Friday, May 19, 2017

หัวเว่ย จัดงาน Power Summit ครั้งที่ 5 ระหว่างมหกรรม African Utility Week



หัวเว่ยจัดแสดงโซลูชั่นไอซีทีครบวงจรสำหรับโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ


          จัดแสดงโซลูชั่นไอซีทีครบวงจร พร้อมเผยแนวทางปฏิบัติที่เป็นเลิศในการพัฒนาโครงข่ายไฟฟ้าอัจริยะ (Smart Grid)

          ในระหว่างการจัดงาน African Utility Week (AUW) 2017 มหกรรมพลังงานไฟฟ้างานใหญ่ที่สุดของทวีปแอฟริกา เมื่อวันที่ 16-18 พฤษภาคมที่ผ่านมานั้น หัวเว่ย (Huawei) ได้ร่วมจัดงาน Power Summit ครั้งที่ 5 ในหัวข้อ "Leading New ICT, the Road to Smart Grid" โดยมีเจ้าหน้าที่จากภาครัฐ ตลอดจนผู้บริหารและผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า เข้าร่วมงานมากกว่า 260 ท่าน

          หัวเว่ยจับมือพันธมิตรสร้างแพลตฟอร์มและระบบนิเวศรองรับการพัฒนาโซลูชั่นไอซีทีครบวงจรสำหรับโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ

          หัวเว่ยได้ผนึกกำลังกับพันธมิตรในการจัดแสดงโซลูชั่นบริการอัจริยะ ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การส่ง การแปลง การจ่าย ไปจนถึงการใช้ไฟฟ้า

          เจอร์รี จี ประธานฝ่ายพลังงานของหัวเว่ย เอ็นเตอร์ไพรซ์ บิสิเนส กรุ๊ป กล่าวว่า "การใช้งานโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะมีความแพร่หลายมากขึ้น และเราได้พัฒนาโซลูชั่นสำคัญๆร่วมกับพันธมิตรโดยอาศัยนวัตกรรมไอซีทีระดับแนวหน้าของบริษัท การประยุกต์ใช้ IoT และคลาวด์คอมพิวติ้งจะเป็นประโยชน์ต่อบริษัทไฟฟ้าในการยกระดับประสิทธิภาพการดำเนินงานและเร่งผลักดันนวัตกรรมใหม่ๆ ทั้งนี้ เพื่อสานต่อกลยุทธ 'platform + ecosystem' ของหัวเว่ย เราได้ร่วมมือกับพันธมิตรเชิงกลยุทธ์อย่าง State Grid Information and Telecommunication Technology Company of China, SAP, Accenture, T-System และ Tech Mahindra ในการสร้างระบบนิเวศที่เปิดกว้างและเป็นประโยชน์แก่ทุกฝ่ายเพื่อรองรับอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า หัวเว่ยได้ช่วยเหลือลูกค้าธุรกิจพลังงานไฟฟ้ากว่า 170 รายในการปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดการพลังงาน ตลอดจนสร้างหลักประกันด้านความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของโครงข่ายไฟฟ้า เพื่อมอบแสงสว่างและสร้างความเจริญรุ่งเรืองให้กับสังคมสมัยใหม่ รวมทั้งส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนด้วย"

          นวัตกรรมโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะจากความร่วมมือ ณ OpenLab

          ในงานนี้ Eskom ได้ประกาศสร้างความร่วมมือกับห้องปฏิบัติการ OpenLab ของหัวเว่ยในเมืองโจฮันเนสเบิร์ก ประเทศแอฟริกาใต้ โดยทั้งสองบริษัทได้ประกาศจัดตั้ง Joint Innovation Center ณ OpenLab เพื่อร่วมกันพัฒนานวัตกรรมโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ

          ฌอน มาริตซ์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายสารสนเทศของ Eskom กล่าวว่า "วิสัยทัศน์ปี 2030 ของ Eskom คือการใช้โครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะและเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพการดำเนินงานรวมถึงแนวทางที่ปลอดภัยและวางใจได้ในการให้บริการไฟฟ้า หัวเว่ยคือผู้ที่มีบทบาทสำคัญในด้านโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ และเราเชื่อว่าความร่วมมือของเราจะผลักดันนวัตกรรมให้ก้าวหน้าเพื่อรับมือความท้าทายด้านพลังงานในอนาคต"

          บริการที่สะดวกสบาย ปลอดภัย และคุ้มค่า ผ่านระบบคลาวด์อุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้า

          เพื่อเป็นการส่งเสริมบริษัทพลังงานไฟฟ้าในแอฟริกาใต้ให้สามารถพลิกโฉมธุรกิจไปสู่ระบบดิจิทัลได้เร็วยิ่งขึ้น หัวเว่ยจึงได้จับมือกับ T-systems South Africa เปิดตัวโซลูชั่น Electric Power Industry Cloud เพื่อนำเสนอบริการคลาวด์แบบออนดีมานด์ โซลูชั่นนี้ถือเป็นส่วนขยายของ Open Telekom Cloud และนำเสนอในรูปแบบใช้เท่าไหร่จ่ายเท่านั้น ซึ่งช่วยให้องค์กรลดระดับการใช้งานบริการดิจิทัลลงอย่างมาก

          จิเทน ลาลา จาก T-systems เปิดเผยว่า "T-systems มุ่งนำเสนอบริการคลาวด์ที่เรียบง่ายและปลอดภัยในราคาย่อมเยา เพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถพลิกโฉมธุรกิจและประสบความสำเร็จ โซลูชั่น Electric Power Industry Cloud จะนำประสบการณ์ใหม่ๆในด้านนวัตกรรมมาสู่ตลาดพลังงานไฟฟ้าในประเทศ และช่วยให้ลูกค้าสามารถรับมือกับความท้าทายที่มักพบเมื่อใช้บริการดิจิทัลใหม่ๆ เช่น การลงทุนที่ไม่เพียงพอ รวมถึงการขาดทักษะฝีมือและโครงสร้างพื้นฐานไอซีที นอกจากนี้ยังช่วยให้ลูกค้าหมดความกังวลเรื่องแผนธุรกิจและสามารถใช้งานบริการดิจิทัลได้ในราคาย่อมเยา"

          แนวทางปฏิบัติระดับโลกที่หลากหลาย

          บริษัทจ่ายไฟฟ้าหลายแห่งในประเทศไนจีเรียประสบความสำเร็จในการใช้งานโซลูชั่น Intelligent Meter Reading ของหัวเว่ย ที่มอบบริการสนับสนุนทางเทคนิคที่เชื่อถือได้เพื่อรองรับการอนุรักษ์พลังงานและการจัดการอัจฉริยะ แอนโธนี ยูดีโอเว ซีอีโอของ IKEJA Electric ซึ่งเป็นบริษัทจ่ายพลังงานไฟฟ้ารายใหญ่ที่สุดในไนจีเรีย กล่าวว่า "เราไม่ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินงานและการจัดการให้ดีขึ้นเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยส่งเสริมการพัฒนาอุตสาหกรรมพลังงานไฟฟ้าไนจีเรียในแนวทางอัจฉริยะ พร้อมกับยกระดับขีดความสามารถในระดับสากลด้วย"


No comments:

Post a Comment