Friday, April 23, 2021

SodaStream จับมือ Randi Zuckerberg ผู้เชี่ยวชาญด้านโซเชียลมีเดีย เปิดตัวแคมเปญ "Don't Just Share, Care" เนื่องในวันคุ้มครองโลก ตอกย้ำเป้าหมายด้านความยั่งยืนเพื่อสิ่งแวดล้อม

 แบรนด์ซึ่งใส่ใจในด้านสิ่งแวดล้อมกระตุ้นให้ผู้คนหันมาลงมือทำเพื่อโลก แทนการแสดงความห่วงใยบนโซเชียลมีเดีย พร้อมดำเนินตามพันธกิจของบริษัท อันรวมถึงการลดใช้ขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวให้ได้ 7.8 หมื่นล้านใบในปี 2568

คฟาร์ ซาบา, อิสราเอล--22 เม.ย.--พีอาร์นิวส์ไวร์/อินโฟเควสท์

SodaStream ประกาศแคมเปญ "Don't just share, care" เนื่องในวันคุ้มครองโลกประจำปี 2564 ร่วมกับ Randi Zuckerberg โดยแบรนด์ได้ถ่ายทอดประเด็นด้านสิ่งแวดล้อมที่สำคัญตามคุณค่าที่ SodaStream เชื่อมั่นด้วยอารมณ์ขัน โดยมี Randi Zuckerberg มาร่วมด้วย เพื่อเรียกร้องให้ผู้คนไม่เพียงแค่ใส่ใจในโลกออนไลน์บนโซเชียลมีเดียเท่านั้น แต่ยังเชิญชวนให้ลงมือปฏิบัติจริง โดยในตอนท้ายวิดีโอ Randi ได้แนะนำแพลตฟอร์มสำหรับชุมชนที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ SodaStream ใช้ในการเผยแพร่พันธกิจด้านสิ่งแวดล้อมของบริษัทผ่านทางเว็บไซต์ SodaStream.com

การสานต่อพันธกิจเพื่อลดขยะพลาสติก

ขวดบรรจุภัณฑ์ของ SodaStream ที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้นั้น ถือเป็นทางเลือกทดแทนขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียว โดยทางแบรนด์คาดการณ์ว่า จะช่วยลดการใช้ขวดได้เกือบ 78,000 ล้านใบภายในปี 2568 ซึ่งเพิ่มขึ้นจากเป้าหมายเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งอยู่ที่ 11,000 ล้านใบ

นอกจากนี้ SodaStream ยังจะเปลี่ยนขวดไซรัปรสต่างๆ เป็นขวดโลหะ โดยจะเริ่มในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งจะช่วยลดการใช้ขวดพลาสติกลงได้อีก 200 ล้านใบ

SodaStream ได้ประกาศว่า บริษัทกำลังพัฒนาเครื่องทำน้ำโซดาโดยใช้วัสดุที่รีไซเคิลได้หรือผลิตจากพืชขึ้นเป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการเดินตามแนวทางพันธกิจด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกในธุรกิจหลัก เพื่อให้กลุ่มธุรกิจทั้งหมดของบริษัทนั้นเป็นธุรกิจที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม

"เครื่องทำน้ำโซดาของเรามีความยั่งยืนอย่างแท้จริง ผู้ใช้งาน SodaStream ทุกคนสามารถช่วยลดขยะจากขวดพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวลงได้ เรากำลังทำตามพันธกิจด้วยการเปิดตัวเครื่องทำน้ำโซดาที่ผลิตจากวัสดุที่ยั่งยืน" คุณ Eyal Shohat ซีอีโอระดับโกลบอลของ SodaStream กล่าว

ทั้งนี้ ผลสำรวจ* เมื่อเร็วๆ นี้ที่จัดทำโดยบริษัทบ่งชี้ว่า ลูกค้า SodaStream 84% ตระหนักถึงการสร้างการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อโลก และลดการใช้ขวดแบบใช้ครั้งเดียว ส่วนอีกเกือบ 80% รู้สึกตระหนักต่อความสำคัญของสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

การลดรอยเท้าคาร์บอน

SodaStream มีแผนที่จะนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ให้ได้ 10% ของความต้องการใช้พลังงานในโรงงานทั่วโลกของบริษัทภายในปี 2565 เพิ่มขึ้นจากระดับ 2% เมื่อปี 2563 หรือคิดเป็น 5 เท่า

SodaStream ยังสนับสนุนเป้าหมายของ PepsiCo ในการเปลี่ยนแปลงการดำเนินงานทั่วโลกของบริษัทไปสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนให้ได้ 100% ภายในปี 2573 ผ่านการลงทุนดังที่กล่าวมา นอกจากนี้ PepsiCo ยังให้คำมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกลงให้เหลือศูนย์ในปี 2583 ซึ่งเร็วกว่าเป้าหมายของความตกลงปารีสหนึ่งทศวรรษ

Fizzi Starter Kit และ Duo Starter Kit ของ SodaStream ได้รับการรับรองว่าช่วยลดคาร์บอนโดยองค์กร Carbon Trust การรับรองนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของ SodaStream ที่มีต่อสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และยังเอื้อให้ SodaStream สามารถมุ่งเน้นไปที่ด้านสำคัญในห่วงโซ่คุณค่าของผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้บริษัทสามารถดำเนินการและลดรอยเท้าคาร์บอนในภาพรวมได้

การดำเนินงานส่วนอื่นๆ ของบริษัท

SodaStream ได้ประกาศปิดสำนักงานในวันคุ้มครองโลกและเชิญชวนให้พนักงานเข้าร่วมกิจกรรมทำความสะอาดพร้อมกันทั่วโลก โดยพิจารณาตามความเหมาะสมตามมาตรการควบคุมโควิด-19

SodaStream ยังร่วมกับมูลนิธิ PangeaSeed ซึ่งเป็นองค์กรด้านการอนุรักษ์ท้องทะเล ด้วยการบริจาคเงินให้กับมูลนิธิเพื่อนำไปใช้ในด้านการศึกษาและการปลูกฝังจิตสำนึกต่อสิ่งแวดล้อม

*ผลสำรวจความคิดเห็นผู้ใช้งาน SodaStream ในสหรัฐ 600 คน (.. 2564) จัดทำโดย Opeepl

เกี่ยวกับ SodaStream

SodaStream ในเครือ PepsiCo เป็นแบรนด์โซดาชั้นนำระดับโลก ซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคเอร็ดอร่อยไปกับน้ำโซดาคุณภาพได้อย่างง่ายดายและไม่จำกัด ทั้งยังช่วยกู้โลก เครื่องทำโซดาของ SodaStream เป็นทางเลือกที่ดีกว่าสำหรับผู้บริโภค เพราะทั้งดีต่อสุขภาพ ทำง่าย พกพาสะดวก และเป็นมิตรกับโลก ช่วยลดปริมาณขวดพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้งได้กว่าหลายพันชิ้นด้วยการใช้ขวด SodaStream ที่ใช้ซ้ำได้เพียงแค่ขวดเดียว ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SodaStream ได้ที่ www.SodaStream.com และติดตาม SodaStream ได้ทาง FacebookTwitterInstagram และ YouTube

No comments:

Post a Comment