มหกรรม IPTE ถูกจัดขึ้นด้วยความร่วมมือระหว่าง Shanghai Commerce Association, Shanghai Food Association และ Shanghai Internet of Things Industry Association โดยมีองค์กรชั้นนำกว่า 70 แห่งนำโซลูชั่นการตรวจสอบย้อนกลับมาร่วมจัดแสดงภายในงาน ซึ่งรวมถึงเหล่าผู้นำในอุตสาหกรรม อาทิ Shanghai Vegetable Group, Hema Fresh Market (บริษัทในเครือ Alibaba Group) และ Shanghai Pharmaceutical Co., Ltd. ที่มาสาธิตแนวคิดการค้าปลีกแบบใหม่ พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีการตรวจสอบย้อนกลับสุดล้ำสมัยในงานนี้ด้วย
ในฐานะที่เป็นผู้นำในตลาดและอุตสาหกรรมด้านการบูรณาการเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ากับสถานการณ์ธุรกิจในโลกจริง เพื่อพัฒนากระบวนการตรวจสอบย้อมกลับให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น VeChain จึงได้รับเชิญให้มาร่วมงาน IPTE พร้อมกับพันธมิตรของบริษัทอีกหลายราย อาทิ DNV GL, D.I.G. และ Norway in a Box โดยในงานดังกล่าว VeChain ได้นำเอาโซลูชั่น ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ ที่สร้างขึ้นจาก VeChain ToolChain รวมถึง โซลูชั่น My Story(TM) ซึ่งเป็นโซลูชั่นด้านการรับประกันด้วยระบบดิจิทัลที่บริษัทได้พัฒนาขึ้นร่วมกับ DNV GL มานำเสนอด้วย
สำหรับ VeChain ToolChain ซึ่งเป็นแพลตฟอร์ม BaaS แบบวันสต็อปสุดล้ำที่ขึ้นสร้างบน VeChainThor Blockchain นั้น มีให้เลือก 3 เวอร์ชั่น ได้แก่ เวอร์ชั่นมาตรฐาน, เวอร์ชั่นสำหรับนักพัฒนา และเวอร์ชั่นสำหรับพันธมิตร โดยแต่ละเวอร์ชั่นจะประกอบด้วย ชุดของฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ และโปรโตคอล ที่จำเป็นต่อการรวมธุรกิจเข้าไว้กับ VeChainThor Blockchain
VeChain ToolChain จะช่วยให้ธุรกิจ SME และบุคคลที่ไม่มีพื้นฐานด้านเทคนิค สามารถผสานรวมเทคโนโลยีบล็อกเชนที่ล้ำสมัยเข้ากับธุรกิจได้ในทันที และยิ่งไปกว่านั้น VeChain ToolChain ยังสนับสนุนการใช้งานที่เป็นอิสระและสามารถปรับแต่งในหลายมิติ เพื่อให้เหมาะสมกับธุรกิจและการใช้งานที่หลากหลาย ในขณะเดียวกันพันธมิตรทั้งหลายของบริษัทก็ล้วนมีความยืดหยุ่นและมีอิสระในการพัฒนาโซลูชั่นที่ขับเคลื่อนด้วยบล็อกเชนและสามารถปรับแต่งได้ ผ่านการใช้งาน ToolChain เวอร์ชันสำหรับพันธมิตร เพื่อแก้ปัญหาธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีขึ้นกว่าเดิม
แอปพลิเคชันของ VeChain ToolChain ได้สร้างมูลค่าที่แท้จริงให้กับธุรกิจและองค์กรต่าง ๆ มาแล้วมากมาย ดังจะเห็นได้จากตัวอย่างของ D.I.G. ที่นำแพลตฟอร์ม Wine Traceability Platform (WTP) ซึ่งเกิดจากการพัฒนาร่วมกันระหว่าง VeChain และ D.I.G. มาจัดแสดงในงานนี้ โดย D.I.G. ระบุว่า ผลิตภัณฑ์ที่อยู่บนแพลตฟอร์ม WTP ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการจัดการห่วงโซ่อุปทาน ซึ่งจากข้อมูลทางสถิติพบว่า ผลิตภัณฑ์เหล่านั้นยอดขายเพิ่มขึ้นถึง 10% ในช่วงแรกที่มีการเปิดตัวผ่าน WTP
ขณะเดียวกัน My Story(TM) ซึ่งถูกใช้โดยโรงงานผลิตไวน์สัญชาติอิตาลี 3 แห่ง อย่าง Ricci Curbastro, Ruffino และ Torrevento ก็เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการที่ VeChain ToolChain เข้าไปช่วยเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจให้อย่างแท้จริง สำหรับแพลตฟอร์ม My Story(TM) นี้เป็นส่วนผสมระหว่างบล็อกเชน, เทคโนโลยี IoT และการตรวจสอบบุคคลที่ 3 ที่มาผสานรวมกัน อีกทั้งยังให้ความช่วยเหลือองค์กรทั้งหลายในการเก็บรวบรวมข้อมูล ออกรหัสสินค้า แบ่งปันเรื่องราวของผลิตภัณฑ์ ตลอดจนดำเนินการตรวจสอบ และจัดเก็บข้อมูลสำคัญไว้ได้ จึงทำให้องค์กรต่าง ๆ สามารถจัดการห่วงโซ่อุปทานได้อย่างยั่งยืนและโปร่งใสมากกว่าเดิม
นอกจากนี้ My Story(TM) ยังช่วยสร้างและยกระดับความเชื่อมั่นและภักดีของผู้บริโภคผ่านผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นให้กับแบรนด์ โดยบริษัทต่าง ๆ สามารถแบ่งปันฟีเจอร์และข้อมูลผลิตภัณฑ์ผ่านทาง My Story(TM) ได้ ไม่ว่าจะเป็น ในเรื่องคุณภาพ, ความรับผิดชอบต่อสังคม, สิ่งแวดล้อม หรือแม้แต่ประเด็นด้านจริยธรรม ด้วยการสแกนผลิตภัณฑ์โดยใช้แท็ก NFC และรหัสคิวอาร์โค้ด จึงทำให้ผู้บริโภคสามารถเข้าถึงเรื่องราวของแบรนด์และข้อมูลของผลิตภัณฑ์ได้ในทันที ซึ่งจะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเขาเป็นอย่างมาก
โซลูชั่นและผลิตภัณฑ์ที่ VeChain และพันธมิตรนำมาจัดแสดงในมหกรรม IPTE ได้รับเสียงตอบรับเป็นอย่างดีจากบรรดาผู้มาร่วมงาน ในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ VeChain ถือเป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาการใช้งานบล็อกเชนในโลกจริง และเพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจอย่างแท้จริง และในอนาคตข้างหน้า VeChain จะยังคงมุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศที่มีการใช้งานบล็อกเชนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกคน ควบคู่ไปกับการเร่งให้มีการใช้งานเทคโนโลยีบล็อกเชนเพิ่มมากขึ้นไปพร้อม ๆ กัน
เกี่ยวกับ VeChain
VeChain เปิดตัวในปี 2558 เพื่อเชื่อมโยงเทคโนโลยีบล็อกเชนกับโลกแห่งความเป็นจริง ด้วยการวางโครงสร้างการบริหารครบวงจร โมเดลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง และการบูรณาการ IoT ทั้งนี้ VeChain เป็นผู้บุกเบิกการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนสาธารณะในโลกแห่งความเป็นจริง และมีการดำเนินงานทั่วโลก ทั้งในสิงคโปร์ ลักเซมเบิร์ก โตเกียว เซี่ยงไฮ้ ปารีส ฮ่องกง และซานฟรานซิสโก
ความร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง PwC และ DNV GL ทำให้เราสามารถสร้างความสัมพันธ์กับองค์กรชั้นนำมากมายในหลายหลากอุตสาหกรรม อาทิ Walmart China, BMW, BYD. Auto, Haier, Bright Food, D.I.G, DB Schenker และ PICC
No comments:
Post a Comment