Wednesday, April 20, 2016

จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เปิดตัว 'Earth Mode' เบราว์เซอร์ปลั๊กอินที่ช่วยให้ชาวเน็ตตระหนักถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการเล่นอินเทอร์เน็ต

          จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ จับมือ Earth Day Network ปลูกต้นไม้ทดแทนปริมาณคาร์บอนที่เกิดขึ้นจากการใช้อินเทอร์เน็ต

          รู้หรือไม่ การใช้เวลาท่องโลกออนไลน์นั้นส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมากขนาดไหนบ้าง

         


          ผลการวิจัย* บ่งชี้ว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตนั้นสามารถก่อคาร์บอนได้เฉลี่ยคนละ 130 กิโลกรัมต่อปี เทียบเท่าการขับขี่รถยนต์เป็นระยะทางถึง 740 กิโลเมตร แต่สิ่งนี้สามารถทดแทนได้ด้วยการปลูกต้นไม้ 4 ต้น

          ปลั๊กอินใหม่ล่าสุดสำหรับเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome ที่เปิดตัวก่อนวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ซึ่งตรงกับวันศุกร์ที่ 22 เมษายนนี้ จะช่วยให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตรับรู้ว่าตนได้ใช้พลังงานไปเท่าไรแล้วจากการท่องโลกออนไลน์ ด้วยการคำนวณปริมาณดิจิทัลคาร์บอนฟุตพริ้นท์ เพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้พลังงานในแต่ละวันอย่างประหยัด

          ปลั๊กอินใหม่สำหรับ Chrome นี้ เป็นผลงานของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ แบรนด์สก็อตช์วิสกี้ยอดนิยมของโลก ซึ่งได้จับมือเป็นพันธมิตรกับ Earth Day Network เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมที่แม้จะเล็กน้อยแต่ก็เป็นไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพื่อช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมให้ดำรงอยู่

          Earth Day Network เป็นโครงการระดับโลก ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อสร้างแรงบันดาลใจ ท้าทายแนวคิด จุดประกายพลังขับเคลื่อน และกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามามีบทบาทในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม

          ปลั๊กอินนี้จะทำหน้าที่ตรวจวัดการใช้งานอินเทอร์เน็ตเป็นระยะเวลา 4 สัปดาห์ จากนั้นก็จะคำนวณปริมาณการใช้พลังงานตลอดทั้งปี จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ มีแผนปลูกต้นไม้ทดแทนปริมาณการใช้พลังงานเหล่านี้เป็นจำนวนสูงสุด 75,000 ต้น ตามโครงการ Canopy Project ของ Earth Day Network โดยโครงการดังกล่าวได้มีการปลูกต้นไม้ไปแล้วกว่า 3 ล้านต้นนับตั้งแต่ปี 2554 ในพื้นที่ที่ต้องมีการฟื้นฟูสภาพป่า เช่นในแอฟริกาตะวันออก

          ไมเคิล ธอร์นตัน ประธานบริหารของ Carbon Analytics ซึ่งเป็นบริษัทที่ช่วยให้ธุรกิจต่างๆสามารถบริหารจัดการผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมของตน ได้ร่วมงานกับจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ ในการดำเนินงานต้อนรับวันคุ้มครองโลก โดยเขาเปิดเผยว่า บางครั้งก็เป็นเรื่องยากที่จะทำให้ผู้คนตระหนักว่า การใช้งานอินเทอร์เน็ตนั้นสามารถก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ได้อย่างไร

          เขากล่าวว่า "การกดดูเว็บไซต์หรือค้นหาข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตในแต่ละครั้งนั้น จำเป็นต้องใช้พลังงานจำนวนมากในการนำเสนอข้อมูล ซึ่งเมื่อคิดคำนวณรวมกันทั้งโลกแล้ว ก็ก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์อันมหาศาล

          ปลั๊กอิน Earth Mode เป็นเครื่องคำนวณที่ใช้งานง่าย โดยเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างยิ่งในการทำความเข้าใจเกี่ยวกับปริมาณฟุตพริ้นท์ ผู้ใช้งานจะสามารถมองเห็นปริมาณการใช้คาร์บอนของตน ซึ่งนำเสนอเป็นกิจกรรมประจำวันที่ใช้พลังงานเทียบเท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นการใช้ไมโครเวฟ ขับรถ หรือนั่งเครื่องบิน"

          กาย เอสโคล์ม ผู้อำนวยการแบรนด์ระดับโลกของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ กล่าวว่า "เราเชื่อว่าทุกคนต้องการให้วันพรุ่งนี้ดีกว่าวันนี้ โดย Earth Mode เปิดโอกาสให้ผู้คนสามารถสร้างผลกระทบในด้านดีต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งแม้ว่าเป็นเพียงก้าวเล็กๆก้าวเดียวในการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม แต่เราหวังว่าสิ่งนี้จะให้ความรู้และจุดประกายให้ผู้คนทั่วโลกเข้ามามีบทบาทเพิ่มขึ้นทีละน้อย เพื่อช่วยให้วันคุ้มครองโลกบรรลุยอด 'Acts of Green' ครบ 3 พันล้านยอดตามเป้า"

          "จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ มีความภูมิใจที่บริษัทแม่ของเราอย่างดิอาจิโอ สามารถลดการปล่อยคาร์บอนได้ถึง 33% ตลอดระยะเวลา 8 ปี โดยวิธีการหนึ่งที่ทางบริษัทได้ทำนั้น ได้แก่การสร้างความเข้าใจให้กับพนักงาน 35,000 คนทั่วโลก เพื่อให้พวกเขาตระหนักถึงพลังงานที่ตนใช้ไปในแต่ละวัน ทั้งนี้ ดิอาจิโอตั้งเป้าที่จะลดการปล่อยคาร์บอนลงให้ได้ 50% ภายในปี 2563"

          แคธลีน โรเจอร์ส ประธานของ Earth Day Network กล่าวว่า "สำหรับพวกเราหลายคนแล้ว คาร์บอนฟุตพริ้นท์อาจดูเหมือนเรื่องไกลตัว โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง หรือไม่ได้ใช้ชีวิตอยู่ตามชายฝั่งทะเล แต่เราทุกคนควรตระหนักถึงผลกระทบจากความต้องการทางพลังงานและการใช้พลังงานที่มีต่อสิ่งแวดล้อมบนโลกของเรา"

          "ยิ่งมีข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับคาร์บอนฟุตพริ้นท์มากและรวดเร็วขึ้นเท่าใด เราก็จะเผชิญกับสิ่งนี้อย่างฉับไวมากขึ้น และก็จะมีผลกระทบเพิ่มขึ้นตามมาด้วย สิ่งนี้จะไม่ได้เป็นเรื่องลับสายตาอีกต่อไป เพราะวันนี้ เราจะทราบได้ว่าการใช้คอมพิวเตอร์นั้นส่งผลกระทบได้อย่างไรบ้าง ในทำนองเดียวกันกับการดูแบตเตอรี่มือถือ ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นการเปิดโลกใหม่"

          สามารถดาวน์โหลดปลั๊กอิน  Johnnie Walker Earth Mode ได้แล้ววันนี้ที่ Chrome Store สำหรับผู้ใช้ PC และ Mac เมื่อทำการติดตั้งแล้วให้คลิกบนสัญลักษณ์รูป 'คนก้าวเดิน' ของจอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เพื่อเรียกเมนูดรอปดาวน์ ซึ่งทำหน้าที่แสดงผลการใช้พลังงานออนไลน์แบบเรียลไทม์ พร้อมแสดงจำนวนต้นไม้ที่จะปลูกทดแทนปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ที่ตนได้ก่อตลอดทั้งปี

          ดาวน์โหลดปลั๊กอินได้ที่: https://chrome.google.com/webstore/detail/earth-mode/bnngfkajcebapkeccnhgilaligcbpbmj

          รับชมวิธีการใช้ปลั๊กอินได้ที่: https://youtu.be/9f3Da6WJuKI

          http://www.facebook.com/JohnnieWalker

          @Johnniewalker_

          #earthmode #billionactsofgreen

          กรุณาดื่มจอห์นนี่ วอล์กเกอร์อย่างมีความรับผิดชอบ

          หมายเหตุถึงบรรณาธิการ

          *การวิจัยโดย Carbon Analytics พบว่า ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตหนึ่งรายสามารถก่อคาร์บอนเฉลี่ยได้คนละ 130 กิโลกรัมต่อปี เมื่อคำนวณจากข้อมูลที่ได้รับจาก Earth Day Network แล้ว เราคาดว่าต้นไม้หนึ่งต้นสามารถดูดซับคาร์บอนได้เฉลี่ย 34 กิโลกรัมต่อปี ดังนั้น ต้องปลูกต้นไม้คนละ 4 ต้นเพื่อทดแทนปริมาณการใช้คาร์บอนจากการใช้อินเทอร์เน็ต 130 กิโลกรัม

          เกี่ยวกับจอห์นนี่ วอล์กเกอร์

          จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เป็นแบรนด์สก็อตช์วิสกี้อันดับหนึ่งของโลก ซึ่งเป็นที่ชื่นชอบของผู้คนในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งโดยจอห์น วอล์กเกอร์ จนถึงวันนี้นักผสมวิสกี้ของเรายังคงยึดมั่นต่อความเป็นเลิศในเรื่องของรสชาติและคุณภาพ

          Master Blender มากฝีมือที่ได้สืบทอดมาอย่างยาวนานถึง 6 รุ่น ได้บุกเบิกและรังสรรค์รสชาติแปลกใหม่ ซึ่งได้พลิกโฉมธุรกิจร้านขายของชำเล็กๆในสกอตแลนด์ที่ถือกำเนิดขึ้นเมื่อปี 2363 จนกลายเป็นธุรกิจวิสกี้ระดับโลก ด้วยวิสกี้ที่นำสมัย น่าเชื่อถือ และโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์

          ปัจจุบัน จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ มีวิสกี้ระดับรางวัลการันตีคุณภาพให้เลือกสรรมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Johnnie Walker Red Label(R), Black Label(R), Double Black(TM), Green Label(TM), Gold Label Reserve(TM), Platinum Label(TM) และ Blue Label(TM) โดยมียอดขายรวมกันเกือบ 19 ล้านเคสต่อปี (IWSR, 2014) ส่งผลให้จอห์นนี่ วอล์กเกอร์ เป็นแบรนด์สก็อตช์วิสกี้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก

          เกี่ยวกับดิอาจิโอ

          ดิอาจิโอ เป็นบริษัทเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ชั้นนำระดับโลก ซึ่งมีคอลเล็กชั่นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่โดดเด่น ทั้งวิสกี้ Johnnie Walker, Crown Royal, J&B, Buchanan's และ Windsor, วอดก้า Smirnoff, Ciroc และ Ketel One รวมถึง Captain Morgan, Baileys, Don Julio, Tanqueray และ Guinness

          ดิอาจิโอ เป็นบริษัทระดับโลกซึ่งมีผลิตภัณฑ์วางขายในกว่า 180 ประเทศทั่วโลก บริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (DGE) และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก (DEO) สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับดิอาจิโอ บุคลากร แบรนด์ต่างๆ และผลการดำเนินงานของเราได้ที่เว็บไซต์ http://www.diageo.com รวมทั้งรับชมข้อมูล โครงการ และแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการดื่มอย่างมีความรับผิดชอบได้ที่เว็บไซต์ http://www.DRINKiQ.com

          ฉลองให้กับชีวิตได้ทุกที่ทุกเวลา

          คำว่า Johnnie Walker, Keep Walking, Red Label, Black Label, Double Black, Green Label, Gold Label Reserve, Platinum Label และ Blue Label ตลอดจนโลโก้อื่นๆที่เกี่ยวข้อง เป็นเครื่องหมายการค้าของ (c) John Walker & Sons 2016

          เกี่ยวกับ Earth Day Network:  

          วันคุ้มครองโลก (Earth Day) เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2513 โดยสามารถขับเคลื่อนพลังความคิดของชาวอเมริกันจากทุกย่างก้าวของชีวิตได้ถึง 20 ล้านคน และได้รับการยกย่องในวงกว้างว่าเป็นจุดกำเนิดของพลังขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมยุคใหม่ จนกลายเป็นต้นกำเนิดของ Earth Day Network (EDN) ซึ่งได้ร่วมงานกับพันธมิตรกว่าหมื่นรายใน 192 ประเทศ เพื่อแพร่ขยาย กระจาย และขับเคลื่อนพลังปกป้องสิ่งแวดล้อม ปัจจุบัน กิจกรรมวันคุ้มครองโลกมีผู้เข้าร่วมมากกว่า 1 พันล้านคนในแต่ละปี ส่งผลให้เป็นโครงการระดับพลเมืองที่ใหญ่ที่สุดในโลก สามารถรับชมข้อมูลเพิ่มเติม ได้ที่ http://www.earthday.org

          เกี่ยวกับ Earth Mode: 

          Earth Mode เป็นปลั๊กอินใหม่สำหรับเว็บเบราว์เซอร์ Google Chrome ซึ่งทำงานบน PC และแล็ปท็อปเท่านั้น โดยสามารถดาวน์โหลดได้ตั้งแต่วันจันทร์ที่ 18 เมษายน ถึงวันที่ 16 พฤษภาคม 2559

          วิธีการคำนวณของ Earth Mode:

          Carbon Analytics ได้คิดค้นอัลกอริธึมในการแปลงปริมาณการใช้พลังงานออนไลน์ เป็นปริมาณการใช้คาร์บอน ด้วยการทำ Cross Section ความแปรปรวนที่สามารถวัดผลได้ ซึ่งได้แก่ แหล่งพลังงานของประเทศ อุปกรณ์ที่ใช้ในการท่องอินเทอร์เน็ต การใช้เครือข่ายในพื้นที่ และปริมาณข้อมูล

          ขั้นตอนแรก ทางทีมงานได้คำนวณผลลัพธ์ทางพลังงานในกิจกรรมของผู้ใช้ โดยพิจารณาจาก:

          - อุปกรณ์และเวลาที่ใช้เครือข่าย
          - การใช้ข้อมูลและปริมาณการประมวลข้อมูล

          จากนั้น ทางทีมงานจึงได้บันทึกข้อมูลพลังงานที่ใช้โดยรวม เช่นเดียวกับจุดที่ใช้งาน เพื่อคำนวณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ของผู้ใช้แต่ละราย โดยจุดที่ใช้งานนั้นเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักๆ เนื่องจากตำแหน่งที่ใช้งานนั้นมีความเกี่ยวข้องกับปริมาณพลังงานที่จำเป็นในการนำเสนอข้อมูลออนไลน์

          จนสามารถสรุปสูตรคำนวณได้ดังนี้:

          - ผลกระทบทางพลังงาน = เวลาที่ใช้ + ปริมาณข้อมูล
          - คาร์บอนฟุตพริ้นท์ = พลังงาน x ปัจจัยด้านตำแหน่งที่ใช้งาน

          เกี่ยวกับไมเคิล ธอร์นตัน:  

          ไมเคิล ธอร์นตัน เป็นผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Carbon Analytics บริษัทผู้ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ในกรุงลอนดอน และได้รับรางวัลการันตีมาแล้ว บริษัทมีพันธกิจในการนำเสนอข้อมูลที่แสดงให้เห็นถึงผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรวดเร็ว ประหยัดต้นทุน และมีความถูกต้องให้กับธุรกิจทั่วโลก Carbon Analytics มีความมุ่งมั่นที่จะขจัดอุปสรรคในการจัดการสิ่งแวดล้อม และเป็นแนวทางให้บริษัททั้งหลายก้าวขึ้นเป็นธุรกิจที่ยิ่งใหญ่และยั่งยืน



No comments:

Post a Comment