ลาบอรี เมดิคัล เทคโนโลยีส์ (Laborie Medical Technologies หรือ "LABORIE") ในเมืองโทรอนโต ประเทศแคนาดา ได้เสร็จสิ้นการลงทุนในบริษัทเมดิ-เทต จำกัด (Medi-Tate Ltd.) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองอากิวา ประเทศอิสราเอลแล้ว โดยเมดิ-เทต เป็นบริษัทเครื่องมือแพทย์ที่มุ่งเน้นไปที่การวิจัย พัฒนา ผลิตและจำหน่ายโซลูชั่นล้ำสมัยสำหรับการรักษาผู้ป่วยโรคต่อมลูกหมากโต (BPH)
การลงทุนของลาบอรีในบริษัทเมดิ-เทต จะช่วยสานต่อจุดมุ่งหมายของบริษัทในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่เป็นนวัตกรรมเพื่อให้การสนับสนุนลูกค้าในกลุ่มโรคระบบทางเดินปัสสาวะและระบบทางเดินอาหาร
เมดิ-เทต ได้พัฒนาวิธีการรักษาแบบบาดแผลเล็กที่เรียกว่า iTind เพื่อรักษาอาการต่อมลูกหมากโตในผู้ชาย แทนการรักษาด้วยยาหรือการผ่าตัด ขั้นตอน iTind นี้จะใช้เวลา 5 วันในการขยายท่อปัสสาวะที่ผ่านต่อมลูกหมาก (Prostatic urethra) และสร้างช่องทางเทียมสำหรับการไหลของปัสสาวะ โดยไม่ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้ยาและการผ่าตัด ปัจจุบัน ระบบ iTind สำหรับรักษาโรคต่อมลูกหมากโตมีจำหน่ายเฉพาะในสหภาพยุโรปและแคนาดา ขณะที่ iTind เป็นอุปกรณ์วินิจฉัยโรคที่กฎหมายของรัฐบาลกลางสหรัฐกำหนดให้ใช้เพื่อการวินิจฉัยโรคเท่านั้นในประเทศสหรัฐอเมริกา
"นี่เป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่สำคัญมากของลาบอรี" นายไบรอัน เอลลาคอต ประธานและซีอีโอของลาบอรี กล่าว "นวัตกรรมเทคโนโลยีในการรักษาโรคต่อมลูกหมากโตของเมดิ-เทต จะเอาชนะความกังวลของผู้ป่วยที่ต้องเผชิญความทุกข์ทรมานจากโรคต่อมลูกหมากโต ซึ่งทางเลือกในการรักษาที่มีอยู่ส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ยาหรือการผ่าตัด ต่างมีความเสี่ยงที่จะทำลายการทำงานของต่อมลูกหมากซึ่งจะส่งผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศได้"
นายไอโด ไคเลมนิก ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของเมดิ-เทต กล่าวว่า "เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นหุ้นส่วนกับลาบอรี การรวมเทคโนโลยี iTind ของเรา เข้ากับความเชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินปัสสาวะและการมีธุรกิจอยู่ทั่วโลกของลาบอรี จะเปิดทางให้เราสามารถทำตลาด iTind ได้โดยเร็ว เพื่อช่วยแก้ปัญหาให้กับชายสูงอายุมากกว่า 500 ล้านคนที่ได้รับผลกระทบจากโรคต่อมลูกหมากโต"
เกี่ยวกับลาบอรี
ลาบอรี เป็นบริษัทระดับโลกผู้พัฒนา ผลิต และจำหน่ายเทคโนโลยีการแพทย์ที่ล้ำสมัยและวัสดุสิ้นเปลือง สำหรับการวินิจฉัยและรักษาโรคระบบทางเดินปัสสาวะและระบบทางเดินอาหาร รวมถึงความผิดปกติของอุ้งเชิงกราน ทั้งนี้ ลาบอรี เป็นบริษัทที่ได้รับเงินลงทุนจาก ออแด็กซ์ ไพรเวท อีควิตี้ (Audax Private Equity)
No comments:
Post a Comment