“แซดทีอี” อวดโฉมสมาร์ทโฟนสุดล้ำ ZTE Axon 10 Pro 5G ที่งานเวียนนา แฟชั่น วีค 2019

          บริษัท แซดทีอี (0763.HK / 000063.SZ) ผู้ให้บริการรายใหญ่ของโลกด้านโซลูชั่นโทรคมนาคมและเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตมือถือสำหรับองค์กรธุรกิจและผู้บริโภค อวดโฉม ZTE Axon 10 Pro 5G สมาร์ทโฟน 5G เครื่องแรกในออสเตรีย ที่งานเวียนนา แฟชั่น วีค 2019 ซึ่งจัดขึ้นที่บริเวณหน้าพิพิธภัณฑ์การ์ติเยร์ (MuseumsQuartier) เป็นครั้งที่ 11 แล้ว โดยแซดทีอีได้โชว์สมาร์ทโฟนสุดล้ำของบริษัทร่วมกับการแสดงคอลเลคชั่นจากแบรนด์ดังระดับโลกและดีไซเนอร์ราว 70 คนบนแคทวอล์ค หลังจากที่สมาร์ทโฟน ZTE Axon 10 Pro Series ได้รับการเปิดตัวในออสเตรียอย่างเป็นทางการมาแล้วเมื่อช่วงต้นเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ด้วยความร่วมมือกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมรายใหญ่ 3 รายในประเทศ ตลอดจนร้านค้าและร้านออนไลน์ชั้นนำ โดยในงานแฟชั่นวีคครั้งนี้ ผู้ร่วมงานทุกท่าน ทั้งดีไซเนอร์ ครีเอทีฟ บล็อกเกอร์ และบรรดาผู้รักแฟชั่น ต่างพบว่า ZTE Axon 10 Pro 5G มีความชิคแบบที่ไม่ต้องพยายาม และสามารถสร้างช่วงเวลาอันน่าจดจำบนเวทีระดับโลกแห่งนี้ได้ เพราะสมาร์ทโฟนเครื่องนี้รวมไว้ทั้งแฟชั่น เทรนด์ และไลฟ์สไตล์ที่มาพร้อมกับกล้อง AI Triple Camera นอกจากนี้ยังถือเป็นโอกาสดีอย่างยิ่งที่ผู้เข้าร่วมงานแฟชั่นวีคจะได้ประจักษ์กับความสามารถพิเศษของ ZTE Axon 10 Pro 5G และแวะไปที่บูธของ ZTE เพื่อสำรวจเทคโนโลยีและประสบการณ์ 5G มากขึ้น เนื่องจาก ZTE เป็นพันธมิตรโทรศัพท์มือถือเพียงรายเดียวของงานเวียนนา แฟชั่น วีค

          ความงามที่มาพร้อมกับนวัตกรรม

          'ความเก๋ไก๋แบบไม่ต้องพยายาม & พลังแห่งหญิงสาวตลอดกาล' คือหัวใจสำคัญของแบรนด์ Emma Sweet องค์ประกอบของดีไซน์ที่ไม่มากไม่น้อยไปนี้ นอกจากจะรังสรรค์ความงามเฉพาะตัวแล้ว ยังสามารถหลอมรวมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน ซึ่งการจัดวางองค์ประกอบดีไซน์ที่น่าประทับใจนี้เห็นได้อย่างชัดเจนในสมาร์ทโฟนรุ่น ZTE Axon Pro 5G ด้วยเช่นกัน" Emma Sweet แฟชั่นดีไซเนอร์ กล่าว ซึ่งในที่นั่งแถวหน้า บรรดาแขกพิเศษ อาทิ Ana Barros อดีตสถาปนิกและอินฟลูเอนเซอร์ได้บันทึกช่วงเวลาที่สวยงามที่สุดด้วย ZTE Axon 10 Pro 5G "ZTE Axon 10 Pro 5G เป็นตัวเลือกที่ดี เพราะให้ผลลัพธ์สุดประทับใจด้วยกล้อง AI Triple Camera ดิฉันรู้สึกทึ่งมากๆ กับคุณภาพของเลนส์ซูมแบบออปติคอล ด้วยเลนส์โฟกัสยาว ดิฉันจึงสามารถเก็บทุกรายละเอียดได้โดยไม่มีปัญหา และถ่ายภาพสำคัญของโชว์นี้ไว้ได้" Ana Barros กล่าวชม "นอกเหนือจากทั้งหมดที่กล่าวมาแล้ว ZTE Axon 10 Pro 5G ยังสามารถดึงดูดฉันได้ด้วยรูปลักษณ์ภายนอก กรอบแก้วที่ทำด้วยกระจก และพื้นผิวที่เป็นประกายชิมเมอร์แบบกระจก ทำให้สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ดูเลอค่ามาก อีกทั้งกระจกหน้าจอขอบโค้งแบบยืดหยุ่น และรูปทรงหยดน้ำ ทำให้สามารถจับได้ถนัดมือมาก ดิฉันตั้งตารอคอยยุค 5G และจะเก็บประสบการณ์พิเศษสุดนี้ด้วยอุปกรณ์ 5G ที่น่าทึ่งอย่าง ZTE Axon 10 Pro 5G" ซึ่งผู้เข้าชมทุกท่านมีโอกาสได้สัมผัสกับสมาร์ทโฟนรุ่นเรือธงในเครือข่าย 5G และทดสอบการใช้งานด้วยตัวเอง

          ZTE Axon 10 Pro 5G มีจุดเด่นที่หน้าจอ AMOLED ขนาด 6.47 นิ้ว ซึ่งมีคุณสมบัติที่เหนือกว่าหน้าจอแบบเดิมๆ อย่างเห็นได้ชัดในแง่ของคอนทราสต์ ระดับแสดงผลสีดำ (black level) และมุมมองของการแสดงผล (viewing angle) สมาร์ทโฟนรุ่นนี้ยังมาพร้อมกับรอยบาก (notch) รูปหยดน้ำ ระบบเซ็นเซอร์ด้วยลายนิ้วมือบนหน้าจอ และกล้อง AI Triple Camera ที่ทรงอานุภาพ ซึ่งกล้อง 3 ตัวทำหน้าที่ให้ระยะความยาวของโฟกัสที่แตกต่างกัน นอกจากกล้องหลัก 48MP ที่มีรูรับแสง f/1.7 และเลนส์ 6P แล้ว สมาร์ทโฟน 5G รุ่นนี้ยังมีเลนส์มุมกว้างพิเศษ 125 องศา ที่มีเซ็นเซอร์ 20MP และกล้องเทเลโฟโต้ 8MP พร้อมรูรับแสง f/2.4 ซึ่งสอดคล้องกับเลนส์ซูมออปติคอล

          มุ่งมั่นสู่การยกระดับเครือข่าย 5G ในตลาดท้องถิ่น

          แซดทีอีได้สร้างชื่อเสียงในฐานะผู้บุกเบิกเครือข่าย 5G ในตลาดระดับโลกและตลาดระดับท้องถิ่น โดยในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา แซดทีอี และ Hutchison Drei Austria ได้จับมือเป็นพันธมิตรกันเพื่อพัฒนาและวางเครือข่าย 5G เครือข่ายแรกของออสเตรียให้แก่ลูกค้าองค์กรธุรกิจในเมืองลินซ์ ซึ่งแซดทีอี และ Hutchison Drei Austria ได้ขยายเครือข่าย 5G ครอบคลุมทั้งเมืองของออสเตรียเป็นครั้งแรกในประวัติการณ์ และในเดือนส.ค. Hutchison Drei Austria และแซดทีอี ได้สร้างเครือข่ายไร้สายที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาค DACH โดยแซดทีอีได้ร่วมมือกับ Hutchison Drei Austria มาตั้งแต่ปี 2010 และจะอัพเกรดเครือข่ายเป็น 5G อย่างราบรื่น สมาร์ทโฟน ZTE Axon 10 Pro 5G บนเครือข่าย 5G ที่ทันสมัยจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะแสดงให้เห็นศักยภาพแบบ end-to-end บนเครือข่าย 5G ที่แข็งแกร่งของแซดทีอีในตลาดระดับท้องถิ่น แซดทีอีดำเนินการเชิงรุกในระบบนิเวศเครือข่าย 5G และจะร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อเร่งผลักดันขั้นตอนการพัฒนาเทอร์มินัลเครือข่าย 5G ให้เป็นเชิงพาณิชย์ ปัจจุบัน แซดทีอีได้ร่วมมือติดตั้งเทอร์มินัลเครือข่าย 5G กับผู้ให้บริการกว่า 20 รายทั่วโลก