากลภายใต้โครงสร้างความร่วมมือระหว่างกัน ในขณะที่เครือข่ายสำนักงานทั่วโลกของ SWIFT ได้มอบความครอบคลุมศูนย์กลางทางการเงินที่สำคัญทุกแห่ง

          กรุณาดูข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก www.swift.com หรือติดตามข้อมูลผ่านทาง Twitter: @swiftcommunity และ LinkedIn: SWIFT