Monday, July 4, 2016

HIMSS Asia Pacific เผยการพลิกโฉมวงการแพทย์ระดับภูมิภาคเริ่มต้นจากความก้าวหน้าในระดับประเทศ


        โรงพยาบาลกรุงเทพ ได้รับการรับรองมาตรฐาน HIMSS Analytics EMRAM Stage 6 ขึ้นแท่นโรงพยาบาลแห่งที่สองของประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานระดับสูงในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อระบบสุขภาพเพื่อยกระดับบริการดูแลผู้ป่วย ความสำเร็จดังกล่าวมีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ไม่นาน โรงพยาบาลปากน้ำโพ จ.นครสวรรค์ ได้ก้าวขึ้นเป็นโรงพยาบาลแห่งแรกของไทย ที่ได้รับมาตรฐานเดียวกันนี้เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา
          การพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อระบบสุขภาพ (HIT) ของไทยนั้นไม่สอดคล้องกันเท่าไรนัก โดยถึงแม้มีภาคเอกชนเป็นผู้กรุยทาง แต่เครือโรงพยาบาลรายใหญ่ก็ยังคงเผชิญกับความท้าทายอย่างต่อเนื่อง เมื่อต้องมีการใช้โซลูชั่นข้ามแผนกและทั่วทั้งเครือโรงพยาบาล เนื่องด้วยปัจจัยทางการเมือง ต้นทุน และการวางแผนเชิงกลยุทธ์ นอกจากนี้ เครือโรงพยาบาลที่มีขนาดใหญ่กว่ายังมีความแตกต่างกันในแง่ของผู้นำและจุดประสงค์ในการดำเนินงาน ส่งผลให้การประสานงานและการตกลงในการเลือกผู้ให้บริการโซลูชั่นและโซลูชั่นที่ดีที่สุดนั้นเป็นไปได้ยาก
          ทว่าในความมืดมนยังมีแสงสว่าง โดยในการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตลาด HIT ในไทยนั้น พบว่ามีปัจจัยหนึ่งที่สำคัญยิ่ง ได้แก่ ผู้ที่ประสบความสำเร็จในระดับประเทศ คุณไชมอน หลิน ผู้อำนวยการบริหารของ HIMSS Asia Pacific กล่าวว่า "ตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา HIMSS ได้ร่วมมือกับองค์กรบริการสุขภาพรายใหญ่หลายแห่ง และได้พบว่า แม้ขณะนี้ยังคงมีความท้าทายปรากฏให้เห็นอยู่มาก แต่บุคลากรยังคงถือเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักเบื้องหลังโครงการเหล่านี้ ยกตัวอย่างเช่นในประเทศไทย ซึ่งมีผู้ประสบความสำเร็จด้าน HIT คอยผลักดันขีดจำกัด พร้อมขับเคลื่อนนวัตกรรมและการใช้ HIT แท้จริงแล้ว วันนี้เรามองเห็นบุคลากรเหล่านี้ที่มีพันธกิจเดียวกันกับ HIMSS ในการกำหนดอนาคตให้กับวงการบริการสุขภาพของไทย"
          นพ.สมศักดิ์ หวานกิจเจริญ CIO ของโรงพยาบาลกรุงเทพ และบุคคลสำคัญเบื้องหลังการได้รับมาตรฐาน EMRAM Stage 6 เป็นบุคคลหนึ่งที่เรียกได้ว่าประสบความสำเร็จด้าน HIT ของไทย โดยเขากล่าวว่า "เรามีเป้าหมายที่จะพลิกโฉมบริการสุขภาพ ด้วยการก้าวขึ้นเป็นโรงพยาบาลชั้นนำที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล HIMSS Analytics EMRAM ได้กลายเป็นแผนแม่บทที่เราใช้ในการบรรลุเป้าหมายนี้ เพื่อยกระดับบริการทางคลินิกของโรงพยาบาลให้เทียบชั้นมาตรฐานโลก" นพ.สมศักดิ์ เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคมะเร็งศีรษะและลำคอ ทั้งยังได้สั่งสมความรู้ความเชี่ยวชาญด้าน HIT ด้วยตนเอง และสนับสนุนให้มีการใช้เทคโนโลยี  HIT มาตั้งแต่ช่วงกลางทศวรรษ 90 ทั้งในชีวิตส่วนตัวและอาชีพการงาน
          ด้านนพ.นรินทร สุรสินธน ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และผู้แทนฝ่ายโซเชียลมีเดียประจำการประชุม HIMSS AsiaPac16 ยังได้แสดงให้เห็นถึงบทบาทของโซเชียลมีเดียในฐานะที่เป็นเครื่องมือสำหรับแพทย์ในการให้ความรู้ นพ.นรินทร เป็นที่ชื่นชอบและรู้จักในชื่อ "หมอหมี" จากการให้คำปรึกษาด้านสุขภาพทางทวิตเตอร์ โดยมียอดผู้ติดตามเกือบ 400,000 คน นพ.นรินทร กล่าวว่า "ที่โรงพยาบาลสมิติเวช เราอุทิศตนให้กับการพัฒนาคุณภาพบริการและขยายบริการสู่ภายนอกอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การที่ผมเป็นทั้งชาวโซเชียลและแพทย์นั้น ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่ผู้ป่วยและโรงพยาบาล"
          ไม่นานมานี้ที่ประเทศนิวซีแลนด์ HIMSS ได้ลงนามในข้อตกลง Association Affiliate ฉบับแรกกับ Health Informatics New Zealand (HiNZ) เพื่อเปิดบทใหม่แห่งการพัฒนา HIT โดยคุณคิม มุนดัลล์ ประธานบริหารของ HiNZ กล่าวว่า "แวดวงการแพทย์ดิจิทัลของนิวซีแลนด์ขยายตัวอย่างรวดเร็วและคึกคัก โดยเราเล็งเห็นว่า การร่วมมือระหว่าง HiNZ กับ HIMSS เป็นอีกหนึ่งก้าวสำคัญในการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเครือข่ายสมาชิกและกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ดิจิทัลทั่วโลก"
          การพลิกโฉมในระดับภูมิภาคนั้นจำเป็นต้องใช้เวลา แต่ด้วยการจัดกิจกรรมส่งเสริมการมีส่วนร่วม เช่น การจัดโรดโชว์ทั่วภูมิภาค การเปิดตัวประชาคม HIMSS Asia Pacific ที่กำลังจะมีขึ้นเร็วๆนี้ เช่นเดียวกับการประชุม HIMSS AsiaPac16 ที่กรุงเทพฯ ในเดือนสิงหาคมนี้ จะทำให้ HIMSS Asia Pacific เดินหน้าสนับสนุนผู้ประสบความสำเร็จด้าน HIT รวมถึงผู้ใช้เทคโนโลยี และการหารือแลกเปลี่ยนความรู้ เพื่อยกระดับการดูแลสุขภาพในอนาคตข้างหน้า
          สำหรับการเยี่ยมชมโรงพยาบาลกรุงเทพ โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท และโรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ สามารถลงทะเบียนได้ทาง  HIMSS AsiaPac16 เพียงที่เดียวเท่านั้น โดยจะปิดรับลงทะเบียนล่วงหน้าวันที่ 22 กรกฎาคมนี้

No comments:

Post a Comment