เนื่องจากโรคโควิด-19 ยังคงสร้างความเสียหายไปทั่วโลก เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา จีนจึงเรียกร้องให้บรรดาประเทศเศรษฐกิจใหญ่พยายามอย่างจริงจังในการส่งเสริมการพัฒนาอย่างทั่วถึงมากขึ้น และยกระดับโลกาภิบาลในยุคหลังโควิด
อ่านบทความต้นฉบับได้ที่ https://news.cgtn.com/news/2020-11-21/President-Xi-attends-G20-summit-via-video-link-VBBNFFmbhS/index.html
ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโควิด-19 มากกว่า 57.4 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตกว่า 1.3 ล้านคน นอกจากนี้ การระบาดใหญ่ยังก่อให้เกิดจุดอ่อนมากมายในส่วนของโลกาภิบาล ประชาคมโลกจึงเกิดคำถามว่า กลุ่ม G20 สามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้ระบบดีขึ้น นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีของจีน กล่าวต่อที่ประชุม G20 Riyadh Summit ผ่านวิดีโอลิงก์
นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า G20 ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับโควิด-19 ควรยึดมั่นในความร่วมมือแบบพหุภาคี เปิดกว้าง ทั่วถึง เป็นประโยชน์กับทุกฝ่าย และทันสมัย
G20 คือกลุ่มความร่วมมือด้านการเงินและเศรษฐกิจระดับนานาชาติซึ่งก่อตั้งขึ้นในปี 2542 ประกอบด้วยประเทศสมาชิก 19 ประเทศ ได้แก่ อาร์เจนตินา ออสเตรเลีย บราซิล แคนาดา จีน ฝรั่งเศส เยอรมนี อินเดีย อินโดนีเซีย อิตาลี ญี่ปุ่น เม็กซิโก รัสเซีย ซาอุดีอาระเบีย แอฟริกาใต้ เกาหลีใต้ ตุรกี อังกฤษ และสหรัฐอเมริกา บวกสหภาพยุโรป
ช่วยเหลือประเทศกำลังพัฒนา
"เราควรเดินหน้าให้การสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา เพื่อช่วยให้สามารถก้าวข้ามความยากลำบากอันเป็นผลมาจากโรคระบาด" นายสี จิ้นผิง กล่าวกับผู้นำ G20 คนอื่น ๆ พร้อมกับเรียกร้องให้บรรดาประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลกส่งเสริมการพัฒนาอย่างทั่วถึงมากขึ้น
เขากล่าวว่า จีนดำเนินการพักชำระหนี้ให้แก่ประเทศยากจนภายใต้โครงการ G20 Debt Service Suspension Initiative (DSSI) คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.3 พันล้านดอลลาร์
G20 ริเริ่มโครงการ DSSI เมื่อเดือนเมษายน เพื่อแก้ปัญหาสภาพคล่องของประเทศที่มีรายได้ต่ำ ด้วยการพักชำระหนี้ให้แก่ประเทศยากจนที่มีกำหนดต้องใช้หนี้ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมถึงสิ้นปีนี้ โดยพักหนี้นาน 6 เดือนจนถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นการตัดสินใจของรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางกลุ่มประเทศ G20 เมื่อเดือนตุลาคม
หลิว คุน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังจีน กล่าวว่า จีนรั้งอันดับหนึ่งประเทศที่พักชำระหนี้ให้แก่ประเทศยากจนภายใต้โครงการ DSSI มากที่สุดในกลุ่มประเทศสมาชิก G20
"จีนจะยกระดับการใช้มาตรการพักชำระหนี้และบรรเทาหนี้สำหรับประเทศที่เผชิญกับความยากลำบาก รวมทั้งส่งเสริมให้สถาบันการเงินให้การสนับสนุนทางการเงินรอบใหม่โดยสมัครใจและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของตลาด" นายสี จิ้นผิง กล่าว
นอกจากนี้ เขาได้ตอกย้ำความมุ่งมั่นของจีนในการช่วยเหลือและสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ผ่านการทำให้วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เป็นสินค้าสาธารณะที่ทั่วโลกสามารถเข้าถึงได้ในราคาย่อมเยา
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีจีนได้เรียกร้องให้ G20 ส่งเสริมการค้าเสรี ต่อต้านการผูกขาดและการกีดกันทางการค้า ตลอดจนปกป้องสิทธิของประเทศกำลังพัฒนาในการพัฒนาตนเอง
จัดการกับความท้าทายทั่วโลก
"เราต้องสร้างเสริมศักยภาพในการจัดการกับความท้าทายทั่วโลก" นายสี จิ้นผิง เน้นย้ำ "งานที่กดดันที่สุดในตอนนี้คือ การค้ำจุนระบบสาธารณสุขโลกและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงโรคติดเชื้ออื่น ๆ"
เขากล่าวว่า สมาชิกกลุ่ม G20 ควรช่วยกันส่งเสริมบทบาทขององค์การอนามัยโลก และสร้างชุมชนสุขภาพระดับโลกเพื่อทุกคน
ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีจีนเรียกร้องให้นานาชาติร่วมกันปกป้องสิ่งแวดล้อม ต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตลอดจนสร้าง "โลกที่สะอาดและสวยงาม ที่ซึ่งมนุษย์และธรรมชาติอยู่ร่วมกันอย่างกลมกลืน"
เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา จีนประกาศว่าจะบรรลุเป้าหมายเป็นกลางทางคาร์บอนไม่เกินปี 2603 โดยจะพยายามบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สูงสุดก่อนปี 2573
นอกจากนี้ นายสี จิ้นผิง กล่าวว่า G20 ควรเป็นผู้นำในการส่งเสริมการพัฒนาที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมในยุคดิจิทัล พร้อมกับพัฒนาโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจ
เขาตั้งข้อสังเกตว่าโรคระบาดก่อให้เกิดการพัฒนาเทคโนโลยีและธุรกิจรูปแบบใหม่ ๆ ดังนั้น เขาจึงเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมกันพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส
"เราสามารถยกระดับการปฏิรูปเชิงโครงสร้างและสร้างกลไกขับเคลื่อนการเติบโตใหม่ ๆ ผ่านนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมถึงการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัล" เขากล่าว
ในส่วนของผลกระทบที่มีต่อโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจนั้น นายสี จิ้นผิง เรียกร้องให้ช่วยกันจัดการกับความท้าทายต่าง ๆ พร้อมกับกล่าวว่าโลกาภิวัตน์ทางเศรษฐกิจต้อง "เปิดกว้าง ทั่วถึง สมดุล และเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่ายมากขึ้น"
นายสี จิ้นผิง กล่าวต่อบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมการประชุมว่า การที่จีนส่งเสริมการพัฒนารูปแบบใหม่ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกมีโอกาสแบ่งปันความสำเร็จของจีนในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมีคุณภาพสูง
ผู้นำจีนตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ในการส่งเสริมการพัฒนารูปแบบใหม่ที่ยึดตลาดในประเทศเป็นหลัก และเปิดโอกาสให้ตลาดในประเทศและต่างประเทศส่งเสริมซึ่งกันและกัน
"จีนจะเป็นผู้สร้างสันติภาพโลก ผู้สนับสนุนการพัฒนาโลก และผู้ปกป้องความสงบเรียบร้อยของโลกตลอดไป" นายสี จิ้นผิง กล่าว "เราสามารถลดช่องว่างความแตกต่างผ่านการพูดคุย แก้ปัญหาความขัดแย้งผ่านการเจรจา ตลอดจนสนับสนุนความพยายามร่วมกันเพื่อพัฒนาและสร้างสันติภาพโลก"
No comments:
Post a Comment