Wednesday, June 1, 2016

แฮนด์เฮลด์ เปิดตัว “Algiz RT7 eTicket” แท็บเล็ตแอนดรอยด์พันธุ์อึดเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด

          แฮนด์เฮลด์ กรุ๊ป ( Handheld Group ) ผู้นำด้านการผลิตคอมพิวเตอร์พกพาพันธุ์แกร่ง ประกาศเปิดตัว "Algiz RT7 eTicket" ซึ่งเป็นเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุดของแท็บเล็ตแอนดรอยด์ยอดนิยมรุ่น Algiz RT7 โดยได้มีการติดตั้งเครื่องอ่าน RFID เพิ่มเข้าไป เพื่อให้เจ้าหน้าที่ขนส่งมวลชนสามารถใช้เป็นเครื่องอ่านบัตรแบบพกพาได้

       


          Algiz RT7 eTicket ถือกำเนิดขึ้นจากการผสมผสานกันอย่างลงตัวระหว่างฟังก์ชั่นขั้นเทพ ความเร็วขั้นสุดยอด น้ำหนักแสนเบา ความน่าเชื่อถือ และความทนทาน แท็บเล็ตพันธุ์แกร่งรุ่นนี้สามารถอ่านบัตรปริมาณมากได้อย่างรวดเร็ว เพราะไม่จำเป็นต้องให้บัตรสัมผัสกับเครื่องก็สามารถอ่านข้อมูลได้

          การติดตั้งเครื่องอ่านบัตรสมาร์ทการ์ด Arcontia ทำให้ Algiz RT7 eTicket กลายเป็นอุปกรณ์เก็บค่าโดยสารแบบไม่ต้องสัมผัสที่ทำงานอย่างรวดเร็วและไว้ใจได้ เครื่องอ่านบัตรอันทรงพลังนี้สามารถใช้ร่วมกับชิปในตระกูล MIFARE ได้ทั้งหมด โดยรองรับแท็กหรือบัตร RFID มาตรฐาน ISO/IEC และ ISO14443 คลาส A/B นอกจากนั้นยังมี Secure Access Module (SAM) 2 โมดูล เพื่อการทำธุรกรรมอย่างปลอดภัย

          ผลิตภัณฑ์ล่าสุดนี้เป็นเครื่องตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของแฮนด์เฮลด์ กรุ๊ป ในการปฏิวัติการเก็บค่าโดยสารผ่านอุปกรณ์พกพา บริษัทเริ่มเปิดตัวด้วยผลิตภัณฑ์ตระกูล M3 eTicket และ Nautiz eTicket จากนั้นได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีประสิทธิภาพและมีฟีเจอร์หลากหลายมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง พร้อมคงไว้ซึ่งความทนทานอันเป็นคุณสมบัติเด่นของแฮนด์เฮลด์

          "บริษัทขนส่งมวลชนรายใหญ่ทั่วโลกเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ของเรา" โยฮัน เฮด ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการผลิตภัณฑ์ของแฮนด์เฮลด์ กล่าว "องค์กรเหล่านี้ได้ผลตอบแทนจากการลงทุนอย่างรวดเร็ว เพราะการใช้อุปกรณ์พกพาอัจฉริยะช่วยให้ขั้นตอนที่ล่าช้าและใช้แรงงานจำนวนมาก กลายเป็นขั้นตอนที่ราบรื่นและง่ายดาย ลูกค้ารายงานว่าสามารถทำงานได้มากขึ้น จำนวนผู้โดยสารที่แอบไม่ซื้อบัตรน้อยลง และมีรายได้จากการขายบัตรเพิ่มขึ้นเกือบ 20%"

          นอกเหนือจากเครื่องอ่าน RFID ที่ทันสมัยแล้ว Algiz RT7 eTicket ยังมีฟีเจอร์ทรงประสิทธิภาพอื่นๆอีกมากมาย อาทิ Google GMS ที่ช่วยให้เข้าใช้งาน Google Play Store และ Google Maps ได้ รวมถึงหน้าจอแบบมัลติทัชที่คมชัดแม้มองในที่สว่างจ้า และกระจกสุดแข็งแรงทนทาน นอกจากนี้ Algiz RT7 eTicket ยังมาพร้อมกล้อง 8 ล้านพิกเซล และตัวเลือกการเชื่อมต่อที่หลากหลาย ทั้งยังมีถาดใส่ซิมการ์ด 2 ซิม มีเครื่องรับสัญญาณ GPS ในตัว รวมทั้งเครื่องสแกนบาร์โค้ด 2 มิติ

          Algiz RT7 eTicket ผสมผสานประสิทธิภาพ ดีไซน์ที่ถูกหลักสรีระศาสตร์ และความทนทานเข้าไว้ด้วยกันอย่างลงตัว โดยใช้หน่วยประมวลผล Qualcomm quad-core มาพร้อมดีไซน์ที่จับถนัดมือด้วยน้ำหนักเพียง 600 กรัม ทั้งยังได้มาตรฐาน IP65 ซึ่งหมายความว่าสามารถกันน้ำได้ระดับหนึ่งและป้องกันฝุ่นทรายได้อย่างสมบูรณ์ ขณะเดียวกันยังได้มาตรฐาน MIL-STD-810G อันเข้มงวดของกองทัพสหรัฐ โดยสามารถต้านทานการตกหล่น การสั่นสะเทือน รวมถึงอุณหภูมิที่สูงหรือต่ำสุดขีด

          แฮนด์เฮลด์จะจัดสัมมนาผ่านทางเว็บไซต์เพื่อให้ผู้ที่สนใจได้เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Algiz RT7 eTicket โดยสามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.handheldgroup.com/Webinar-eTicketing

          ท่านที่สนใจสามารถสั่งซื้อ Algiz RT7 eTicket ได้แล้ววันนี้

          ลิงก์ที่เป็นประโยชน์

          ALGIZ RT7 eTicket specifications [http://www.handheldgroup.com/algiz-rt7-eticket ]
          Press images [http://www.handheldgroup.com/pressroom/algiz-rt7-eticket ]
          Handheld Group [http://www.handheldgroup.com ]
          Handheld product lineup [http://www.handheldgroup.com/en/rugged-computer ]
          What is rugged? [http://www.handheldgroup.com/en/why-rugged-handheld-computers/what-is-rugged ]

          ทวีตข้อความนี้

          แฮนด์เฮลด์ เปิดตัว "Algiz RT7 eTicket" แท็บเล็ตแอนดรอยด์พันธุ์อึดเวอร์ชั่นใหม่ล่าสุด http://www.handheldgroup.com/rt7-eticket

          เกี่ยวกับ แฮนด์เฮลด์

          แฮนด์เฮลด์ กรุ๊ป เป็นผู้ผลิตคอมพิวเตอร์พกพาที่แข็งแรงทนทาน แฮนด์เฮลด์และตัวแทนจำหน่ายทั่วโลกนำเสนอโซลูชั่นอุปกรณ์พกพาแบบครบวงจรให้แก่ผู้ประกอบธุรกิจในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อาทิ ภูมิสารสนเทศ โลจิสติกส์ ป่าไม้ ขนส่งมวลชน สาธารณูปโภค การทำเหมืองแร่ การทหาร และการรักษาความปลอดภัย ทั้งนี้ กลุ่มบริษัทแฮนด์เฮลด์ กรุ๊ป ตั้งอยู่ในสวีเดน และมีสำนักงานสาขาในฟินแลนด์ สหราชอาณาจักร เนเธอร์แลนด์ อิตาลี เยอรมนี สวิตเซอร์แลนด์ ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.handheldgroup.com    

          แหล่งข่าว: แฮนด์เฮลด์ กรุ๊ป

No comments:

Post a Comment