Monday, June 13, 2016

เซนต์เจมส์ เนรมิตแคทวอล์คบนถนนเจอร์มินในลอนดอน ฉลองเปิดงาน London Collections Men

          เมื่อวันที่ 11 มิถุนายนที่ผ่านมา ถนนเจอร์มิน (Jermyn Street) ใจกลางย่านเวสต์เอนด์อันโด่งดังของกรุงลอนดอน ได้ถูกแปลงโฉมเป็นแคทวอล์คแบบเปิดโล่งเพื่อการแสดงแฟชั่นโชว์เครื่องแต่งกายบุรุษจำนวน 4 โชว์ ซึ่งเซนต์เจมส์ (St James) ได้จัดขึ้นเพื่อร่วมฉลองการเปิดงาน London Collections Men โดยงานนี้ได้รับเกียรติจากแขกวีไอพีซึ่งรวมถึง เดวิด แกนดี, จิม แชปแมน, หู ปิง, แคโรไลน์ อิซซา, แคโรไลน์ รัช (ประธานผู้บริหารของ BFC)  และ ดีแลน โจนส์ (ประธานของ LCM)


          สำหรับแบรนด์เสื้อผ้าบุรุษ 30 แบรนด์ที่เข้าร่วมงานนี้มีทั้งแบรนด์เก่าแก่อย่าง New & Lingwood, Turnbull & Asser และ John Smedley รวมไปถึงแบรนด์ร่วมสมัย เช่น Norwegian Rain, Tiger of Sweden, Barbour International และ Sunspel

          ดีแลน โจนส์ บรรณาธิกการของนิตยสาร GQ และประธานของ London Collections Men กล่าวว่า "LCM เป็นงานที่ทรงอิทธิพลที่สุดงานหนึ่งสำหรับอุตสาหกรรมเครื่องแต่งกายบุรุษ นับเป็นเรื่องวิเศษมากที่เราสามารถเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้ร่วมสัมผัสประสบการณ์นี้ด้วยการจัดงานบนถนนเจอร์มินอีกครั้ง เซนต์เจมส์เป็นศูนย์รวมที่สมบูรณ์แบบระหว่างแบรนด์เก่าแก่และแฟชั่นร่วมสมัย"

          เซนต์เจมส์ จะยังคงเป็นหัวใจและบ้านสำหรับวงการเครื่องแต่งกายบุรุษของอังกฤษต่อไป ในขณะที่ The Crown Estate เดินหน้าแผนการลงทุนเพื่อเนรมิตพื้นที่กว่า 70,000 ตารางฟุตให้เป็นศูนย์รวมของร้านค้าปลีก สำนักงาน และร้านอาหาร

          แอนเธีย แฮร์รีส์ ผู้จัดการของเซนต์เจมส์ ในเครือ The Crown Estate กล่าวว่า "โชว์นี้มีความแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ และโด่งดังมากขึ้นทุกปี ดังเห็นได้จากแบรนด์และผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเซนต์เจมส์ งานนี้สะท้อนให้เห็นถึงมรดกอันเป็นเอกลักษณ์ของเซนต์เจมส์ ทั้งยังสะท้อนภาพอนาคตของวงการเครื่องแต่งกายบุรุษในลอนดอนอีกด้วย"

          สามารถติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานแฟชั่นโชว์ LCM Jermyn St. ของเซนต์เจมส์ ได้ที่ http://www.stjameslondon.co.uk / @_StJamesLondon

          #jermynstjames

          สำหรับกองบรรณาธิการ

          The Crown Estate

          - The Crown Estate เป็นธุรกิจการค้าอิสระซึ่งก่อตั้งขึ้นโดย Act of Parliament
          - ในฐานะที่เป็นผู้จัดการพื้นดินท้องทะเลอังกฤษ The Crown Estate ทำหน้าที่เป็นผู้อนุมัติการดำเนินการใต้ท้องทะเลให้แก่องค์กรต่างๆ อย่างไรก็ดี ทุกโครงการจะต้องผ่านขั้นตอนการวางแผน ซึ่งรวมถึงการรับฟังความคิดเห็นสาธารณะ การได้รับความยินยอมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการวางแผน ก่อนที่โครงการจะเข้าสู่ขั้นตอนการพัฒนาต่อไปได้
          - ผลกำไรต่อปีทั้ง 100% จะถูกคืนกลับไปให้แก่กระทรวงการคลังของอังกฤษ เพื่อประโยชน์ด้านการเงินแก่สาธารณะ
          - ตลอด 10 ปีที่ผ่านมา The Crown Estate ทำรายได้ให้กระทรวงการคลังมากกว่า 2.3 พันล้านปอนด์ โดยในปีการเงินที่ผ่านมา มูลค่าของธุรกิจปรับตัวขึ้นแตะ 1.1 หมื่นล้านปอนด์ และผลตอบแทนอยู่ที่ 285 ล้านปอนด์
          - The Crown Estate ดำเนินธุรกิจที่หลากหลายด้วยแนวทางที่สอดคล้องกัน โดยขับเคลื่อนผลตอบแทนและการเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการใช้แนวทางเชิงรุกในการบริหารจัดการสินทรัพย์และการลงทุนระยะยาวใน 4 ส่วนธุรกิจสำคัญ อันประกอบด้วย ธุรกิจในย่านเวสต์เอนด์ของลอนดอน ธุรกิจค้าปลีกในภูมิภาคหลัก ธุรกิจที่ดินในชนบทและในทำเลทางยุทธศาสตร์ และธุรกิจพลังงานลมนอกชายฝั่ง
          - The Crown Estate มีประวัติความเป็นมายาวนานย้อนไปถึงปี ค.ศ. 1066 และประสบความสำเร็จเรื่อยมาจนถึงศตวรรษที่ 21 นี้ในฐานะบริษัทพาณิชย์ ซึ่งได้รับการยกย่องให้เป็นผู้นำตลาดในภาคส่วนที่ตนดำเนินธุรกิจ และมีชื่อเสียงจากการใช้วิธีการเชิงรุกและยั่งยืน ซึ่งสามารถสร้างมูลค่าในระยะยาวที่นอกเหนือไปจากผลตอบแทนทางการเงิน http://www.thecrownestate.co.uk/

          สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:

          Louisa McCarthy หรือ Lotte Lugg จาก Neville McCarthy Associates
          louisa@nevillemccarthy.com หรือ lotte@nevillemccarthy.com
          โทร +44(0)20-7940-2900

          ที่มา: St James's

No comments:

Post a Comment