มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจแห่งเวียนนาตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดในโลก

          เมื่อต้นปีที่ผ่านมา มหาวิทยาลัยเศรษฐศาสตร์และธุรกิจแห่งเวียนนา (WU) ได้จัดตั้งสถาบันวิจัยเศรษฐศาสตร์คริปโตขึ้น ด้วยการรวบรวมนักวิจัยที่มีความเชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาวิทยาการเกือบ 30 ท่านจาก 8 สาขาวิชา [https://www.wu.ac.at/cryptoeconomics/team/] ที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน สกุลเงินดิจิทัล และเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์แบบกระจายตัว โดยสถาบันดังกล่าวถือเป็นสถาบันวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์คริปโตที่ใหญ่ที่สุดและมีความหลากหลายมากที่สุดของโลกในปัจจุบัน

          เศรษฐศาสตร์คริปโตเป็นสาขาวิชาน้องใหม่ที่มีอิทธิพลเป็นอย่างมากต่อแวดวงการศึกษาด้านเทคโนโลยีและเศรษฐกิจสังคม ทำให้แนวทางด้านการศึกษาแบบสหวิทยาการของ WU มีความเกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์ในอนาคตเป็นพิเศษ Edeltraud Hanappi-Egger อธิการบดีของ WU กล่าวว่า "เรามีสภาพแวดล้อมที่เหมาะอย่างยิ่งต่อการวิจัยด้านเศรษฐศาสตร์คริปโตในทุกภาคส่วนและสร้างอิทธิพลในทิศทางที่เป็นอยู่"

          ขณะที่ Shermin Voshmgir ผู้อำนวยการสถาบันดังกล่าว และเป็นผู้ก่อตั้ง BlockchainHub [https://blockchainhub.net/] ในเบอร์ลิน ระบุว่า "เรากำลังเฝ้าติดตามสิ่งที่เกิดขึ้นในต่างประเทศ สถาบันวิจัยส่วนใหญ่กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาและมีขนาดเล็กมาก หรือไม่ก็โฟกัสไปที่ด้านใดด้านหนึ่งเพียงด้านเดียว" โดยสถาบันวิจัยแห่งนี้จะมีหัวหน้าฝ่ายวิชาการอย่าง Alfred Taudes เป็นผู้อำนวยการร่วมอีกหนึ่งท่าน

          ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง

          กิจกรรมของทางสถาบันมีความน่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะบรรดานักวิจัยของสถาบันต่างก็ได้มาร่วมแบ่งปันความรู้และความชำนาญกับชุมชนนักวิทยาศาสตร์ ประชาชนทั่วไป สื่อมวลชน รัฐบาล และชุมชนนักธุรกิจ ซึ่ง Shermin Voshmgir เปิดเผยว่า "สถาบันแห่งนี้ได้ตอบสนองความต้องการด้านข้อมูลด้วยการจัดประชุมและการบรรยาย [https://www.wu.ac.at/en/cryptoeconomics/former-events/] ที่หลากหลาย อีกทั้งยังช่วยตอบคำถามมากมายที่มาจากบุคคลทั่วไป นักเรียน นักกฎหมาย และบรรดานักธุรกิจ โดยกิจกรรมที่อัดแน่นเหล่านี้ไม่ได้มีทีท่าที่จะลดลงเลยแม้แต่น้อย" นอกจากนี้ ทางสถาบันยังให้การสนับสนุนสโมสรนักศึกษาที่ในตอนนี้มีสมาชิกอยู่ถึงกว่า 100 ราย โดยโครงการวิจัยอย่างเป็นทางการโครงการแรกของสถาบันเป็นโครงการเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน และการพัฒนาอย่างยั่งยืนอย่าง "โครงการสร้างโลกที่ยั่งยืน" ซึ่งเกิดขึ้นจากความร่วมมือกับศูนย์การเรียนรู้ทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาอย่างยั่งยืนแห่งเวียนนา (RCE) [http://www.rce-vienna.at/], องค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ (UNIDO) [https://www.unido.org/] ตลอดจนหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรไม่แสวงหากำไรทั้งในและต่างประเทศ