จุดประกายสร้างอนาคตดิจิทัล
บริษัทร่วมหุ้น แยงซี ออปติคัล ไฟเบอร์ แอนด์ เคเบิล จำกัด (Yangtze Optical Fibre and Cable Joint Stock Limited Company) หรือวายโอเอฟซี (YOFC) ร่วมปรากฏตัวในงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส (Mobile World Congress หรือ MWC) ประจำปี 2566 ที่เซี่ยงไฮ้ ณ บูธหมายเลข N2.B10 เพื่อจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันล้ำสมัยในธีม "จุดประกายสร้างอนาคตดิจิทัล" (Lighting up the Digital Future) การจัดแสดงสินค้าครั้งนี้ครอบคลุมหลากหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นใยแก้วนำแสงและวัสดุใหม่ โครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายประมวลผล การสื่อสารทางทะเล การผลิตแบบดิจิทัลและอัจฉริยะ พลังดิจิทัล การขนส่งแบบดิจิทัล และชีวิตดิจิทัลยุค F5G โดยงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส เซี่ยงไฮ้ ประจำปี 2566 ได้รับการยอมรับว่าเป็นงานสื่อสารเคลื่อนที่ที่ใหญ่และทรงอิทธิพลที่สุดในเอเชีย การปรากฏตัวของวายโอเอฟซีในงานนี้จึงสะท้อนให้เห็นความสามารถของวายโอเอฟซี ในการใช้นวัตกรรมทางเทคโนโลยีสร้างมูลค่าให้กับลูกค้า และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล
แชตจีพีที (ChatGPT) ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็วทั่วโลกตั้งแต่เปิดตัวเมื่อต้นปีนี้ ซึ่งแสดงให้เห็นศักยภาพอันยิ่งใหญ่ในการปฏิวัติเศรษฐกิจและสังคม การถือกำเนิดของแชทบอทเอไอ (AI) และเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัยอื่น ๆ จะเข้ามาเร่งการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในอุตสาหกรรมต่าง ๆ โดยคุณหนี่ เล่ย (Nie Lei) รองประธานของวายโอเอฟซี ได้กล่าวในการประชุมย่อยหัวข้อ "ทุกอย่างเป็นดิจิทัล สร้างชาติดิจิทัล" (Digital Everything - Building Digital Nations) ระหว่างงานโมบายล์ เวิลด์ คองเกรส เซี่ยงไฮ้ ประจำปี 2566 โดยเน้นย้ำถึงความต้องการด้านดิจิทัลที่เพิ่มขึ้น ไปจนถึงธุรกิจเกิดใหม่ ทั้งยังเน้นย้ำความต้องการโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลที่แข็งแกร่ง ซึ่งให้แบนด์วิดท์สูงขึ้น ความหน่วงต่ำลง และปรับปรุงจนมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น เพื่อรองรับข้อมูลที่จะหลั่งไหลเข้ามา วายโอเอฟซีจึงใช้ประโยชน์จากโอกาสที่ไม่เคยมีมาก่อนนี้ โดยได้รุกเข้าร่วมในการพัฒนาด้านดิจิทัล และก้าวจากการเป็นผู้ผลิตใยแก้วนำแสงและสายเคเบิล ไปเป็นผู้ให้บริการโซลูชันแบบองค์รวม
วายโอเอฟซีมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเส้นใยแก้วนำแสงและสายเคเบิลที่มีความล้ำหน้า โดยได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์และโซลูชันเคเบิลและใยแก้วนำแสงสมรรถนะสูงซีรีส์ไบรต์ส (BRIGHTS) เพื่อสร้างระบบนิเวศเครือข่ายออปติกที่ชาญฉลาด มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และเสถียร รองรับการใช้งานได้ในทุกสถานการณ์ พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพและอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล และสนับสนุนการเติบโตของเศรษฐกิจดิจิทัล โดยในด้านการสื่อสารทางทะเลนั้น วายโอเอฟซีสร้างระบบนิเวศดิจิทัลเพื่อรับส่งสัญญาณข้ามมหาสมุทร โดยได้เข้ามาสำรวจสภาพแวดล้อมทางทะเลและเอาชนะข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์ได้ นอกจากนี้ บริษัทยังให้ความสำคัญกับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีการผลิตดิจิทัล เช่น ฝาแฝดดิจิทัลและบิ๊กดาต้าระดับอุตสาหกรรม ส่งเสริมให้เกิดยุคใหม่ของการผลิตอัจฉริยะ วายโอเอฟซียังได้สร้างระบบกริดอัจฉริยะที่เป็นนวัตกรรมใหม่ เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของภาคพลังงาน ส่วนในภาคการขนส่ง บริษัทได้นำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้กับระบบราง เพื่อให้มั่นใจว่าการทำงานของเมืองดิจิทัลมีความปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ บริษัทยังมีโซลูชันการเชื่อมต่อล่วงหน้าที่เรียบง่าย มีประสิทธิภาพ และเชื่อถือได้ รองรับการใช้งานเครือข่ายคงที่รุ่นที่ 5 ซึ่งเสริมศักยภาพการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานอัจฉริยะ โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการยกระดับอนาคตดิจิทัลให้กับทุกคน
วายโอเอฟซีได้ขยับขยายการทำธุรกิจในระดับสากลมาตั้งแต่ปี 2557 ในประเทศและภูมิภาคที่เป็นเป้าหมายของโครงการแถบและเส้นทาง (Belt and Road Initiative) วายโอเอฟซีมีโรงงานผลิตอยู่ 5 แห่งในบราซิล อินโดนีเซีย โปแลนด์ และแอฟริกาใต้ ทั้งยังมีบริษัทสาขาและสำนักงานสาขากว่า 50 แห่งนอกตลาดบ้านเกิดอย่างประเทศจีน บริษัทได้สร้างเครือข่ายการตลาดและบริการระดับโลกครอบคลุมกว่า 90 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลก เพื่ออำนวยความสะดวกในการสร้างโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลระดับโลก
วายโอเอฟซีดำเนินธุรกิจตามพันธกิจหลักอย่าง "Smart Link Better Life" โดยในยุคที่เศรษฐกิจดิจิทัลยังคงเป็นแรงขับเคลื่อนการพัฒนาและความก้าวหน้าในระดับโลกแล้ว บริษัทจึงอุทิศตนเพื่อขยายการเชื่อมต่อใยแก้วนำแสงทั่วโลก บริษัทตั้งเป้าที่จะเข้ามาแก้ไขความเหลื่อมล้ำทางดิจิทัล โดยส่งเสริมการนำเส้นใยแก้วนำแสงไปใช้ทั่วโลก ในขณะเดียวกันก็เสริมความแข็งแกร่งให้กับรากฐานของเศรษฐกิจดิจิทัลแบบออปติกทั้งหมด ด้วยการจัดหาผลิตภัณฑ์และโซลูชันชั้นยอด ซึ่งท้ายที่สุดแล้วจะเข้ามาช่วยสร้างชุมชนที่มีอนาคตร่วมกันให้มนุษยชาติ
https://en.yofc.com/
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2144654/image_1.jpg
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2144655/image_2.jpg
No comments:
Post a Comment