การประชุมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำกสิกรรมและการเรียนรู้ร่วมกันในระดับโลก "จากระเบียงเกษตรกรรมจื่อเชว่เจี้ยสู่ทั่วโลก" ครั้งที่สอง
อำเภอซินหัวในเมืองโหลวตี้ มณฑลหูหนานทางตอนกลางของจีน ได้จัดการประชุมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำกสิกรรมและการเรียนรู้ร่วมกันในระดับโลก "จากระเบียงเกษตรกรรมจื่อเชว่เจี้ยสู่ทั่วโลก" (From Ziquejie Terraces To The World) ครั้งที่สอง เมื่อวันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา
ระเบียงเกษตรกรรมจื่อเชว่เจี้ยได้รับการยกย่องให้เป็นมรดกโลกด้านการเกษตรและชลประทาน ตั้งอยู่บนภูเขาจื่อเชว่เจี้ย พื้นที่นี้มีชื่อเสียงด้านพืชพรรณอันอุดมสมบูรณ์ หินแกรนิต และดินร่วนปนทราย ซึ่งมีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดี เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการเพาะปลูกแบบขั้นบันได
ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา บรรพบุรุษของชาวแม้ว เย้า ตง และฮั่น ได้ปรับตัวเข้ากับภูมิประเทศของภูเขาแห่งนี้ได้อย่างชาญฉลาด และสร้างนาขั้นบันไดที่ซับซ้อน พวกเขาใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของระดับความสูงในลำธารบนภูเขา ขุดร่องน้ำด้วยมือตามไหล่เขา ทำให้เกิดระบบชลประทานแบบไล่ระดับที่ช่วยรักษาความอุดมสมบูรณ์ของนาขั้นบันได ทนต่อภัยแล้ง และมั่นคงในช่วงฝนตกหนัก นวัตกรรมทางการเกษตรนี้ช่วยให้ผู้คนหลายรุ่นมีข้าวให้เก็บเกี่ยวอย่างอุดมสมบูรณ์
การประชุมครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกว่า 200 คน รวมถึงตัวแทนจากองค์กรระหว่างประเทศ อย่างองค์การระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) และองค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่จากประเทศที่มีชื่อเสียงด้านภูมิทัศน์นาขั้นบันไดอย่างฝรั่งเศสและเปรูที่ประจำการในจีน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศด้านการเกษตร วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว การประชุมนี้มุ่งหารือในประเด็นสำคัญ เช่น การอนุรักษ์มรดกทางการเกษตรของโลก และการพัฒนาเศรษฐกิจการเกษตรสีเขียว โดยผู้เข้าร่วมได้แลกเปลี่ยนกลยุทธ์ในการปกป้องและสืบทอดประเพณีการเกษตร เน้นย้ำถึงแนวทางที่มีความก้าวล้ำของมณฑลหูหนานในการอนุรักษ์และใช้ประโยชน์จากมรดกทางการเกษตร พร้อมนำเสนอแนวทางของจีนในการอนุรักษ์มรดกทางการเกษตรในระดับโลก
ในพิธีเปิดงาน มีการเปิดตัว "ฉันทมติโลกว่าด้วยการพัฒนาเกษตรกรรม วัฒนธรรม และการท่องเที่ยวในพื้นที่ขั้นบันไดแบบบูรณาการ" เพื่อเน้นย้ำความสำคัญในคุณค่าของภูมิทัศน์แบบขั้นบันได การปกป้องระบบนิเวศ การอนุรักษ์วัฒนธรรมการทำนาขั้นบันได และส่งเสริมการผสมผสานระหว่างการเกษตร วัฒนธรรม และการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังเรียกร้องให้มีการแลกเปลี่ยนและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศมากขึ้น รวมถึงพัฒนารูปแบบใหม่ ๆ การประชุมครั้งนี้ใช้รูปแบบ "1+N" ประกอบด้วยพิธีเปิด ปาฐกถาหลัก และการประชุมย่อย 3 หัวข้อ ซึ่งการประชุมย่อยเหล่านี้มุ่งผลักดันให้ระเบียงเกษตรกรรมจื่อเชว่เจี้ย ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมโดยยูเนสโก พร้อมพัฒนาธุรกิจโฮมสเตย์ในท้องถิ่น และวางตำแหน่งให้จื่อเชว่เจี้ยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก
ที่มา: การประชุมแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมการทำกสิกรรมและการเรียนรู้ร่วมกันในระดับโลก "จากระเบียงเกษตรกรรมจื่อเชว่เจี้ยสู่ทั่วโลก" ครั้งที่สอง
No comments:
Post a Comment