พื้นที่เพาะปลูกต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรียของ Asia Plantation Capital ในประเทศไทย
ภาพตัดขวางแสดงการติดเชื้อของต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรีย
เจอราร์ด แม็คเกิร์ค ผู้อำนวยการ Asia Plantation Capital Hong Kong ขณะให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอัลจาซีรา
น้ำมันกฤษณาเป็นองค์ประกอบสำคัญของพิธีกรรมทางศาสนาและวัฒนธรรมของผู้คนหลายล้านคน นอกจากนั้นยังมีชื่อเสียงในเรื่องของสรรพคุณทางยา กลิ่นหอมอันโดดเด่น และคุณสมบัติที่ช่วยสร้างความสงบให้กับจิตใจ ด้วยเหตุนี้ น้ำมันกฤษณาจึงเป็นส่วนผสมที่มีความต้องการสูงเกินศักยภาพที่จะผลิตได้ จนเป็นเหตุให้เกิดการค้าไม้กฤษณาผิดกฎหมายในตลาดมืด
Asia Plantation Capital เจ้าของพื้นที่เพาะปลูกที่มีการดำเนินงานอย่างยั่งยืนเป็นอันดับต้นๆของโลก ได้ทำการเพาะปลูกต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรีย (ต้นกำเนิดของน้ำมันกฤษณา) และช่วยให้พันธุ์ไม้ชนิดนี้รอดพ้นจากการสูญพันธุ์ โดยบริษัทได้ทุ่มเงินลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในการวิจัยและพัฒนา ก่อเกิดเป็นเทคโนโลยีกรรมสิทธิ์ของบริษัทที่ช่วยนำต้นกฤษณากลับคืนสู่ถิ่นกำเนิดตามธรรมชาติ พร้อมพัฒนารูปแบบการดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณและมีความยั่งยืน
สำหรับภาพยนตร์สารคดีนั้น นายอาลี โมฮัมเหม็ด อัล-วูซาอิน จากสำนักข่าวอัลจาซีรา จะนำผู้ชมเดินทางสำรวจส่วนผสมที่เขาให้นิยามว่ามี "สีเข้ม" และ "งดงาม" พร้อมหวนระลึกถึงความทรงจำในวัยเด็กที่เขาเคยสัมผัสกับไม้กฤษณา นอกจากนั้นยังนำผู้ชมเจาะลึกถึงการค้าไม้กฤษณาที่มีความเป็นมายาวนานหลายพันปี ทว่าปัจจุบันกำลังตกเป็นเป้าของความละโมบและการกระทำที่ผิดกฎหมาย
ความต้องการน้ำมันกฤษณาและผลิตภัณฑ์พลอยได้ทั้งหมดปรับตัวสูงขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ขณะที่ปริมาณน้ำมันกฤษณากลับยิ่งขาดแคลน ดังนั้นจึงจำเป็นต้องจัดการกับปัญหาดังกล่าว Asia Plantation Capital จึงมุ่งมั่นในการจัดหาน้ำมันกฤษณาจากแหล่งที่ดำเนินงานอย่างยั่งยืนและมีจรรยาบรรณ เพื่อรองรับความต้องการในตลาดที่สูงเช่นนี้
ภาพยนตร์สารคดีของนายอาลี โมฮัมเหม็ด อัล-วูซาอิน บอกเล่าสภาพในปัจจุบันของอุตสาหกรรมที่มีมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ซึ่งหลายคนมองว่าเป็นเรื่องลึกลับ โดยในฐานะที่เป็นชาวกาตาร์ ชายผู้นี้จึงมีความคุ้นเคยกับน้ำมันกฤษณาทั้งในแง่ของศาสนาและวัฒนธรรม แต่เขาก็ยอมรับว่ามีความรู้เพียงน้อยนิดในเรื่องของแหล่งที่มา ดังนั้น เขาจะแบ่งปันเรื่องราวที่ได้รับรู้มาให้ผู้ชมได้รับทราบ บนเส้นทางการค้นพบอันน่าทึ่งที่ทำให้เขาต้องเดินทางไปทั่วโลก รวมถึงการเดินทางเยี่ยมชมพื้นที่เพาะปลูกของ Asia Plantation Capital ในประเทศมาเลเซีย
Asia Plantation Capital มีพื้นที่เพาะปลูกมากกว่า 100 แห่งทั่วโลก จึงสามารถการันตีได้ว่าน้ำมันกฤษณาของบริษัทบริสุทธิ์จากธรรมชาติ 100% ทั้งยังเป็นเลิศในแง่ของคุณภาพและมีแหล่งที่มาชัดเจน เนื่องจากทางบริษัทเป็นผู้เพาะปลูกต้นกฤษณาด้วยตัวเอง บนพื้นที่เพาะปลูกที่บริษัทเป็นเจ้าของหรือเป็นผู้ดูแล ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร ที่ควรผนวกรวมเป็นส่วนหนึ่งของแนวทางการดำเนินธุรกิจในยุคใหม่
ที่สำคัญไปกว่านั้นคือ น้ำมันกฤษณาทั้งหมดของ Asia Plantation Capital ได้รับการรับรองจากองค์กรชั้นนำมากมาย รวมถึง CITES (อนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์) อันที่จริงแล้ว ต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรียได้รับการขึ้นทะเบียนพรรณไม้ใกล้สูญพันธุ์ของ CITES มาตั้งแต่ช่วงปลายศตวรรษที่ 20 แต่ต้องขอบคุณ Asia Plantation Capital ที่ช่วยให้ต้นกฤษณาพันธุ์นี้กลับมาเจริญงอกงามอีกครั้ง บนพื้นที่เพาะปลูกที่มีการควบคุมดูแลและปกป้องโดยผู้เชี่ยวชาญ
Asia Plantation Capital เป็นบริษัทมากรางวัลการันตีคุณภาพ และเป็นเจ้าของหลักการดำเนินธุรกิจแบบ "Soil to Oil to You" โดยบริษัทเป็นผู้ผลิตน้ำมันกฤษณาอันล้ำค่าป้อนให้กับแบรนด์น้ำหอมฝรั่งเศสอย่าง Fragrance Du Bois เช่นเดียวกับผู้บริโภคในอุตสาหกรรมอื่นๆ
ผลงานน้ำหอมของ Fragrance Du Bois ได้กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในวงการน้ำหอม ขณะที่แฟลกชิปบูติกของแบรนด์ในสิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ และกรุงเทพฯ ก็ได้รับความสนใจเป็นอย่างดีเช่นกัน นอกจากนี้ Fragrance Du Bois ยังได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์อันล้ำเลิศของแบรนด์เป็นครั้งแรกในกรุงปารีสเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2559 และวางจำหน่ายอย่างถาวรในเมืองหลวงแห่งน้ำหอมชั้นสูงนี้ หัวใจหลักของโมเดลธุรกิจของ Asia Plantation Capital อยู่ที่ความร่วมมือและดำเนินงานร่วมกับเหล่าพันธมิตรจากนานาประเทศ เพื่อคว้าตลาดผู้บริโภคและช่องทางการจัดจำหน่ายน้ำมันกฤษณาที่บริษัทเป็นผู้ผลิต ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ถือหุ้นของบริษัทได้รับผลตอบแทนสูงสุด และบริษัทก็ได้รับเงินทุนเพื่อต่อยอดการลงทุนต่อไป
ขณะเดียวกัน ซาราห์ คลาร์ค ผู้สื่อข่าวจากสำนักข่าวอัลจาซีรา ได้ทำสกู๊ปข่าวเกี่ยวกับวิกฤติต้นกฤษณาพันธุ์เอควิลาเรียในฮ่องกง โดยได้รายงานถึงการตัดไม้อย่างผิดกฎหมายในแหล่งไม้กฤษณาที่เหลืออยู่เพียงไม่กี่แห่งในฮ่องกง
ผู้ลักลอบตัดไม้ผิดกฎหมายได้กระหน่ำตัดต้นกฤษณาที่เหลืออยู่น้อยนิดอย่างไม่ยั้งคิด ส่งผลให้พรรณไม้อันล้ำค่านี้ต้องได้รับการคุ้มครองอย่างแน่นหนายิ่งขึ้น แต่โชคยังดีที่ทาง Asia Plantation Capital ได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลืออีกครั้ง ด้วยความมุ่งมั่นในการอนุรักษ์พรรณไม้ดังกล่าว จนสามารถปกป้องดูแลพรรณไม้ที่เคยทำให้ฮ่องกงได้รับการขนานนามว่าเป็น "ท่าเรือแห่งกลิ่นหอม" ได้ในที่สุด
อุตสาหกรรมนี้มีความสัมพันธ์กับผู้คนหลากหลายวัฒนธรรมทั่วโลก แต่น่าเสียดายอย่างยิ่งที่มีผู้รู้จริงเพียงน้อยนิด ดังนั้นจึงเป็นเรื่องน่ายินดีที่สำนักข่าวอัลจาซีรามีความมุ่งมั่นในการให้ความรู้เรื่องของส่วนผสมที่หายากและมีความพิเศษเป็นอันดับต้นๆของโลก เช่นเดียวกับที่ Asia Plantation Capital มีความมุ่งมั่นที่จะดำเนินธุรกิจอย่างมีจรรยาบรรณและยั่งยืน เพื่อให้น้ำมันกฤษณาดำรงอยู่ต่อไปชั่วลูกหลาน
รับชมวิดีโอจากสำนักข่าวอัลจาซีราได้ที่
Scent From Heaven [https://www.youtube.com/watch?v=jv69pYSm2oo]
Hong Kong conservationists push to save agarwood [https://www.youtube.com/watch?v=-KnSraroGvU]
หมายเหตุถึงบรรณาธิการ:
สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ:
ซาอาฮิรา มูฮัมหมัด
ผู้บริหารอาวุโสฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
อีเมล: zaahira@asiaplantationcapital.com
สำนักงาน: +60 122 035 344
ซาแมนธา ธาม
ผู้บริหารฝ่ายประชาสัมพันธ์และการตลาด
อีเมล: samantha.tham@asiaplantationcapital.com
มือถือ: +65 9144 0933
เกี่ยวกับ Asia Plantation Capital
Asia Plantation Capital Group เป็นผู้ควบคุมดูแลและบริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกอย่างยั่งยืนพร้อมรางวัลการันตีคุณภาพมากมาย โดยมีโครงการกระจายตัวอยู่ใน 4 ทวีป ทั้งในไทย มาเลเซีย จีน ลาว อินเดีย กัมพูชา ศรีลังกา เวียดนาม อเมริกาเหนือ แอฟริกา รวมถึงยุโรป และมีพนักงานกว่า 2,000 คนทั่วโลก
บริษัทมุ่งดำเนินโครงการเพาะปลูกเชิงพาณิชย์และธุรกิจบูรณาการแบบแนวดิ่ง ซึ่งเป็นประโยชน์ทั้งในเชิงการค้า สิ่งแวดล้อม และชุมชน จนส่งผลให้บริษัทเป็นผู้ผลิตน้ำมันกฤษณา ไม้กฤษณา และไม้ไผ่ที่ใหญ่ที่สุดรายหนึ่งในปัจจุบัน นอกจากนี้ การเปิดโรงงานแปรรูปไม้กฤษณาที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่นเดียวกับการเปิดสำนักงานแห่งใหม่ที่เมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ช่วยพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบริษัท
บริษัทมีคณะกรรมการที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม อันประกอบด้วยนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญชั้นนำจากนานาประเทศ (จีน ไทย มาเลเซีย อินเดีย สวิตเซอร์แลนด์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์) ซึ่งได้ร่วมกันพัฒนาและจดสิทธิบัตรระบบและเทคโนโลยีชั้นนำของอุตสาหกรรม
เกี่ยวกับ Fragrance Du Bois
Fragrance Du Bois เป็นแบรนด์น้ำหอมสุดหรูที่มีลูกค้าเฉพาะกลุ่ม โดยถือกำเนิดขึ้นจากแก่นแท้ของธรรมชาติและรังสรรค์โดยเหล่านักผสมน้ำหอมรุ่นที่ห้า ผู้สานต่อการผลิตน้ำหอมแบบฉบับเมืองกราสส์ของฝรั่งเศสที่สืบทอดมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 17 น้ำหอมทั้งหมดของ Fragrance Du Bois ผลิตขึ้นจากน้ำมันกฤษณาบริสุทธิ์จากธรรมชาติ 100% รวมถึงส่วนผสมอื่นๆที่มีความยั่งยืนจากพื้นที่เพาะปลูกภายใต้การควบคุมดูแลของบริษัทเจ้าของรางวัลการันตีคุณภาพอย่าง Asia Plantation Capital
ปัจจุบัน Fragrance Du Bois มีวางจำหน่ายในปารีส สิงคโปร์ กัวลาลัมเปอร์ กรุงเทพฯ ดูไบ และมีแผนขยายธุรกิจไปยังโดฮา เจนีวา และลอนดอนในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
รูปภาพ 1 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160321/8521601824-a
รูปภาพ 2 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160321/8521601824-b
รูปภาพ 3 - http://photos.prnasia.com/prnh/20160321/8521601824-c
No comments:
Post a Comment